ทนายขอแรง ๑


ทนายขอแรง ค่าจ้างว่าความ ค่าวิชาชีพ ศาล ลูกความ

๑) เมื่อเดือนก่อน มีงานเลี้ยงส่งผู้พิพากษาที่จะย้าย (ผู้พิพากษาจะย้ายกันในเดือนมีนาคมของทุกปี)  ทางหัวหน้าศาลท่านก็กรุณามานั่งโต๊ะนั้น โต๊ะนี้ ระหว่างที่ท่านมานั่งให้เกียรติกับโต๊ะทนายความ  ปรากฏว่า มีทนายความคนหนึ่งบอกกับลูกพี่ว่า ลูกความที่ศาลขอให้ตนเป็นทนายความขอแรงได้จ่ายค่าว่าความให้ 3000 บาท ผมซึ่งนั่งโต๊ะอยู่ด้วยรู้สึกอึ้งและอับอายอยู่ในใจ แต่ท่านหัวหน้าศาล ท่านก็กรุณามาก ท่านชี้แจงว่า การรับเงินดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาล เพราะศาลได้จ่ายค่าวิชาชีพให้ทนายขอแรงอยู่แล้ว   ซึ่งผมรู้สึกขอบคุณท่านอยู่ในใจที่ช่วยกรุณาเตือนสติทนายความท่านนั้น

นั่นเป็นเพียงตัวอย่างเดียวที่เกิดขึ้นในจังหวัดของผม  ซึ่งการรับเงินค่าทนายความขอแรงจากลูกความรู้สึกจะเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว และน่าจะเป็นเรื่องที่ก่อความอับอายให้กับทนายความทั่วไปในจังหวัดนั้น

๒) ตั้งสำนักงานทนายที่ศาล

ผมเคยเดินทางไปว่าความที่ศาลจังหวัดกาฬสินธ์ รู้สึกประทับใจในการให้บริการของท่านที่ไม่ได้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เฉพาะตัวความเท่านั้น  แต่ยังมีมาถึงทนายความด้วย โดยที่สาลดังกล่าวได้ให้บริการแบบพิมพ์ศาลซึ่งพิมพ์จากคอมพิวเตอร์ฟรี  (ผมยังไม่เคยพบจากศาลอื่น อาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยไปศาลที่อื่น)

เมื่อผมกลับมาที่จังหวัดผม ได้มีโอกาสร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับท่านผู้พิพากษา ผมเลยเล่าให้ท่านฟัง  ท่านตอบผมว่า ขนาดไม่มีบริการดังกล่าว ทนายความก็มาตั้งสำนักงานอยู่ที่ศาลอยู่แล้ว  คำกล่าวของท่านเป็นความจริงอย่างยิ่งเพราะมีทนายอยู่ที่ศาลไม่มีสำนักงานทนายความอยู่  แต่กลับอาศัยห้องพักทนายความในการเป็นสำนักงาน  หลับนอนในห้องนั้นเวลาไม่มีความ ซึ่งผมรู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่ง

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 351565เขียนเมื่อ 14 เมษายน 2010 12:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 08:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

อ่านบันทึกท่านแล้วนึกถึงตอนเป็นทนายความ

การเป็นทนายขอแรงโดยความเป็นจริงแล้ว ที่ศาลให้จะว่ากันตามตรงแล้วไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยผมเป็นทนายความที่อำเภอหนึ่งมีทนายอยู่สองคน ผลัดกันว่าคนละคดี สมัยนั้นศาลขอแรงให้ไม่เกินคดีละหนึ่งพันบาท ส่วนใหญ่ศาลให้ ๕๐๐-๘๐๐ บาท ผมว่าถึงศาลฎีกาได้ ๑,๐๐๐ บาท มั่ง ๙๐๐ มั่ง ถามว่าคุ้มไหมกับค่ารางวัลทนาย ผมว่าไม่คุ้ม (ก็ว่ากันเป็นปี)หากลูกความพอใจที่เราว่าความให้เขาให้เงินรางวัล ผมว่าเป็นเรื่องน้ำใจนะ แต่ถ้าทนายไปเรียกร้องเงินจากลูกความกรณีศาลขอแรง ผมถือว่าเสียมารยาทอย่างร้ายแรง กรณีอย่างนี้ต้องเล่นงานและสมควรที่ท่านจะอับอายกับการกระทำของทนายท่านนั้น ผมไม่ทราบว่าปัจจุบันมีระเบียบอะไรเกี่ยวกับทนายในการรับเงินค่ารางวัลทนายบ้าง แต่ตอบตามความรู้สึกว่าค่ารางวัลทนายถ้าจะกำหนดให้ตามงานที่ทำ เช่นชนะคดีศาลชั้นต้นให้ไม่เกินเท่านี้ ชั้นอุทธรณ์เท่านี้ ชั้นฎีกาได้เท่านี้ ถ้าแพ้ได้ไม่เกินเท่านี้ ก็น่าจะเป็นธรรมกับทนายขอแรงนะครับ และผมไม่ทราบว่ายังมีอยู่อีกไหมที่จ่าศาล (เดี๋ยวนี้เป็น ผอ.)ขอเงินค่ารางวัลทนายเอาไว้โดยให้ทนายเซ็นรับโดยอ้างว่าเป็นสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่ ผมเห็นว่าไม่เป็นธรรมแก่ทนายความเหมือนกันครับ

แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ

ขอบคุณมากครับ

ผมได้อ่านบล้อกของท่านได้ความรู้มากครับ อยากให้ท่านเขียนประสบการณ์คดีของอัยการบ้าง

เงินรางวัลทนายความได้เปลี่ยนไปมาก ขณะนี้ศาลอาจกำหนดได้ถึง 40000 บาทครับแล้วแต่ฐานความผิดและโทษ

เท่าที่ผมได้ทราบมา จ่าศาล(ผอ ศาล) ไม่ได้หักไว้แล้ว (ในจังหวัดของผม)

ผมไม่ได้ขึ้นทะเบียนทนายขอแรงไว้หรอกครับ

อย่าอับอายเลยครับท่าน ถ้าอับอายมากก็เลิกอาชีพทนายไปเลย จะได้เปิดโอกาสให้คนอื่นเขาบ้าง กูละเบื่อไอ้พวก ขี้เก็ก

มองคนละมุมเห็นคนละอย่างดีครับดีทั้งสองฝ่ายในความหมายของคนละมุม

www/landlawyer-net


ทำดีทำชั่วก็รู้ตัวอยู่ รีดเลือดกับปูเวรกรรมมีจริง

 

ก่อนอื่นต้องขออธิบายความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจริงๆก่อน คือ การทำงานของทนายความขอแรงนั้นกว่าจะได้รับเงินรางวัลทนายขอแรงก็ต่อเมื่อคดีเสร็จ และในทางปฏิบัติศาลจะสั่งรางวัลทนายขอแรงให้ก็ต่อเมื่อทนายมีคำร้องขอเข้าไป ศาลก็จะสั่งให้ได้มาเป็นตัวเลข เหล่าทนายก็ดีใจกัน แต่หาดีใจได้นานไม่ เพราะกว่าตัวเลยจะมาเป็นเช็ค ที่ผ่านมาใช้เวลาเป็นครึ่งปี ผมเชื่อว่าถ้าท่านที่อ่านได้เป็นทนายความขอแรงมาแล้วจริงๆ จะต้องทราบ , ผมเห็นด้วยกับท่านอัยการชาวเกาะ เพราะสิ่งที่ท่านพูดเราสามารถทราบได้ว่าท่านได้เคยผ่านการเป็นทนายความมาแล้วจริง  , ฉะนั้นเราควรจะร่วมกันอายในการกระทำของผู้ที่อยู่ในแวดวงกระบวนการยุติธรรม แต่พยายามที่จะละเมิดกฎระเบียบ มากกว่า มองให้หลายมุม งดประจบสอพลอ มองด้วยใจเป็นธรรมบ้าง , ส่วนตัวของกระผมไม่เคยแม้แต่จะเรียกร้องเอาจากลูกความเลยสักครั้ง แต่ถ้าลูกความจะให้ผมก็ไม่เคยรับ แต่ถ้ารับผมจะไม่ละอายเลย เพราะเป็นเงินบริสุทธิ์ที่ลูกความเขามีน้ำใจให้เพราะเราก็ทำหน้าที่ทนายความให้เขาเต็มที่ , แต่จะบอกอะไรให้ว่า ใครทำกรรมอะไรไว้ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ท่านจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

เป็นทนายขอแรงคดีแรกต้องทำไงบ้างครับ (เพิ่งได้รับใบอนุญาตว่าความครับ)

คุณถิราวุธ เป็นทนายขอแรงคดีแรก ผลเป็นอย่างไรบ้าง ครับ (เมื่อเพิ่งได้รับใบอนุญาตว่าความ แรกๆ )

หากคุณได้งานแล้วยินดีด้วยในสิ่งที่คุณ มีโอกาสทำงานด้านกฎหมาย อยากทำงานทนาย ควรเริ่มจากเป็นจิตอาสาก่อนเพื่อประสบการณ์ไปก่อน สร้างความภูมิใจมากกว่าอะไรที่จะซื้อมาได้ง่ายๆ นั้นเป็นสิ่งเริ่มต้น ทนายอาสา คดีขอแรง จะได้พบสิ่งใหม่ หลากหลายท้าทาย สนใจส่งประวัติมา [email protected]

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท