เตือนอากาศร้อนเสี่ยงเกิดโรคตาต้อกระจก-ตาแห้ง


อากาศร้อนเสี่ยงโรคตา

ได้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่  12 เมษายน ที่ผ่านมา มีเรื่องราวที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เดี่ยวกับดวงตาของเราในสภาพอากาศที่ร้อนระอุอยู่ในทุก ๆ วันนี้ อีกทั้งยังมีวิธีการดูแลตัวเอง การป้องกันตัวเองจากภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ครับ

 

สธ.เตือนอากาศร้อน เสี่ยงเกิดโรคตาต้อกระจก ตาแห้ง จอประสาทตาเสื่อม แนะใส่แว่นตากรองแสงยูวี อย่าใส่แว่นกันแดดสีเข้มที่ไม่ฉาบสารป้องกันยูวี เพราะจะยิ่งทำให้เกิดอันตรายกับตา

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.  นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สภาพอากาศในประเทศไทยร้อนจัดขึ้น แดดแรงมาก อุณหภูมิบางจังหวัดเกิน 40 องศาเซลเซียส ประชาชนจะต้องระมัดระวังผลกระทบจากแดดแรง เนื่องจากแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลตหรือที่เรียกกันว่าแสงยูวี ซึ่งตามปกติร่างกายเราต้องถูกแดดบ้าง โดยเฉพาะแสงแดดในตอนเช้า เพื่อให้แสงยูวีกระตุ้นการสร้างวิตามินดี ป้องกันโรคกระดูกอ่อน กระดูกผุ และกระดูกพรุน แต่หากได้รับรังสีดังกล่าวมากไป นอกจากจะทำให้ผิวไหม้ ผิวเหี่ยวย่นแล้ว ยังทำให้เป็นโรคตาต้อกระจกได้ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังทำให้เกิดต้อเนื้อและอาการป่วยอื่น ๆ ได้

นายแพทย์ไพ จิตร์ กล่าวต่อว่า แสงยูวีเป็นรังสีที่มองไม่เห็นและไม่สามารถรู้สึกได้ โดยปริมาณยูวีที่ผ่านมาถึงพื้นโลกขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของวัน และปริมาณเมฆหมอกในท้องฟ้า จึงขอแนะนำให้ประชาชนทุกวัย สวมแว่นตากันแดดทุกครั้งที่อยู่ในที่มีแสงแดดจ้า เพื่อป้องกันอันตรายต่อตา เพราะหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น ทั้งภายนอกและภายในลูกตา จะมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก และขณะที่อยู่กลางแดดควรใส่หมวกที่มีปีกกว้างอย่างน้อย 3-5 นิ้ว หรือกางร่ม จะช่วยลดปริมาณแสงยูวีได้ถึงร้อยละ 50

ขณะที่ นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า อากาศที่ร้อนในช่วงนี้ จะมีผลกระทบต่อดวงตา ทำให้ตาแห้ง มีอาการแสบตา เคืองตา ตามัวชั่วขณะ ในแสงแดดไม่ว่าจะจ้าหรือไม่ก็ตามจะมีรังสียูวี ทำให้เกิดตาต้อกระจกเร็วขึ้น หรือไปทำลายจุดรับภาพที่จอประสาทตาทำให้จอประสาทตาเสื่อม ซึ่งอาการจะค่อยเป็นค่อยไป ในการป้องกันรังสียูวีเข้าตา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งประชาชนนิยมไปเล่นสาดน้ำกลางแจ้ง หรือไปเที่ยวชายทะเล ขอแนะนำให้สวมหมวกแก๊ป ซึ่งมีกระบังหมวกช่วยบังแสงแดด และควรสวมแว่นกันแดดที่ย้อมสารป้องกันรังสียูวี ทั้ง 2 อย่างนี้ สามารถป้องกันได้ทั้งความร้อน รังสียูวีและป้องกันน้ำที่เล่นสาดกันเข้าตาด้วย

นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า การใส่แว่นกันแดดสีเข้มที่ไม่ฉาบสารป้องกันรังสียูวี จะยิ่งทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา เพราะรูม่านตาจะขยายกว้างมากขึ้น แว่นยิ่งดำมากเท่าใดรังสีจะเข้าตามากเท่านั้น ขณะที่แว่นกันแดดที่ย้อมสารป้องกันรังสียูวี ที่ได้มาตรฐาน จะสามารถป้องกันรังสียูวีได้ 300-400 นาโนเมตร แว่นชนิดนี้หาซื้อได้ตามร้านมาตรฐาน ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากโรงงานผู้ผลิตมาแล้ว ส่วนแว่นกันแดดที่วางขายในตลาดทั่วไป ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการย้อมสารป้องกันรังสียูวีจริงหรือไม่ เพราะต้องใช้เครื่องตรวจสอบ

ทั้งนี้ ผู้ที่ควรใส่แว่นกันแดดมากกว่าคนอื่นๆ คือผู้ที่ขับรถในช่วงกลางวัน เนื่องจากต้องใช้สายตาเพ่งฝ่าแดดไปที่ถนนตลอดเวลา จึงรับแสงยูวีมากกว่าปกติ มีโอกาสเกิดตาต้อกระจกในระยะยาว ส่วนการป้องกันไม่ให้ดวงตาแห้งในช่วงอากาศร้อน ขอให้ประชาชนดื่มน้ำมากๆ ไม่ต่ำกว่าวันละ 8 แก้ว และควรกระพริบตาบ่อยๆ สำหรับผู้ที่ใส่คอนแท็คเลนซ์ช่วงนี้อาจเกิดตาแห้งง่ายขึ้น แนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมบ่อยขึ้นเพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้นขึ้น

ที่มา ไทยรัฐ

 

เกษม ชูรัตน์

15 เมษายน 2553

คำสำคัญ (Tags): #อากาศร้อน#โรคตา
หมายเลขบันทึก: 351832เขียนเมื่อ 15 เมษายน 2010 23:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2012 13:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท