การอนามัยเจริญพันธ์สำหรับผู้ติดเชือเอชไอวี


อนามัยเจริญพันธ์

     ในช่วงนี้ได้ดำเนินงานเรื่อง  การอนามัยเจริญพันธ์ในผู้ที่ติดเชื้อเอชอวี  โดยร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครสวรรค์   และได้คัดลือกแกนนำผู้ติดเชื้อเอชไอวีของแต่ละอำเภอ  เข้ามาอบรมทำกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้เรื่องการอนามัยเจริญพันธ์สำหรับผู้ติดเชื้อ  5 กิจกรรมคือ

  1. การอนามัยเจริญพันธ์
  2. คู่นั้นสำคัญไฉน
  3. การเปิดเผยผลเลือด
  4. การวางแผนครอบครัว
  5. การเตรียมความพร้อมในการมีลูก

     เหตุผลที่ต้องให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี  มีความรู้และข้าใจในเรื่อง ทั้ง 5 เรื่องนี้เพราะต้องการให้ผู้ที่ติดเชื้อมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีและเหมาะสมกับตนเองและคู่ของตน  เพราะมีความใกล้ชิดกับวิถีชีวิตของตนเองมาก   เพราะผู้ที่ติดเชื้อเอชอวีส่วนใหญ่อยู่ในวัยเจริญพันธ์  หากบริการด้านอนามัยเจริญพันธ์ไม่ครอบคลุมหรือผู้ติดเชื้อไม่รู้สิทธด้านการอนามัยเจริญพันธ์ของตนเอง  ก็จะทำให้เกิดปัญหา  การขาดการวางแผนครอบครัว  การมีถูกถี่  การแท้งที่ไม่ปลอดภัยและเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้ง  การป่วยตายของมาดาและทารก  มะเร็งปากมดลูก  การถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก  รวมทั้งเด็กกำพร้าที่เกิดจากโรคเอดส์เพิ่มมากขึ้น

    หลังจากการอบรมได้ออกไปติดตามผลการถ่ายทอดกิจกรรมกระบวนการเรื่องการอนามัยเจริญพันธ์  ทั้ง 5 กิจกรรม  กับแกนนำผู้ติดเชื้อที่เข้ารับการอบรม  ในแต่ละอำเภอ  ก็พบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง  เพราะผู้ติดเชื้อจะไปสอนละถ่ายทอดกันเอง  ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการลดภาระงานลง  ถือว่าแกนนำเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่  เพราะในการให้บริการของเจ้าหน้าที่  จะมีผู้ติดเชื้อมารอรับบริการครั้งละ  50-80 คน  ในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คงไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะให้บริการหรือความรู้ได้ครบทุกคน  ดังนั้นแกนนำจึงเข้ามาช่วยพี่เลี้ยงซึ่งเป็นเจ้าหน้าของโรงพยาบาล   และต้องชื่นชมกับแกนนำเหล่านี้  เพราะเข้ามาทำงานแบบจิตรอาสา โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น   อีกทั้งสมาชิกในกลุ่มผู้ติดเชื้อก็มีหลากหลาย  การที่จะพูดหรือทำกิจกรรมอะไรกับกลุ่มคนเยอะๆ  นั้นเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะเป็นคนกลุ่มเดียวกันพื้นเพคล้ายๆกัน    ก็ต้องทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจกันเลย    ได้เห็นความพยายามและความทุ่มเทของแกนนำที่ทำงานกันอย่างเสียสละจริงๆ  เพราะทุกคนมีครอบครัว  ที่ต้องกินต้องใช้  หนึ่งวันที่ทำงานในกลุ่มคือหนึ่งวันที่รายได้หายไป    

     แกนนำเหล่านี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่า    การให้สังคมเข้าใจว่าผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี  ก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง  ซึ่งบังเอิญมีเชื้อ    เอชไอวีอยู่ในร่างกาย  และการมีเชื้อเอชไอวี  ก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าความเป็นคน  ของผู้ติดเชื้อหมดไป  พวกเขาพยายามสร้างคุณค่าให้กับตนเองโดยทำประโยชน์ให้สังคม  เพื่อหวังให้สังคมยอมรับและไม่รังเกียจต่อผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี   และมีชีวิตอยู่ในสังคมชุมชนได้เหมือนกับคนทั่วๆไป    

 

หมายเลขบันทึก: 355088เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2010 14:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 18:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท