26. คำสอนของพ่อ (ตอนจบ)


การดำเนินชีวิตในแต่วันของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ทำอย่างไรให้ชีวิตปลอดภัยสูงสุด

        จากบันทึกที่แล้วที่ดิฉันเล่าถึงคำสอนของพ่อที่สอนลูกๆ  ในรูปแบบสอนตรงๆ  สอนโดยอ้อมหรือทำให้ดูเป็นตัวอย่าง  ในบันทึกนี้จะเล่าถึงเรื่องที่พ่อสอนลูกๆ          ในการดำเนินชีวิตเกี่ยวกับการดูแลตนเองให้ปลอดภัยและความประหยัด  เชิญติดตามค่ะ

คำสอนเรื่องการดูแลตนเองให้ปลอดภัย

        ในสมัยเด็กครอบครัวอยู่ในชนบทซึ่งสมัยนั้นโจรประเภทไอ้เสือ  มีเยอะมาก สามารถมาทุบประตูปล้นได้โดยไม่มีใครช่วยเหลือ   ครอบครัวของเราอยู่ได้โดยผ่านเหตุการณ์ที่ไม่ถูกปล้นมาได้ด้วยกุศโลบายของพ่อคือ  พ่อทำป้ายกระดานดำติดไว้ในห้องโถง (ประมาณห้องรับแขก)ที่ใครผ่านไปมาแล้วมองเห็น ที่ป้ายกระดานขึ้นป้ายไว้ว่า

       ค้างค่าข้าวสาร (นางจัน)     40   บาท     ค้างค่าหมู    15   บาท

        เพื่อให้สมเหตุสมผล  พ่อก็ไปค้างเขาจริงๆ   สมัยเด็กพวกเรารู้สึกอายมากว่าทำไมถึงไปค้างเขาและขึ้นป้ายประจานไว้หน้าบ้านด้วย....พ่อตอบคำถามลูกๆ เมื่อลูกๆ  โตขึ้นว่าถ้าพ่อไม่ไปค้างเขาและเขียนติดป้ายไว้ให้คนได้เห็นทั่วกัน  เขาจะได้รู้ว่าขนาดอาหารที่กินในแต่ละวันเรายังต้องค้างเลย  โจรจะได้ไม่ปล้นบ้านเรา  เพราะไม่รู้ว่าคนไหนคือโจรในเวลากลางคืน  เพราะกลางวันเราก็อาจจะนั่งคุยกับโจรอยู่ก็ได้  พ่อบอกว่าพ่อทำงานกินเงินเดือนในสมัยนั้นมากกว่าครูที่มีวุฒิอีก ขณะที่ชาวบ้านยากจนมากๆ   ถ้าพ่อไม่ทำอย่างนี้พ่อก็คุ้มครองครอบครัวไม่ได้  เมื่อจบคำถามลูกๆ   พ่อก็สอนต่อในเรื่องการครองตนให้ปลอดภัย  เช่น

  • การไม่โอ้อวดเรื่องทรัพย์สินเงินทองที่มี  ไม่ใส่สร้อยเส้นโต  (พวกเราทำตามพ่อไม่ได้...อิ...อิ)
  • เมื่ออยู่บ้านถ้าจะนอนพักผ่อนในเวลากลางวัน  ต้องปิดประตูหน้าต่างก่อนนอน  (อันนี้ปฏิบัติได้...สร้างกำแพงบ้านซะสูง...ปิดประตูรั้วบ้านตลอด...อิ...อิ)
  • ถ้าจะทิ้งบ้านไปค้างคืนที่ไหน   ห้ามบอกเล่าชาวบ้านให้รับรู้  ให้ไปเงียบๆ  (ข้อนี้ลูกทุกคนปฏิบัติได้)
  • ห้ามคบคนชั่วเป็นมิตรแล้วพาเข้าบ้าน   ให้พูดคุยได้เพียงผิวเผินตามมารยาทสังคม  เพราะพ่อบอกว่าคนชั่วเมื่อเข้ามา มันจะดูทำเล กลอนประตู หน้าต่าง  ถึงมันไม่ทำเองก็เป็นสายให้คนอื่นทำ (ข้อนี้พ่อสอนเมื่อบ้านของแม่ถูกโจรปล้นโดยโจรคือคนชั่วที่แม่คบค้าด้วย)

คำสอนเรื่องการประหยัด

      นอกจากสอนเรื่องการครองตนให้ปลอดภัยแล้ว   พ่อก็สอนเรื่องการประหยัด เช่น 

  •  สมัยที่ไปโรงเรียนในชั้น  ป.1  กลับจากโรงเรียนพ่อให้ลูกๆ เล่าให้ฟังว่า วันนี้ที่โรงเรียนลูกทานอะไรบ้าง  ราคาเท่าไร   พวกเราเล่าว่า ซื้อสลาก  กับน้ำแข็งบอก (ประเภทที่ไม้เสียบน้ำแข็งมีสีแดงทา  ได้เพิ่มอีก 1 อัน)   พ่อถามพวกเราว่าที่โรงเรียนมีอะไรขายบ้าง  พวกเราก็บอกว่า มีข้าว  ราคาจานละ  25  สตางต์  หัวมันต้ม(เสียบ)  25 สตางค์  ถั่วลิสงต้ม  1 กระทง  25 สตางค์  น้ำแข็งบอก ไม้ละ 25  สตางค์   พ่อถามว่าถ้าเราจะกินให้อิ่มตลอดวัน  ลูกๆ  จะเลือกกินอะไร (พ่อให้ค่าขนมคนละ 50 สตางค์)  ดิฉันตอบพ่อว่า...กินข้าวกับหัวมันต้ม....เวลาผ่านไปหลายปี เมื่อเห็นหัวมันต้มครั้งไหนคิดถึงพ่อทุกครั้ง
  • พ่อสอนเรื่องการดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้ประหยัด  เช่น  ถ้าจะไปธุระในตัวเมือง   ระยะทาง  11  กิโลเมตร  ในตอนเช้าเราต้องวางแผนคิดไว้ก่อนว่าจะไปช่วงเวลาไหน (รถติดหรือไม่)  เส้นทางสายไหนจะใกล้ที่สุด (ไปได้หลายเส้นทาง) จะไปธุระที่ไหนบ้าง...ควรไปที่ไหนให้ลำดับก่อนหลังไว้ให้เสร็จก่อนออกเดินทาง....หรือถ้าธุระที่ไปนั้นแค่ 1 เรื่อง  แต่ยังรอได้ (ไม่ด่วน)  ค่อยไปเมื่อมีธุระที่รวมแล้วหลายเรื่อง จะได้ทั้งประหยัดเงิน (ค่ารถ)  ประหยัดเวลา

       คำสอนของพ่อซึ่งถือว่าเป็นครูคนแรกและคุณครูตลอดกาลสำหรับดิฉัน ทั้งจากเรื่องที่พ่อสอนด้วยคำถาม การปฏิบัติจริง แม้กระทั่งคำสั่ง  ดิฉันสรุปเป็นขุมความรู้ได้ดังนี้

       1. วิธีการดูแลทรัพย์สิน

       2. การดูแล ครองตนให้ปลอดภัย

       3. วิธีการคบมิตร

       4. วิธีการประหยัด

       5. การบริหารเวลาและการบริหารเงิน

       6. การบริหารชีวิตในแต่ละวัน (กลยุทธ์การดำเนินชีวิต)

       7. การเลือกซื้ออาหาร     

         

 

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องทั่วไป
หมายเลขบันทึก: 355518เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2010 11:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้าจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (46)

สวัสดีค่ะ

โชคดีที่วันนี้ได้มาพบบันทึกที่รออ่านต่อจากบันทึกที่แล้วค่ะ

คุณพ่อคุณปริมปรางท่านละเอียดละออและมีความแยบคายในการคิด การสอนมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ นะคะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ คุณคนไม่มีราก

  • ยินดีค่ะที่คนไม่มีรากมาเปิดประธานการเม้นท์ค่ะ
  • พ่อเป็นคนละเอียด รอบคอบ มีวิสัยทัศน์มากๆ  รักลูก รักครอบครัว  แต่น่าเสียใจที่ท่านจากไป 22 ปีแล้ว  เหลือไว้แต่คำสอนให้ลูกๆ ได้อาวรณ์ค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีครับครูปริม

อาชีพโจรในอดีตมีจรรยาบรรณโจร หลายข้อ และหนึ่งในนั้นถ้าปล้นบ้านใครก็จะบอกชื่อโจรให้เจ้าของบ้านทราบว่า โจรก๊กไหนกลุ่มใหนปล้น

เช่น หัวหน้าโจรประกาสว่า"ถีบตูเสือ วอญ่าปล้น ประมาณนี้ครับ

มึเรื่องโจ๊กสัจจะโจร เอาไว้เล่าให้ฟังเดือนตุลา อย่าลืมทวงครับ

สวัสดีค่ะ คุณวอญ่า

  • โจรสมัยก่อนมีจรรยาบรรณว่าหลบฝนบ้านไหน  กินน้ำบ้านไหนแล้วไม่ปล้น...ใช้ไหมค่ะ
  • บ้านใกล้ (ที่ดินติดกัน)  ถูกปล้นในสมัยเด็กๆ เสียงโจรทุบ ตุ๊บตับๆ เสียงร้องของเจ้าของบ้านโหยหวนเชียวค่ะ...พ่อสั่งทุกคนหมอบกับพื้น...พ่อปีนขึ้นไปบนช่องหลังคา...โจรมายืนเฝ้าหน้าบ้านครูปริมปรางด้วย (พ่อเป็นทหารเกณฑ์เก่า)
  • ขอบคุณมากนะค่ะที่มาทักทายกันค่ะ ...พบกันเดือนตุลาค่ะ
  • มารับข้อคิดคำสอนของพ่อ
  • ท่านเก่งมากๆเลยนะคะ
  • ขอรับเอาข้อคิดมาใช้บ้างค่ะ
  • ฝากขอบคุณคุณพ่อที่มีคำสอนดีๆให้ลูก
  • รักพ่อค่ะ คิดถึงคำสอนของพ่อเหมือนกันค่ะ
  • ในภาพเป็นคุณพ่อของน้องเองค่ะ ตอนสงกรานต์ปีนี้

สวัสดีค่ะ น้อง Pikul

  • ขอบคุณที่มาทักทาย
  • พี่พยายามไปดูความเคลื่อนไหวของบันทึกน้องด้วยความห่วงใยค่ะ
  • พ่อเสียชีวิตไป 22 ปีแล้ว  แต่ลูกทุกคนยังคิดถึงและโหยหาความรักอยู่ค่ะ

สวัสดีค่ะ..พี่ปริมปราง

  • ณพ่อพี่ปริมปรงน่ารักจังค่ะ..ฉลาดมาก..
  • เรื่องจริงนะคะ..ไวพริบของผู้นำครอบครัวสมัยก่อนที่มีโจรชุกชุม
  • จำได้ว่า..เคยมาที่บ้าน..พ่อให้แม่กับลูกช่วยกันหุงหาอาหารเลี้ยง
  • การเป็นตำรวจอาสา..และความดุดันของพ่อ..บางครั้งก็ต้องแสดงน้ำใจกับโจรเหมือนกัน(กลายเป็นเพื่อน)
  • ตอนนี้แกถูกยิง(ถล่ม)ตายไปหลายปีแล้วในขณะนั้นแกก็แก่แล้วด้วย
  • เวรกรรม..รักษาสุขภาพนะคะ..

สวัสดีค่ะ น้องจำเนียรวดี

  • ขอบคุณที่มาทักทายและเล่าประสบการณ์ค่ะ

ขอบคุณนะครับพี่ปริมปราง...

คล้ายกันเลย.... ลองเข้าอ่านดูนะครับ

http://knonlafhun.blogspot.com/2010/05/blog-post_7128.html

สวัสดีค่ะ น้องราชิต สุพร

  • ขอบคุณค่ะ

มาชม

ได้มุมคิดมากมาย

เคยฟังญาติคุยเรื่องเก่า ๆ ที่ บ้าน อ.หัวไทร ว่า...นานมาแล้วตอนดึก ๆ มีใครไม่รู้มาขอกินข้าวไม่จุดไฟ...กินกันอย่างนั้นละ...และคุยกับคุณตา...เดาว่า...คบกับโจรแล้วไม่ถูกปล้นบ้าน...อิ อิ อิ.

