เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๕ - ๙ เมษายน ๒๕๕๓
๑๐ เมษายน ๒๕๕๓
เรียน เพื่อนครูและผู้บริหารที่รักทุกท่าน
วันจันทร์ที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เช้านัดประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาไว้ เมื่อวันอาทิตย์ใช้เวลานั่งอ่านผลงานที่ผู้ขอย้ายส่งมาทั้ง ๑๓ ราย เป็นการดูภาพรวมคู่ขนานไปกับคณะกรรมการกำหนดค่าคะแนนที่ได้ตั้งและดำเนินการไปแล้ว ผมจะเน้นในเรื่องวิสัยทัศน์ทางการบริหาร ผู้ขอย้ายจะเสนอวิสัยทัศน์ในโรงเรียนที่ดำรงตำแหน่งปัจจุบันและโรงเรียนที่ประสงค์จะย้ายไปดำรงตำแหน่ง บางรายใช้การบรรยายวิธีการทำงาน หลายรายก็ไม่แสดงอะไรให้ชัดเจนออกมา ที่หนักกว่านั้น ไม่ได้ส่งเอกสารหลักฐานมาให้ดู มีแต่เล่าให้ฟัง หากเป็นอย่างนี้คะแนนจะต่ำกว่าคนที่ส่งหลักฐานมาพร้อม ถึงสโมสรปรึกษากับท่านรองฯสมมาตร ชิตญาติ ว่าหากพิจารณากลั่นกรองวันนี้ต้องทิ้งไว้ถึง ๓ วัน กว่าจะนำเข้า อ.ก.ค.ศ. เขตพิจารณาอนุมัติ จะเป็นภาระของคณะกรรมการกลั่นกรองนานไปในการรักษาความลับ จึงให้เลื่อนไปพิจารณาก่อนวันประชุมอ.ก.ค.ศ. เขต ๑ วัน มีกรรมการเดินทางมา ๒ – ๓ ราย ได้ขอโทษขอโพยกันตามธรรมเนียม ทุกคนก็เข้าใจเพราะมีบทเรียนมาแล้วในการย้ายที่ผ่านมา ขึ้นห้องทำงานจัดการกับแฟ้มเอกสารและประเมินผลการปฏิบัติราชการของรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้บริหารโรงเรียน คำนวณโควตาการเลื่อน ๒ ขั้น ทั้งตัวเต็มและเศษ ดูละเอียดไปจนถึงสถิติการเลื่อนเงินเดือนในรอบ ๕ ปีที่ผ่านมา สำหรับของครูผู้สอนนั้นโรงเรียนใดมีเศษตั้งแต่ ๐.๗ ขึ้นไปจะปัดเศษให้เป็น ๑ สำหรับโรงเรียนที่ไม่มีตัวเต็มและเศษก็ไม่ถึง ๐.๗ จะให้ ๑ ทุกโรงเรียน หากยังมีโควตาเหลือก็จะเพิ่มให้ลดหลั่นกันลงไป สำหรับผู้บริหารพิจารณาทั้งคุณภาพและคุณธรรม กล่าวคือ คนดีมีฝีมือคะแนนประเมินสูงก็จะให้ คนที่คะแนนอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้ ๑ ขั้นและไม่เคยได้ ๒ ขั้นในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมาก็คิดจะให้เหมือนกัน ได้แยกพื้นที่กระจายความดีความชอบออกเป็นส่วน ๆ คือผู้บริหารโรงเรียนมัธยม(เดิม) ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาและขยายโอกาส ส่วนหลังแยกคิดเป็นอำเภอ ทั้งนี้เพื่อให้การพิจารณาความดีความชอบกระจาย และนำกลุ่มเครือข่ายมากำกับอีกที แค่นี้ก็หมดเวลาทำการโดยไม่รู้ตัวต้องกลับไปคิดต่อในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ
วันพุธที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๓ เช้าแวะดื่มกาแฟที่สโมสรแล้วข้ามถนนไปเยี่ยมสนามสอบวัดสมรรถนะครูที่โรงเรียนปทุมวิไล การจัดการค่อนข้างโกลาหลเพราะเป็นการประกาศที่กระชั้นชิด หลังจากที่เลื่อนมาจากเดือนที่แล้ว วันนี้เป็นการสอบวัดความรู้ครูปฐมวัยและครูประถมศึกษา เกิดความบกพร่องของเขตที่ผมไม่ได้สั่งการให้นำตารางสอบ ผังการสอบขึ้นอินเตอร์เน็ต ครูเลยต้องมามุงดูป้ายประกาศพอ ๆ กับ นักเรียนสอบเข้า ม.