หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

บทเรียนชีวิตอีกวันหนึ่ง


อืม อย่างนี้ "ประสบการณ์" แปลว่าอะไรกันนะ เป็น "ความรู้" จริงหรือเปล่า ใคร่ครวญดูหน่อยก่อนใช้มันจะดีมากนะ

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดจรวดเชียวนะ เดือนที่ ๓ ของเดือนผ่านไปเร็วรี่ และเดือนที่ ๔ ของปีก็กำลังจะหมดเวลาลงแล้วเช่นกัน

ทุกๆวันที่ทำงานอยู่กับที่ ไม่ใคร่ได้สังเกตในเรื่องนี้เท่าไรเลย หรือว่าเราทำงานเพลินจนลืมเวลาไป หรือว่าที่ทำงานไปนั้นไม่สนใจเวลานะ อย่างไหนกันแน่

ระยะนี้สะดุดใจกับตัวเองในเรื่องบริหารเวลาอีกแล้วว่าที่เวลาเริ่มไม่พอใช้ในแต่ละวันอีกแล้วนั้นมีต้นเหตุจากอะไรกัน ท่านละเคยสังเกตบ้างไหมว่ามีเวลาให้ไม่พอใช้ในแต่ละวันบ้างหรือเปล่า 

ความสะดุดใจนี่ก็มีดีนะ มันเตือนตัวฉันให้เริ่มตื่นตา ตื่นใจ ชวนตัวเองให้หันหลับมามองว่าชีวิตในแต่ละวันที่เดินเร็วอยู่เป็นเรื่องอะไร มีอะไรที่ช้าบ้างหรือเปล่า หรือว่าเร็วไปหมดทุกอย่าง

ทบทวนดูก็ได้คำตอบว่า บางเรื่องในแต่ละวันที่เิดินเร็วเป็นด้วยตัดสินใจเร็ว บางเรื่องที่ช้าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจช้า หรือไม่ตัดสินใจ

เออนะ อะไรคือที่มาของการตัดสินใจนะ ความคิดหรือเปล่า ความรู้สึกหรือเปล่า

ลองทบทวนลึกลงไปอีกชั้นด้วยตัวอย่างของการลงมือตัดสินใจ อือ ที่มาของการตัดสินใจมาจากประสบการณ์นี่เอง

อะไรที่มีประสบการณ์คุ้นชินและไม่มีเรื่องสะดุดใจอะไร อะไรนั้นก็จะผ่านไปอย่างเร็ว

ซึ่งแปลว่ามีการตัดสินใจที่เร็วด้วยใช่ไหมก็ได้คำตอบว่าไม่ใช่ก็มีนะ เป็นเรื่องที่ไม่ตัดสินใจก็มีนะ

แต่พอทบทวนลงลึกไปอีก กลับได้พบว่า ไม่จริงหรอก ที่ว่าไม่ตัดสินใจนั้น มีการตัดสินใจนะ ก็ตัดสินใจว่า "ไม่ตัดสิน" ลงไปแล้วไง

อือ มองลงลึกไปอีกก็พบว่า ความเร็วความช้าของสิ่งที่เกิดขึ้นมาที่เข้าใจว่า ใช้ประสบการณ์นั้น แท้จริงกลับไม่ใช่หรอก แต่ใช้ความ "ใคร่ครวญ" ต่างหากเล่า แล้วการ "ใคร่ครวญ" นั้นก็มีความรู้สึกมาเกี่ยวข้องทุกคราไป

เมื่อไรที่ความรู้สึก มีเรื่อง "ไ่ม่ชอบ" "ไม่อยาก" "โกรธ" "เกลียด" "งอน" "กลัว" เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเร็วช้าของการตัดสินใจทั้งสิ้น

อืม อย่างนี้ "ประสบการณ์" แปลว่าอะไรกันนะ เป็น "ความรู้" จริงหรือเปล่า

หรือว่า เป็น "ความคิดที่ทำงานเพื่อให้เกิดคำพิพากษา"

เพิ่งเริ่มสัมผัสนะว่า "ความคิด" และ "ความรู้สึก" นี่หากทำงานไม่ทันกัน ความรู้สึกจะหลอกให้เกิดความ "หลง" ผ่าน "ความคิด" ได้เลยเชียวนะ

อืม งั้นความรู้สึกว่ามีเวลาไม่พอนั้นเป็นความหลงรูปหนึ่งซินะ ถามตัวเองแล้วก็ได้คำตอบว่า "มั๊ง"

งั้นจะรอช้าไปทำไม ฝึกตนต่อไปดีกว่าเนอะ ฝึกให้ความคิดทำงานทันกับความรู้สึก เพื่อให้ "ความสงบ" ที่แท้จริง "ความตื่นรู้" ที่แท้จริงของจิตได้เกิดขึ้น

บันทึกนี้บันทึกไว้เพื่อเตือนตัวเองให้รู้ฤทธิ์เดชของกิเลส "รัก" "ชัง" "โกรธ" "กลัว" "หลง" ว่าสามารถก่อผลให้เกิดความเบียดเบียนตนและผู้อื่นได้ง่ายๆอย่างไร

หมายเลขบันทึก: 354076เขียนเมื่อ 26 เมษายน 2010 00:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท