อ๋อย
พิไลลักษณ์ อ๋อย ศรีประดิษฐ์

ถนนชีวิต


วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553 เป็นวันทำกลุ่มและจ่ายยาให้คนไข้HIV/AIDS ที่ลางานไม่ได้หรือไม่อยากลางานเพราะลาตรง ๆ ไม่ได้เมื่อสี่ปีที่แล้วร.พ.บ้านโพธิ์ยังไม่ได้เปิดให้บริการวันอาทิตย์ในใบรับรองแพทย์ก็ต้องระบุโรคหรืออาการเป็น...ปวดศรีษะ ปวดขา ปวดแขน เป็นไข้ ท้องเสีย จนทั่วร่างกาย ทำให้ทั้งผู้ให้และผู้รับบริการทนไม่ไหว มาทีก็ขอใบรับรองแพทย์กันที และอำเภอบ้านโพธิ์ ถูกล้อมรอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรม จึงมีผู้ป่วยที่ประกอบอาชีพรับจ้างในสถานประกอบการจำนวนมาก จึงตกลงกันระหว่างผู้ให้และผู้รับเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยเปิดให้บริการวันอาทิตย์จะมีใครมาใช้บริการหรือไม่ ซึ่งต้องจ่ายค่ารับบริการคนละ 100 บาท ผู้รับบริการดีใจมากเดือนแรกๆมีคนไข้ไม่ถึง10 คน เปิดบริการมาประมาณ สี่ปีผ่านไปมีคนไข้ใช้บริการวันอาทิตย์ 40 คน

ทำกิจกรรมกลุ่มโดยการให้ความรู้เรื่องPrevention With Positive แล้วครั้นด้วยการนำเสนอนวัตกรรมที่จะนำมาใช้กับผู้ติดเชื้อฯของนศ.ฝึกงานจากวสส.ชลบุรี

ต่อด้วยกิจกรรมถนนชีวิตได้ไอเดียจากพี่อุ้ม (ถาวร)เรื่องกำลังใจ ขอขอบคุณบทความดีดี กระตุ้นความคิดให้เกิดกิจกรรมนี้ เริ่มด้วยการให้ผู้ติดเชื้อนั่งหลับตา ทบทวนชีวิตที่ผ่านของตนเอง แล้ววาดภาพถนนชีวิตของแต่ละคนลงบนกระดาษ ว่าได้ผ่านอะไรมาบ้างทั้งสิ่งดีงาม อุปสรรค ขวากหนาม  และให้บรรยายภาพของตนเองทีละคน

ช่วงสำคัญของการบรรยาย

เริ่มจากสาวประเภทสองได้ข้อคิดในเรื่องของกำลังใจ ได้จากแม่กับพี่สาวและต้องสร้างด้วยตนเอง

คนต่อมาอาจารย์ชาญ คู่ 2 คนเสียชีวิตแล้วผ่านปัญหาอุปสรรคมาได้เพราะหมอ พยาบาลและครอบครัว

อีกคนเป็นหญิงที่เคยเลิกกับสามีไปเพราะความเจ้าชู้แล้วกลับมาดีกัน เป็นดวงจริงๆ เธอติดเชื้อจากสามี และสามียอมรับการติดเชื้อไม่ได้  เครียด คิดมาก และเสียชีวิตไปแล้ว เธอไม่โทษใคร ยอมรับและปรับตัวเก่งมาก เธอบอกว่าจะอยู่กับเชื้อเอชไอวีเหมือนเป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกาย ขอบอกว่าถ้าคุณเจอเธอไม่มีใครรู้เด็ดขาดว่าเธอติดเชื้อและรับยาต้านมาหลายปีแล้ว