สวัสดีค่ะ

มาอ่าน..  ชื่นชมค่ะ..  คุณพ่อของคุณครู ฉลาดรอบคอบมาก  ขอบคุณที่คุณครูแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้วยค่ะ  อิ อิ  

เรื่องของสายตา  เบื้องต้นต้องไปตรวจตาก่อน..  ขั้นแรก คุณหมอตา จะให้เจ้าหน้าที่วัดสายตา วัดการมองเห็นตามระยะ..  ถ้ามีปัญหาการมองเห็นนี้ จึงจะขยายม่านตา แล้วตรวจจอประสาทตาว่ามีแผลฉีกหรือเปล่า..  คนที่เล่นคอม มักมีปัญหาเรื่องวุ้นในลูกตาเสื่อม ซึ่งเป็นไปตามวัยด้วย  ถ้าหากว่าเป็นการเสื่อมของวุ้นในลูกตาเฉยๆ จอประสาทตาไม่ฉีก  ก็สามารถชลอโรคไม่ให้เป็นมากขึ้นได้ โดยการปรับระยะ และแว่นช่วยการมองเห็น    (เวลาบริหารการกรอกตาก็ใช้วิธีหลับตาแล้วดูด้วยจิต  อิ อิ  อันนี้ทำเอง)  แล้วคุณหมอก็จะช่วยเราเฝ้าดูอาการ อาจนัด ตรวจ 4-6เดือน/ครั้ง (ปีละ 2-3ครั้ง) ซึ่งระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน เราก็ต้องถนอมตา + สังเกตุตัวเองด้วยค่ะ  เขียนยาวเลย  อิ อิ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมนีนานันท์เสมอด้วยค่ะ  มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงเสมอนะคะ..  ()

คุณพ่อน่ารักจังค่ะ

คิดถึงคุณพ่อมั่งแล้ว..ซิคะ

คำสอนของพ่อน้อง...ทำอะไร ทำให้จริง

 

สวัสดีค่ะ อาจารย์ยูมิ

  • ขอบคุณที่เก็บแง่มุมคิดได้มากมาย

"เคยฟังญาติคุยเรื่องเก่า ๆ ที่ บ้าน อ.หัวไทร ว่า...นานมาแล้วตอนดึก ๆ มีใครไม่รู้มาขอกินข้าวไม่จุดไฟ...กินกันอย่างนั้นละ...และคุยกับคุณตา...เดาว่า...คบกับโจรแล้วไม่ถูกปล้นบ้าน..."

  • นั่นเป็นวิธีการเอาตัวรอดอีกวิธีหนึ่งของครอบครัวในสมัยก่อนค่ะ
  • ขอบคุณที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ นีนานันท์

  • ขอบคุณที่มาอ่าน.. มาชื่นชมค่ะ..
  • ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องสุขภาพตา   ใช้คอมพิวเตอร์มานานตั้งแต่ ปี 2536 จนปัจจุบันเป็นโรคตาแห้ง   ต้องใช้น้ำตาเทียมค่ะ   บางวันใช้  2  ครั้ง  ถ้าใช้คอมพิวเตอร์มากต้องใช้ถึง 3 ครั้ง/วัน  แว่นตาก็เปลี่ยนเลนส์ปีละครั้ง โดยประมาณ
  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมครูปริมปรางค่ะ  มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงเช่นกันค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ ครู ป.1

  • ขอบคุณค่ะที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้

สวัสดีค่ะพี่ปริมปราง

คุณพ่อท่านสอนลูกให้รอบรู้จริงๆค่ะ ชื่นชมมากค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องถาวร

  • ท่านเป็นคนมีวิสัยทัศน์ค่ะ (พูดภาษาทันสมัย)
  • ขอบคุณที่มาทักทายนะค่ะ...คิดถึงน้องค่ะ
  • มหา แวะมาอ่านคำสอนของพ่อ (ตอนจบ)
  • ขอให้มีความสุขกับการทำความดีเพื่อพ่อ

สวัสดีค่ะ ท่านมหา

  • ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึก
  • ตอนนี้อยู่ภาคใต้ใช่ไหมค่ะ...ขอให้อยู่ดีมีสุขค่ะ
  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาอ่านคำสอนของพ่อค่ะ เป็นลูกที่ดีต้องเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อ และแม่ ทำในสิ่งที่ดีงามเพื่อให้พ่อและแม่ภูมิใจใช่มั๊ยค่ะพี่สาว
  • บุษราได้นำภาพมาให้พี่สาวดูขำ ๆ ค่ะ

