กลับมาที่องค์กร หากต้องการประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ก่อนจะหาวิธีพัฒนา ต้องให้คุณหมอมาวินิจฉัย ว่าองค์กรนี้ติดขัดที่ใด สภาพปัจจุบันแต่ละระบบเป็นอย่างไร บริษัทที่ปรึกษาจึงเป็นสิ่งจำเป็นไปเสียแล้วในการพัฒนาองค์กร เพราะมีผู้เชี่ยวชาญ หลักการ มีเครื่องมือพิเศษ หากใช้คนในองค์กรก็คงตรวจหาเหตุลึกๆ ไม่พบ หรือพบก็รักษาไม่ได้ เพราะเครื่องมือไม่ทันสมัย
พนักงานภายในบางคนเมื่อรู้ว่าบริษัทจ้างที่ปรึกษาภายนอก มีทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย คนที่ไม่เห็นด้วย ก็อาจจะไม่อยากร่วมมือเพราะดูเหมือนจะมายุ่งกับเขาให้มีภาระงานบางอย่างเพิ่มขึ้น อีกอย่างก็คือ ไม่เห็นว่าต้องแก้ไขอะไรเพราะบริษัทก็มีกำไรอยู่แล้ว อันนี้เป็นสัญญาณอันตรายของบริษัท เพราะเหตุแห่งปัญหาที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งจะยังไม่ปรากฎออกมาทันทีทันใด เมื่อสะสมไว้นานๆ ไม่แก้ไข ความซับซ้อนของปัญหาจะเป็น complexity ที่แกะออกยากมาก
เมื่อองค์กรอยากพัฒนาตัวเอง ต้องกำหนดเป้าหมาย ทิศทางที่ชัดเจนให้ได้ก่อนที่จะกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ และสร้างภาพให้พนักงานเห็นเป้าหมายข้างหน้าเป็นภาพเดียวกัน
แล้วเรื่องของ วัฒนธรรมองค์กร คน ภาวะผู้นำ ระบบงานสนับสนุนอื่นๆ วิธีคิด วิธีทำงานปัจจุบันเป็นอย่างไร ต้องวิเคราะห์ให้ครบถ้วน ที่บอกว่าคนเหมือนองค์กรก็ตรงนี้แหละ ในระบบใหญ่ประกอบด้วยระบบย่อย ๆ มากมาย บางระบบมีปัญหา แต่องค์กรก็ยังเดินหน้าต่อไปได้ ยังทำกำไรได้ ทำให้พนักงานอาจไม่เห็นความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลง
งานของคนพัฒนาองค์กรจึงต้องชี้ให้เห็นความเชื่อมโยง และระบบต่างๆ ที่ยังติดขัดไม่ลื่นไหล หรือพัฒนาจุดใดแล้วจะทำให้องค์กรเดินหน้าได้เร็วกว่านี้ วิธีคิดที่คนพัฒนาองค์กรทุกคนต้องมีคือการคิด แบบ Systemic คิดแบบเห็นภาพรวมทุกระบบเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน
ไม่มีความเห็น