๑ เข้าไปดูการทำงานของกองอำนวยการสอบ กำลังแจกซองข้อสอบ บางห้องกรรมการที่ตั้งไว้ไม่มาต้องใช้กรรมการกลางไปคุมสอบแทน กระดาษคำตอบลงทุนไปสั่งแบบที่ตรวจกับเครื่องคอมพิวเตอร์หวังจะใช้เครื่องตรวจของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต พอดูคำสั่งของ สพฐ. เขากำหนดแบบมาให้เสร็จก็ต้องใช้ตามที่เขาสั่ง คือ กากะบาดเหมือนเลือก ส.ส. กลับมานั่งทำงานที่เขตนำความดีความชอบที่ทำค้างไว้เมื่อคืนมาดูต่อ ของบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๓๘ ค.(๒) เป็นของใหม่ ให้ท่านรองฯสมมาตร ชิตญาติ เป็นหัวเรือใหญ่ ยังไม่ลงตัว เลยต้องมานั่งอ่านเกณฑ์เองจนได้ข้อสรุปว่าหลักการสำคัญมี ๔ ส่วน คือ (๑) คะแนนประเมินรายบุคคล (๒)การปรับคะแนนประเมินให้ได้มาตรฐานเดียวกัน (๓)การกำหนดค่าร้อยละให้สอดคล้องกับคะแนนประเมินที่ปรับเป็นมาตรฐานแล้ว เมื่อคูณกับค่ากลางของเงินเดือนแต่ละอันดับรวมกันต้อง(๔)ไม่เกินวงเงินที่ สพฐ. จัดสรรมา คงต้องปรับไปปรับมาจนลงตัว เวลา ๑๓.๐๐น. ประชุมกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารโรงเรียนที่ประสงค์จะขอย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขจรทรัพย์อำรุง มีผู้ขอย้ายในเขตและต่างเขตรวม ๑๓ ราย นำคะแนนของแต่ละรายมาเปรียบเทียบกัน ใครติดใจประเด็นไหนสามารถตรวจสอบข้อมูลกันจนเป็นที่พอใจ ที่ว่าพอใจไม่ได้แปลว่าพอใจกับบุคคลที่อยู่ในลำดับจะได้ย้ายไปดำรงตำแหน่ง แต่พอใจกับกระบวนการว่าเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถอธิบายและตอบคำถามได้สมเหตุสมผล เมื่อมีผู้ใหญ่ฝากมาตามธรรมเนียมราชการไทย สิ่งที่จะช่วยได้คือรักษาความเป็นธรรมไม่ให้ใครมาแย่งไปได้หากอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการแต่งตั้ง ในทางกลับกันหากมีคนที่เหมาะสมกว่า ก็ต้องให้เขาไป ไม่สามารถไปปรับลดคะแนนให้เขาอยู่ในลำดับที่ต่ำกว่าความเป็นจริงได้ ถืออย่างนี้มาตลอด ใช้เวลา ๒ ชั่วโมงจึงได้ข้อยุติ เหลือตำแหน่งว่างอีก ๒ ตำแหน่งไว้พิจารณาในคราวหน้า เพราะต้องไปทำความเข้าใจกับเกณฑ์การย้ายให้ถูกต้อง เวลา ๑๕.๐๐ น. ประชุมคณะกรรกรรมการกลั่นกรองเลื่อนขั้นเงินเดือน คณะกรรมการเห็นด้วยกับแนวทางที่ผมได้ศึกษาไว้ล่วงหน้าและนำมาเสนอที่ประชุมพิจารณา ทุกคนช่วยดูข้อมูลกันอย่างละเอียดตั้งแต่ครูผู้สอน ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูในสำนักงานเขต บุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๓๘ ค (๒) จนเย็นจึงเรียบร้อยบริบูรณ์พร้อมจะนำเสนอที่ประชุม อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ได้ อย่างไรก็ตามฝากท่านรองฯ สมมาตร ชิตญาติ และท่าน ผอ. สำเริง ทองมอญ มาช่วยดูความเรียบร้อยอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ปัญหาหนักใจอีกเรื่องหนึ่งที่ยังแก้ไม่ตก คือ การจัดสรรที่เรียนให้นักเรียนระดับชั้น ม.๑ และ ม.