                           

 

สวัสดีค่ะ น้องบุษรา

  • ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมบันทึกและมอบภาพขำๆ ให้ตลอดมา 

             

สวัสดีค่ะ

  • แวะมาอ่านคำสอนของพ่อ
  • ล้วนแต่เป็นคำสอนที่ดี ให้แนวคิดที่ควรปฏิบัติ
  • ขอบคุณค่ะที่แวะไปฟังเพลงที่ "พื้นที่เล็ก ๆ ของคนเหงา ๆ "
  • มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ

สวัสดีค่ะ คุณอิงจันทร์

  • ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
  • ครูปริมปรางชอบบล็อกของคุณมาก...สวยงาม...ชื่นชมที่เพลงเพราะ...ชื่นชมที่เก่งเทคโนโลยี...
  • ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

สวัสดีตอนเย็นค่ะ..

นีนานันท์ จะมีนัดตรวจตา ทุก 6 เดือน  เพื่อตรวจระวังเฉยๆ  ปัจจุบันจอประสาทตา และการมองเห็นเป็นปกติ  จะใช้แว่นประจำตำแหน่งหน้าจอคอม กะระยะห่างแบบ fix ตำแหน่งเก้าอี้ไว้เลย  แบบนั่งไกลมาก เกิน 1 ช่วงแขน  อิ อิ   หน้าจอคอมก็จะมีแผ่นกระจกตัดแสงเหมือนฟิลม์กรองแสงอีกชั้นหนึ่ง  ป้องกันตัวเต็มที่ อิ อิ   จะไม่ค่อยใช้ notebook    สมัยก่อนเคยเจอเหตุการณ์เมื่อยล้าและเจ็บนิ้วมาแล้ว เวลาเราเมื่อยล้า แม้แต่มือ/แขน ก็จะรู้สึกหนัก.. ไปถึงปลายนิ้วเลย.. อิ อิ  ท่านั่งเพื่อรองรับน้ำหนักของคนเล่นคอมจึงน่าจะสำคัญ  เพราะ ไม่ว่าจะอ้วนหรือผอม ล้วนมีน้ำหนักกดทับ.. แขนของเราก็มีน้ำหนักด้วยค่ะ..   มีเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง มีอายุแล้ว นั่งเล่นคอมนาน ถึงกับก้นช้ำเลย  เมื่อเคยเห็นตัวอย่างก็เลยเปรียบเทียบกับคนไข้ที่นั่งรถเข็น หรือเคลื่อนไหวตัวเองไม่ได้ ที่ต้องทำกายภาพบำบัด  จึงทำให้เข้าใจ สามารถเล่าเรื่องได้ค่ะ  น้ำตาเทียมที่เห็นจากเพื่อน มี 2 แบบ คือแบบหลอดเล็กๆ ไม่มีสารกันบูด (แพงกว่า) และแบบขวดใช้ 1 เดือนมีสารกันบูด  และครบ 1 เดือนถ้าใช้ไม่หมด ต้องทิ้ง เวลาทิ้งบีบน้ำยาทิ้งไปก่อนทิ้งขวดนะคะ  กันคนอื่นที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์  อะไรๆ ก็อาจเกิดขึ้นได้  เคยได้ยินคุณหมอแนะนำคนไข้ว่าน้ำตาเทียมแบบหลอดเล็กๆ ที่ไม่มีสารกันบูด ต้องใช้ให้คุ้ม ดังนั้น อาจหยอดถี่ได้ ไม่ต้องตรงเวลาแป๊ะ  และถ้าต้องใช้น้ำตาเทียมคู่กับยาหยอดตาตัวอื่น  ต้องหยอดห่างกัน 10 นาทีด้วยค่ะ..  ตัวเองมีความรู้สึกว่า การหยอดน้ำตาเทียม ควรจะสังเกตุการระคายเคืองตาประกอบด้วย..  อาจไม่เหมือนไม่สบายกินยา และน้ำตาเทียมก็ไม่ใช่ยา  เพราะเป็นเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงลูกนัยน์ตา  ปกติเรามักลืมกระพริบตาเวลาอยู่หน้าคอม  นีนานันท์ก็ลืมเหมือนกัน  พอนึกได้ก็ถึงจะกระพริบค่ะ  อิ อิ     () 

สวัสดีค่ะ คุณนีน่านันท์

  • ขอบคุณที่แวะมาพูดคุยเรื่องสุขภาพอีกครั้งค่ะ
  • ครูปริมปรางใช้น้ำตาเทียมชนิดหลอดเล็กๆ ใช้หยอดเช้า-เย็น ก็หมดหลอดแล้ว (ราคาค่อนข้างแพง 20 บาท/หลอด)
  • ขอบคุณที่แนะนำวิธีการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์  นี่ถ้าเราได้คุยกันก่อนหน้านี้ครูปริมปรางคงไม่ต้องป่วยอยู่อย่างนี้  นั่งนานได้ไม่เกิน 15-20 นาที  จะมีอาการชาก้น   หมอให้ยามาทานก็ไม่หาย  แต่ถ้าไม่นั่งนานก็ปกติดีค่ะ

สวัสดีครับคุณครูปริมปรางคนสวย

ผมหายจากบ้านไปหลายวัน (งานเข้า อิ.อิ.) เห็นคุณครูไปตามที่บ้าน ก่อนโรงเรียนเปิดเทอมเลยต้องรีบแวะมา กราบคุณครูก่อนหนึ่งครั้งเพื่อแจ้งข่าวว่ากลับมาบ้านแล้วครับ แต่ขอกลับเข้าบ้านไปตอบความเห็นของหลายๆท่านก่อนแล้วจะกลับเข้าห้องเรียนวิชากตัญญูต่อคำสอนของพ่อ

คือนี้จะกลับเข้ามาเรียนครับ

  • สวัสดีค่ะ  คุณครูปริมปราง
  • มาอ่านวิธีหลอกขโมยค่ะ  วิธีนี้แยบยลดีค่ะ
  • ตอนเด็ก ๆ  เคยถูกโจรปล้นบ้านค่ะ...ขนาดจนแทบไม่มีจะกิน
    โจรยังบังอาจมาปล้น   ตื่นเต้นค่ะถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตยังดีไม่มีใครเป็น
    อะไร ?  เพียงแค่มีทองไม่กี่บาท   ขโมยมันก็ยังจะมาปล้น ?  แต่เอาไปไม่ได้ค่ะ
    แม่ถือคติ "ยอมเจ็บตัวแต่ไม่ยอมเสียทองให้ขโมย"
  • ขอบพระคุณคำสอนของพ่อที่น่าชื่นชมค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ ชาวฝนแปดแดดสี่

  • ตามไปที่บ้าน  เห็นหายไปหลายวัน...คิดว่าพันปรือเสียแล้ว
  • ขอบคุณที่มารายงานตัวค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณธรรมทิพย์ 

  • ขอบคุณค่ะที่ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
  • คุณแม่ใจเด็ดนะค่ะ  ที่ถือคติ "ยอมเจ็บตัวแต่ไม่ยอมเสียทองให้ขโมย"

มาเยี่ยมแล้วค่ะ....เดี๋ยวพี่ปริมปรางจะน้อยใจ

ว่าเราไม่มาเยี่ยม.....โอกาสหน้าคว้าใหม่แล้วค่อยไปเที่ยวค่ะ

ชื่นชมในความใจถึงจริงๆ.....ตอนนี้มาถึงปัตตานีแล้วค่ะ

ด้วยความระลึกถึงค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องภัทรานิษฐ์

  • ขอบคุณค่ะ   หายน้อยใจแล้วค่ะ
  • ปล่อยให้พี่เป็นแม่สายบัวแต่งตัวเก้อ...แต่ก็เข้าใจ...ทำไมรีบกลับละค่ะ   ไหนบอกว่าจะกลับวันที่ 8 พ.ค.

แวะมาบอกว่าไม่ได้ไปกรุงเทพฯเพราะ ติดต่อโรงพยาบาลจุฬาไม่ได้

  • หมอนัดไปโรงพยาบาลอื่น  วันที่ 6 พ.ค.
  • คุยกับหมอทางโทรศัพท์ เขาบอกว่าให้เอาผลการตรวจฮอร์โมน กับตา
  • ไปที่โรงพยาบาล....? (จำไม่ได้  วชิระ  ...หรืออะไรนี่แหละ )
  • หมอเขาทำงานที่นั้นวันพฤหัส...ลูกบอกว่าเขาไปกับน้องและอา
  • ถ้าผ่าตัดแม่ค่อยตามไป ...รอฟังผลวันพฤหัสก่อน 
  •  ขอบคุณสำหรับดอกไม้ค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องดาวเรือง  

  • คิดถึงและเป็นห่วงตลอด   แต่ไม่กล้าโทรถาม  กลัวไม่สบายใจ
  • พี่เอาใจช่วยนะ...น้องนะ

 

   คำสอนของพ่อซึ่งถือว่าเป็นครูคนแรกและคุณครูตลอดกาลสำหรับดิฉัน ทั้งจากเรื่องที่พ่อสอนด้วยคำถาม การปฏิบัติจริง แม้กระทั่งคำสั่ง  ดิฉันสรุปเป็นขุมความรู้ได้ดังนี้

       1. วิธีการดูแลทรัพย์สิน

       2. การดูแล ครองตนให้ปลอดภัย

       3. วิธีการคบมิตร

       4. วิธีการประหยัด

       5. การบริหารเวลาและการบริหารเงิน

       6. การบริหารชีวิตในแต่ละวัน (กลยุทธ์การดำเนินชีวิต)

       7. การเลือกซื้ออาหาร

ขออนุญาต นำไปเป็นแนว ขอบคุณมากค่ะ มีความสุขวันหยุดนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณเกด

ขอบคุณที่เยี่ยมบันทึกค่ะ

สวัสดีค่ะ..พี่ปริมปราง

  • พี่ปริมปรางเนี่ย..สมัยเด็กๆ ต้องเป็นกีฬาแน่ ๆ..อิ..อิ..
  • น้องแวะมาทักทายในวันดีดีค่ะ..
  • สุข..สดชื่น..นะคะ

 

สวัสดีค่ะ น้องจำเนียรวดี

  • วันนี้สงสัยสมองจะช้า...ตามไม่ทันค่ะมุขนี้ "พี่ปริมปรางเนี่ย..สมัยเด็กๆ ต้องเป็นกีฬาแน่ ๆ..อิ..อิ.."
  • ขอบคุณที่มีไมตรีต่อกันตลอดมาค่ะ....

สวัสดีค่ะคุณครู

ชมชมคุณพ่อของคุณครูมากๆ  ทุกสิ่งที่ท่านสอนเป็นเรื่องที่ดีเป็นประโยชน์ ในการนำมาใช้ในการดำเนินชีวิต... ท่านยอดเยี่ยมมากค่ะ

มีความสุขทุกวันนะคะ

ระลึกถึงค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณครูใจดี

  • ขอบคุณค่ะที่ร่วมชื่นชมพ่อของครูปริมปรางค่ะ
  • ขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ

 

สวัสดีครับคุณครูปริมปราง

อิ.อิ.กำลังจะโทรมาบอกว่ามีภาษีจะคืนให้ แต่ต้องไปกด เอทีเอ็ม.

เมื่ออ่านคำสอนของคุณพ่อแล้ว เข้าใจได้เลยว่า คงไม่สำเร็จแฮ....

ขอบคุณครับที่แบ่งปันคำสอนดีๆจากคุณพ่อของคุณครู 

สวัสดีค่ะ คุณ P  ชาวฝนแปดแดดสี่

  • โทร
  • ปล.มาบอกว่าส่งอีแมวมาหา...สำเร็จค่ะ....ไปดูแล้วไม่มี...
  • ขอบคุณที่ร่วมรับคำสอนดีๆ ของพ่อค่ะ 
บอกว่ามีภาษีจะคืนให้ แต่ต้องไปกด เอทีเอ็ม. ....อิ...อิ..ไม่สำเร็จค่ะ

แวะมาเยี่ยม ตอนนี้อยู่สิงคโปร์ จะกลับพรุ่งนี้บ่ายค่ะ

มาขอบคุณที่แวะไปทักทายค่ะ

สมัยก่อนนั้นโจรเยอะมากจริงๆค่ะ

ตอนเป็นเด็กพ่อสร้างบ้านไม่มีประตู

บอกให้รู้ว่าไม่มีอะไรในบ้าน

เพราะเปิดตลอดเวลา

ไม่มีอะไรปิดบังค่ะ

สวัสดีค่ะ  P  คุณ Bonnie

  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท