ผมไม่ได้หมายถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังร้อนระอุในขณะนี้ ซึ่งมีพระสงฆ์มาร่วมขบวนชุมนุมประท้วงด้วย แต่กำลังพูดถึงการแก้ปัญหาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำในอำเภอพระแสง
วันที่ 9 เมษายน 2553 เวลา 10:00 น. ผมพร้อมด้วยนายสิทธิโชค บุญคง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ได้รับมอบหมายจากท่านเกษตรอำเภอพระแสง นายมลศักดิ์ พงศ์สุพัฒน์ ให้เดินทางไปร่วมสร้างฝายแม้วเพื่อกักเก็บน้ำกับชาวบ้านที่หมู่บ้านมูลนิธิคาทอลิก หมู่ที่ 10 ต.สินเจริญ (ตำบลในความรับผิดชอบของผมเอง) ซึ่งมีแหล่งน้ำผุด เป็นต้นน้ำหล่อเลี้ยง 5 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 5, 6, 7, 8 และ 10 ต.สินเจริญ ก่อนไหลลงสู่คลองสินปุน และบรรจบกับแม่น้ำตาปี บางครั้งยังมีผู้มาใช้น้ำจาก ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่อีกด้วย
การสร้างฝายครั้งนี้มีนายสุนทร สงวนเกียรติ แพทย์ประจำตำบลสินเจริญ เป็นแกนนำ โดยมีท่านเกษตรอำเภอเป็นผู้ติดต่อประสานงาน และได้รับการสนับสนุนทรายจากท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสินเจริญ นายเสถียร อุปฐาก มีผู้นำชุมชนและชาวบ้านมาร่วมประมาณ 30 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความสนุกสนานคลื้นเคลง และความสดชื่น แต่ที่น่าสนใจ คือ มี“เจ้าอาวาส” (เอ๊ะ! หรือเรียก“หัวหน้า” ก็ไม่แน่ใจ) จากสำนักสงฆ์บ้านมูลนิธิฯ (นี่ก็ลืมถามชื่อหรือฉายาของท่าน แต่ก็เรียกท่านว่า “พ่อหลวง” นั่นแหละ) มาทำพิธีขอขมาต่อพระแม่คงคา มีการสวดมนต์ ให้ศีล ให้พร เพื่อเป็นศิริมงคลก่อนเริ่มงาน ตามความเชื่อ ความศรัทธา เห็นแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจ แถมท่านยังอยู่ช่วยสร้าง และให้คำแนะนำ ตั้งแต่เริ่มจนเสร็จงาน ท่านบอกว่าท่านเคยสร้างมาแล้วที่ จ.แม่ฮ่องสอน
ความแห้งแล้งที่พระแสงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่ถึงสภาพอากาศจะร้อน ขาดแคลนน้ำ หากคนมีความตระหนักที่ดี มีน้ำจิตน้ำใจ และมีความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ สังคมก็จะผ่านพ้นวิกฤตไปได้ แม้พระสงฆ์ผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่ในทางธรรม ไม่ได้สวมเสื้อ นุ่งกางเกง อย่างเราๆ ท่านๆ ก็ยังเห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน และความสัมพันธ์ระหว่างสายน้ำกับชีวิต ยิ่งช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ควรจะเล่นน้ำสาดน้ำกัน ไม่ใช่สาดน้ำลาย หรือสาดกระสุนใส่กัน มีแต่จะเพิ่มความร้อนระอุ สร้างความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น.......
สวัสดีครับ
สวัสดี
เข้ามาทักทาย
สบายดีหรือเปล่า