๔ ที่แก้ยากเพราะผู้ปกครองเลือกจะเข้าโรงเรียนยอดนิยม ซึ่งรับนักเรียนไว้เต็มแผนแล้ว ผู้ที่ร้องขอมาต่างบอกว่าขอเพียงคนเดียว รวมแล้ววันหนึ่งประมาณ ๔ – ๕ ราย ฟังเสียงโทรศัพท์เหมือนเบ็ดเราเหมือนปลา กดรับครั้งใดจะต้องถูกฝากมาอย่างน้อย ๑ คน หันไปโรงเรียนที่เขาฝากมาก็สงสารผู้บริหารโรงเรียนหนีหัวซุกหัวซุน โทรศัพท์ปิดตายชั่วคราว ถึงอย่างไรจะพยายามหาทางแก้ปัญหาให้ลุล่วง เพียงแต่ยังคิดไม่ออกบอกไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร รากเหง้าของปัญหาเพราะคุณภาพของโรงเรียนแตกต่างกัน ที่แตกต่างกันเพราะได้รับการจัดสรรทรัพยากรจากรัฐไม่เท่าเทียมกันทั้งคน ทั้งอาคารสถานที่และงบประมาณ ฤาจะต้องเปิดห้องเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิตในโรงเรียนอื่น ๆเป็นพิเศษ เพิ่มเติมเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและสร้างปัญหาระยะยาวต่อไปเรื่อย ๆ
วันพฤหัสบดีที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๓ ออกจากบ้านแต่เช้า พร้อมด้วยท่านรองฯปรีชา บัวกิ่ง จาก สพท.ชุมพร เขต ๑ ซึ่งมาพักค้างที่โรงแรมใกล้บ้านตั้งแต่เมื่อคืน ไปเปลี่ยนรถสำนักงานที่เขต เดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อประชุมของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เรื่อง การส่งเสริมการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ ที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ใช้ถนนเชียงรากน้อย-บางปะอิน เพียง ๔๐ นาทีก็เข้าเขตเมือง ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักก็ถึงโรงแรม นั่งคุยกับ ดร.ดิเรก พรสีมา ประธานกรรมการคุรุสภา ถึงปัญหาต่าง ๆ ของการจัดการศึกษา นั่งฟังบรรยายพิเศษและการชี้แจงการส่งเสริมการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพ เขาจัดสรรงบประมาณให้เขตละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อจัดพิมพ์สมุดบันทึกความดีแจกครูทุกคน มีตัวอย่างมาให้ เที่ยงไม่ได้กินข้าวที่โรงแรมเพราะจะรีบกลับเขต ด้วยนัดประชุม อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ไว้เวลา ๑๕.๐๐ น. มาแวะกินข้าวที่ร้านอาหารเรือไม้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงเขตประมาณบ่ายโมง นั่งดูความเรียบร้อยระเบียบวาระประชุม จนได้เวลานัดหมายลงไปประชุมที่ห้องประชุมชั้น ๒ เป็นการประชุมครั้งแรกของอนุกรรมการคณะนี้ เพราะ ก.ค.ศ.เพิ่งประกาศตั้งเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๓ ประกอบด้วย นางส่งศรี วรรณเสน ผู้แทน ก.ค.