เมื่อเลิกเรียนและเขียนรายงานลง Blog แล้ว อาจารย์อุทัย อันพิมพ์ ได้ชวนพวกเราไปทานอาหารที่บ้านซึ่งเมนูที่นำเสนอก็คือ"ซี้นดาด"พอดีมีพี่นักศึกษาแลกเปลี่ยนมาจากประเทศลาวเขาเสนอเมนูมา แปลเป็นไทยว่า "เนื้อย่างเกาหลี" พิไลได้ยินตกใจมากอะไรมันจะน่ากลัวป่านนั้น แต่พี่เขาบอกว่าเป็นคำพูดปกติที่พูดกันในประเทศลาวยังมีอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจคือ "วัวจี่" แต่เมนูนี้ขอเรียนจบก่อนถึงจะได้ไปกินที่ประเทศลาว แต่ตอนนี้ขอกิน"ซี้นดาด" รอไปก่อนแล้วกัน ไลยังนึกอยู่ในใจเลยว่าแต่ละคนซึ่งอยู่ห่างไกลกันยังมาเจอกันได้อย่างไรถ้าไม่เป็นเพราะบุญพาวาสนาส่ง หรือทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อนก็คงไม่ได้มาเจอกัน ทุกวันนี้ทั้งเรื่องการเรียน และการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยเป็นไปด้วยความเห็นอกเห็นใจและเกื้อกูลซึ่งกันและกันมากโดยเฉพาะเรื่องเรียนภาษาอังกฤษซึ่งพี่ๆที่มาจากประเทศลาวจะเก่งภาษาอังกฤษมากจะช่วยพวกเราได้มาก ถ้าเปรียบพวกเราเป็นคำพูดของพ่อครูบาสุทธินันท์ก็จะบอกว่า"พวกดื้อตาใส" เพราะพวกเราที่มาเรียนทั้งป.โท-เอก ไม่ค่อยจะถนัดภาษาอังกฤษสักเท่าไรนัก ถ้ามีผู้ใจบุญมาอ่านพบก็ขอความกรุณาในเรื่องของการเรียนภาษาอังกฤษอย่างไรให้อ่านออกเขียนได้ก็ช่วย"พวกดื้อตาใส"อย่างพวกเราก็แล้วกัน
เรียนภาษาอังกฤษให้ได้ดี ต้องกล้าค่ะ กล้าพูด กล้าฟังคำแนะนำ ไม่อายครู ไม่อายเพื่อน ส่วนมากคนไทยจะอายเพื่อน ใช้ dictionary ให้มากๆ คำไหนไม่แน่ใจให้เช็คจาก dictionary ได้เลย (พิไลยังพิมพ์ผิดหลายคำนะคะ) เพราะหากเราออกเสียงผิด เราจะเขียนผิด และที่เราพูดกันอยู่ส่วนใหญ่มักจะออกเสียงผิด และคนไทยไม่ค่อยมี ending sound
เทคนิคส่วนตัวที่ใช้คือ พูดช้าได้ แต่ต้องชัด ไม่จำเป็นต้องลิ้นรัวเหมือนเจ้าของภาษา ไม่จำเป็นต้องออกเสียงขึ้นๆ ลงๆ ตรงตำแหน่งเดียวกับเจ้าของภาษา แต่ให้พูดออกมาโดยธรรมชาติของเราเอง
ลองดูนะคะ