ใกล้หมดเวลาเลยมีตัวแทนคนสุดท้ายพูดถนนชีวิตของตนเอง

ตอนแรกเธอไม่อยากพูด บอกว่า"ชีวิตหนูไม่มีอะไร" แต่พอกระตุ้นว่าทุกคนต้องผ่านเหตุการณ์หรือเรื่องราวในชีวิตมากันทุกคน ดิฉันพูดต่อว่า"ทุกวันนี้มีชีวิตอยู่เพื่อใคร" เธอตอบด้วยเสียงสั่นเครือว่า"มีชีวิตอยู่เพื่อลูก" แล้วพูดต่อว่าในวัยเด็กก็มีชีวิตตามปกติ ครอบครัวมีฐานะยากจน เรียนจบแค่ชั้นม.6 แล้วก็เริ่มทำงานเป็นครูในศูนย์เด็กเล็ก ด้วยเป็นคนเรียนเก่งตั้งแต่เด็กและชอบเรียนก็เลยเรียนต่อ เคยมีแฟนคนแรกอยู่ด้วยกันมา 2 ปี แล้วหนูขอเลิกเพราะติดยา หนูกลัวการถูกทิ้ง เลยทิ้งเค้าก่อน จนมาเจอกับแฟนคนใหม่ รู้จักกันตอนเค้าบวชเค้าบอกว่าสึกแล้วจะให้แม่มาขอ แต่งงานกันได้2ปี ก็ตั้งครรภ์ตรวจพบว่าติดเชื้อ เครียดมาก แฟนก็ให้กำลังใจตลอด แต่เค้าไม่ให้กำลังใจตัวเอง มาหนีหนูไปขึ้นสวรรค์คนเดียว หนูเลยเจ็บไม่หาย (เริ่มร้องไห้) ดิฉันถามว่าถ้าสมมติว่าสามีนั่งอยู่ในห้องนี้จะบอกค้าว่าอะไร "ถ้าอยู่ด้วยกันมีอะไรก็จะได้พูดได้คุยกัน " แล้วเธอก็พูดอะไรไม่ออก เพราะความเศร้า ร้องไห้น้ำตาไหลตลอด

พาให้หลายๆคนในห้องน้ำตาซึม บรรดาผู้ป่วยชายก็เมินหน้าหนีด้วยความเศร้า

สรุปด้วยการให้กำลังใจจากเพื่อนๆในกลุ่ม

ท้ายนี้ขอให้ผู้ป่วยมีกำลังใจเข้มแข็ง ยืนหยัด และต่อสู้กับปัญหา อุปสรรคที่ผ่านเข้ามา ด้วยสติ แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้น

อยากรู้ว่าสามีของเธอเสียชีวิตอย่างไร<คลิก> เจ็ดโมงเช้าวันอังคาร http://gotoknow.org/blog/philailuk/303734

คำสำคัญ (Tags): #ถนนชีวิต
หมายเลขบันทึก: 352616เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2010 18:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

 

สวัสดีค่ะน้องอ๋อย ชื่นชมกิจกรรมดีๆค่ะ

เป็นกำลังใจให้น้องและผู้รับบริการทุกคนค่ะ

ชื่นชมน้องอ๋อยนะค่ะ

เพราะgo to know ทำให้ได้รู้จักเพื่อน พี่ แนวคิด เรื่องเล่าที่ดี จะพยายามเก็บเกี่ยวและแลกเปลี่ยนคะ เมื่อปลายปีทีแล้วไปอบรมเฉพาะทาง เรียนหนัก มากกกกก ไม่ได้ลาเรียน เรียนด้วย ทำงานด้วย ห่างหายไปนานตอนนี้เลยต้องทำการบ้าน อ่านเรื่องดีดีย้อนหลัง และบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง ขอบคุณคะพี่อุ้ม

ลืมขอบคุณพี่อุ้ม ที่ส่งรูปมาให้ดูคะ ขอบคุณมากคะ

สวัสดีค่ะน้องอ๋อย

พี่อุ้มแวะมาเยี่ยมอีกรอบ คิดถึงค่ะ เพิ่งมาจากเยี่ยมบ้านที่สกลฯค่ะ

น้องอ๋อยสบายดีนะค่ะ

กลับมาจากเรียนหนักๆหายเหนื่อยแล้วเห็นน้องลุยงานเพื่อช่วยผู้ป่วย

ชื่นชมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท