การอาบน้ำยารักษาเนื้อไม้

วิธีการอาบน้ำยารักษาเนื้อไม้พารา

การอาบน้ำยารักษาเนื้อไม้

การสำรวจ โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ทางภาคตะวันออก จำนวน 4 โรงและทางภาคใต้ จำนวน 9 โรง พบว่า โรงงานแปรรูปไม้ยางพารา มีเครื่องอัดน้ำยาไม้ และเตาอบไม้ 11 โรงมีเพียง 2 โรงเท่านั้นที่แปรรูปไม้เพียงอย่างเดียว การอัดน้ำยาส่วนใหญ่ จะเป็นพวกบอเรต หรือโบรอนโดยการอัดเข้าเนื้อไม้ ซึ่งกรรมวิธีในการอาบน้ำยาไม้มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน แต่พอจะจำแนกเป็นกรรมวิธีใหญ่ๆ ได้ 2 วิธี คือ

1. การอาบน้ำยาไม้อย่างง่าย เป็นกรรมวิธีที่ไม่ต้องใช้กำลังอัด (non-pressure process) อาจจะใช้การทาหรือพ่นลงบนผิวไม้ จุ่ม แช่ไม้ในน้ำยา ซึ่งน้ำยาจะซึมเข้าไปในไม้ จะเป็นปริมาณมากน้อยเพียงใด แล้วแต่ชนิด ความแข็ง ของเนื้อไม้

2. การอาบน้ำยาด้วยแรงอัด (Pressure process) การอาบน้ำยาด้วยกำลังอัดหรือที่เรียกกันว่า การอัดน้ำยาไม้ เป็นการอาบน้ำยาโดยใช้เครื่องจักรภายในถังรูปทรงกระบอกที่มีฝาปิดเปิดได้ สามารถต้านทานต่อแรงอัดได้สูง เรียกถังนี้ว่า ถังอัดน้ำยา ถังอัดน้ำยามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 1.8-2.7 เมตร ยาวตั้งแต่ 4.5 เมตรขึ้นไป เครื่องอัดอาจจะเป็นเครื่องอัดอากาศ หรือเครื่องอัดน้ำยาก็ได้ ซึ่งการอัดน้ำยาจะมี 2 วิธี คือ การอัดน้ำยาแบบเต็มเซลล์ (Full-cell process) กับการอัดน้ำยาแบบไม่เต็มเซลล์ (Empty-cell process) การอัดน้ำยาแบบเต็มเซลล์ เป็นการอัดน้ำยาเพื่อให้น้ำยาเข้าไปในเนื้อไม้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตามลักษณะของการนำไปใช้ประโยชน์ ให้น้ำยาเข้าไปจนเต็มช่องว่างของเซลล์เนื้อไม้ และซึมไปตามผนังเซลล์ การอัดน้ำยาแบบนี้ จะเหมาะกับการอัดน้ำยาด้วยตัวยาประเภทเกลือเคมีละลายน้ำ เช่น สารเคมีจำพวกบอเรต หรือโบรอน ที่นิยมใช้กันอยู่มากในปัจจุบัน สำหรับการอัดน้ำยาแบบไม่เต็มเซลล์ น้ำยาจะเข้าไปในเนื้อไม้พอควร เพียงให้น้ำยาซึมเข้าไปในผนังเซลล์ ส่วนในช่องเซลล์ของเนื้อไม้ยังคงว่างอยู่ วิธีนี้เหมาะกับการอัดน้ำยาประเภทน้ำมัน เพราะตัวยาจะซึมเข้าไปในเนื้อไม้ได้ลึก แต่มีปริมาณตัวยาในเนื้อไม้พอประมาณ