ศ. นายอเนก ล่วงลือ ผู้แทนคุรุสภา นายแสนยา สามไชย ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านบริหารงานบุคคล นางรพีพรรณ เอกสุภาพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา นางสาวกัลปยกร แก้วประสิทธิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายหรือการเงินการคลัง นายเดชา พวงงาม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านอื่น ๆ นายศักดิ์ชัย ปัญหา ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาสายมัธยมศึกษา นายสำเริง ทองมอญ ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาสายประถมศึกษา นายวีระ พานทอง ผู้แทนข้าราชการครูสายมัธยมศึกษา นายไพฑูรย์ กะดีแดง ผู้แทนข้าราชการครูสายประถมศึกษา นายสุทธิพงษ์ สุขะ ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น มีผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑ เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ (โดยตำแหน่ง) เมื่อที่ประชุมพร้อมผมเสนอชื่อท่าน แสนยา สามไชย เป็นประธานที่ประชุมชั่วคราวเพราะอาวุโสสูงสุด เพื่อเลือกประธานอนุกรรมการ มีการเสนอชื่อและลงคะแนนลับ ที่ประชุมเสียงข้างมากได้เลือกนายแสนยา สามไชย เป็นประธาน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑ จึงได้ดำเนินการประชุมต่อไปตามระเบียบวาระ มีการอนุมัติการแต่งตั้งผู้บริหารโรงเรียนขจรทรัพย์อำรุง การพิจารณาให้ความเห็นชอบการเลื่อนเงินเดือนครั้งที่ ๑(วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๓) การอนุมัติและไม่อนุมัติผลการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ การเรียกบรรจุผู้สอบแข่งขันได้เป็นครูผู้ช่วยในตำแหน่งว่าง เลิกประชุมเอาเกือบ ๑๘ นาฬิกา ได้เชิญอนุกรรมการไปรับประทานอาหารเย็นที่สโมสรเขต เป็นการเลี้ยงรับรองไปในตัว ดูองค์ประกอบของอนุกรรมการน่าจะช่วยให้การบริหารงานบุคคลเดินหน้าและต่อเนื่องจากชุดเก่า เพราะมีอดีต ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑ เข้ามา ๒ ราย อดีตหัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในอีก ๑ ราย ท่านเดชา พวงงาม รองปลัด อบจ.ปทุมธานี ก็เคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต ๑ ทุกคนรู้จักคนรู้จักพื้นที่มากกว่าเลขานุการแทบทั้งสิ้น
วันศุกร์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๓ วันนี้เขานัดหมายจัดงานสืบสานวัฒนธรรมไทยกันที่สำนักงานเขต ใช้ลานใต้อาคารเป็นพื้นที่จัดงาน ตั้งเวที ตั้งซุ้มอาหารที่แต่ละกลุ่มงานจัดกันมาเป็นทิวแถว มีโต๊ะจีนให้นั่ง ได้เชิญอดีตผู้บังคับบัญชามารดน้ำขอพรต่อเนื่องกันมาทุกปี ปีนี้มีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตมาร่วม ๒ ท่าน คือ ท่านแสนยา สามไชย ท่านรพีพรรณ เอกสุภาพันธ์ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานเขต ๑ ท่าน คือ ท่านโพยม ชมพูแสง ถึงเวลาเขาเชิญขึ้นไปรดน้ำ คนอายุมากกว่าเขาก็อวยพรให้เรา คนอายุน้อยกว่าเราก็ให้พรเขา เสร็จพิธีรับประทานอาหารร่วมกัน ขึ้นไปทำงานแฟ้มเอกสารจนเสร็จ ลงมาสมทบกับผู้บริหารโรงเรียนที่สโมสร มีท่านธนารักษ์จังหวัดปทุมธานีมาร่วมด้วย ติดตามสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่สถานีไทยคม อำเภอลาดหลุมแก้ว เพราะอยู่ใกล้กับโรงเรียนวัดบ่อเงินและโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยปทุมธานี รับนโยบายจาก ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ. ในการแก้ปัญหาในกรณีฉุกเฉินแล้วประสานกับผู้บริหารโรงเรียนทั้ง ๒ แห่งเป็นระยะ ๆ จนเหตุการณ์คลี่คลาย ประสานกับท่านรองฯครรชิต หิรัณยหาด สั่งเจ้าหน้าที่งดทำงานบนอาคารหลัง ๑๗.๐๐ น. ให้ปิดประตูทางขึ้นทั้งหมดเพื่อรักษาความปลอดภัย เพราะสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจนัก
สถานการณ์ร้อนแรงทางการเมืองของไทยในวันนี้คิดถึงหนังสือปรัชญาการเมืองเรื่อง “The Prince” ที่เขียนโดยนิคโคโล ดี แบร์นาโด แมคเคียเวลลี (Niccolo diBernarde Machiavelli) ซึ่งเคยศึกษาเล่าเรียนมาในหลักสูตรนักปกครองระดับสูง ในบทที่ ๑๗และ ๑๘ พอเทียบเคียงแนวคิดและความเชื่อของผู้ปกครองได้บ้างว่าเขาเชื่ออย่างไรซึ่งมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมในการใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองของเขา แมคเคียเวลลีกล่าวว่าหากจะพูดถึงความใจร้ายใจดีและเป็นผู้ปกครองที่มีคนรักหรือคนชัง ถ้าให้เลือก ควรเป็นผู้ปกครองที่คนกลัวดีกว่าเป็นผู้ปกครองที่คนรัก แมคเคียเวลลีก็พูดต่อว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้รักและกลัว แต่ถ้าเลือกไม่ได้ให้กลัวดีกว่ารัก ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? แมคเคียเวลลีเขียนว่ามนุษย์โดยทั่วไปแล้วเป็นพวกที่ชอบหลอกลวง ไม่ค่อยสำนึกบุญคุณคน เป็นคนขี้ขลาด ถ้าภัยอันตรายมาก็จะหนี หลบเลี่ยง ถ้าของดีมีประโยชน์มาก็จะอยากได้ ดีจะเอา ร้ายจะปัดตลบตะแลงแล้วก็ไม่สำนึกบุญคุณคน เป็นลักษณะทั่วไปของมนุษย์ ดังนั้น ขณะที่ผู้ปกครองให้ประโยชน์แก่เขา เขาก็จะอยู่กับท่าน ยอมเสียเลือดเสียเนื้อให้ ตราบใดที่ท่านยังให้ประโยชน์อยู่ แต่ถ้าไม่มีผลประโยชน์อะไรที่จะให้กับพวกนี้ พวกนี้ก็จะตีจาก ท่านก็จะล่มจม มนุษย์ส่วนใหญ่ก็จะไม่ลังเลที่จะปฏิเสธ/ตีจาก/ทำร้าย ผู้ปกครองที่เน้นการทำตัวให้เป็นที่รัก ซึ่งมันจะตรงกันข้ามกับผู้ปกครองที่สามารถสร้างความกลัวให้กับบุคคลอื่นได้ ความกลัว มันสามารถคุมบุคคลอื่นได้เพราะว่ามันมีความเกรงกลัวต่อการที่จะถูกลงโทษ แต่ความรักมันไม่ได้ถูกผูกไว้ด้วยการลงโทษแต่มันผูกไว้ด้วยผลประโยชน์ส่วนตัวของผู้คน สำหรับแมคเคียเวลลีแล้ว ความรักมันจะมาจากผลประโยชน์ส่วนตัวว่าเป็นผู้ให้ ให้มากรักมาก แต่พอไม่ให้ ก็ตีจากได้เลย แต่ถ้ากลัว สิ่งท่านกลัวไม่ใช่กลัวที่จะไม่ได้ผลประโยชน์ แต่กลัวที่จะถูกลงโทษถ้าไม่ทำตามที่ผู้ปกครองต้องการ คนอื่นกลัวผู้ปกครอง ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครรักเขาเลย แต่ก็ต้องไม่มีใครที่เกลียดเขาเหมือนกัน แมคเคียเวลลีต้องการให้แยกระหว่างความเกลียดกับความกลัวว่ามันต่างกัน คือ กลัวแต่ไม่เกลียด สำหรับแมคเคียเวลลี ถ้าผู้ใต้ปกครองเกลียดล่ะจะยุ่ง กลัวในที่นี้คล้ายกับเคารพยำเกรง แต่อย่าให้เกลียด เกลียดมันล้มอำนาจ แต่กลัวคือ รู้ว่าถ้าไปทำจะโดนลงโทษ เคลื่อนไหวจะโดนเลย ถ้าเลือกได้ต้องเป็นทั้งสองอย่างให้เค้ารักและเค้ากลัว แต่ถ้าเลือกไม่ได้ให้เค้ากลัวเราดีกว่า และการให้เขากลัวเรานั้นต้องทำให้กลัวแต่ไม่เกลียด เพราะถ้าเกลียดจะเกิดความต้องการล้มอำนาจขึ้นมาทันที สรุปในบทนี้ว่าผู้ปกครองที่ฉลาดควรคิดจะกระทำในสิ่งที่เขาสามารถควบคุมได้ การสร้างความรักให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนแก่ผู้ปกครองเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ขึ้นอยู่กับราษฎรมากกว่าตัวผู้ปกครองเอง แต่สิ่งที่ขึ้นกับตัวผู้ปกครองคือการใช้กำลัง ดังนั้น ผู้ปกครองจึงต้องใช้กำลังควบคุมราษฎรไว้ ใช้กำลังอย่างเด็ดขาด ฆ่าได้ฆ่าแต่อย่าไปยึดทรัพย์ บทที่ 18 คำถาม คือ ผู้ปกครองควรที่จะรักษาคำพูดมากน้อยแค่ไหน? แมคเคียเวลลีเขียนว่าจากประสบการณ์ ผู้ที่ประสบความสำเร็จสร้างเกียรติศักดิ์และความรุ่งเรืองจะเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยสนใจในการรักษาคำพูดมากนัก คือ มีทักษะในการหลอกล่อผู้คน ไม่ตรงไปตรงมา แล้วก็ผู้ปกครองที่ประสบความสำเร็จมักเป็นคนที่เก่งในการหลอกคนที่ชอบรักษาคำพูดหรือซื่อสัตย์คนที่ซื่อสัตย์จะเสียเปรียบคนที่มีอุบายมาก มาถึงย่อหน้าที่สำคัญ ท่านควรจะรู้ไว้อย่างหนึ่งว่าผู้ปกครองสามารถใช้วิธีการได้สองวิธี วิธีหนึ่งก็คือ การใช้หลักกฎหมาย อีกวิธีการหนึ่งคือการใช้หลักกำลัง/ร่างกายอำนาจมันใช้กับสองทาง ทางหนึ่งเป็นอำนาจที่ใช้กับมนุษย์ อีกทางหนึ่งเป็นอำนาจที่ผู้ปกครองใช้กับสัตว์ อันนี้พูดในเชิงเล่นคำพูด เป็นการเล่นคำ คือ หนังสือเรื่อง The Prince เขียนในภาษาอิตาเลียนยุคหลังซิเซโร่ ที่ประหลาดคือไม่ได้เขียนในภาษาลาตินตามที่นักวิชาการในสมัยนั้นชอบเขียน แต่หนังสือเล่มนี้เขียนในภาษาอิตาเลียนและจะมีการเล่นคำค่อนข้างมาก ในบทที่ 18 ก็เช่นกัน คำที่เล่นคือมนุษย์ กับ สัตว์ แต่ทั้งสองคำหมายถึงสองด้านของมนุษย์ สำหรับหลักกฎหมายนั้นมันเหมาะสมกับมนุษย์ อีกด้านคือให้เลียนแบบสัตว์คือให้เลียนแบบทั้งจิ้งจอกและสิงโต สิงโตตรงไปตรงมามันอาจเสียรู้และอาจติดกับได้ แต่จิ้งจอกมันกะล่อน แต่สิงโตสามารถใช้กำลังไล่หมาป่าได้ แต่อาจจะไม่ฉลาดพอที่จะหลบเลี่ยงกับดักของนายพราน ในขณะที่จิ้งจอกมันกะล่อนพอที่จะหลบกับดักของนายพราน แต่ไม่เกรงขามพอที่จะขับไล่สุนัขป่า ผู้ปกครองควรหัดที่จะเลียนแบบทั้งสองประเภท ทั้งกำลัง และอุบาย นั่นคือ ควรรู้จักที่จะเป็นจิ้งจอกที่จะรู้ว่าตรงไหนเป็นกับดัก และรู้จักที่จะเป็นสิงโตแสดงความเกรงขามต่อสัตว์ทั้งหลาย ผู้ปกครองที่ไหนที่ใช้แบบเดียว ก็คือผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจประเด็นที่เขากำลังพูดถึง นั่นคือ วิธีการที่จะใช้อำนาจของผู้ปกครอง ดังนั้น แมคเคียเวลลีวกกลับมาสรุปว่า มันก็เป็นการฉลาดกว่าถ้าผู้ปกครองจะไม่ต้องรักษาคำพูดตลอดเวลา ถ้าการรักษาคำพูดมันสร้างความเสียหายให้กับการปกครองและอำนาจ หรือสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนไป ไม่มีเหตุผลที่จะรักษาคำพูดก็ไม่ต้องรักษาคำพูด แมคเคียเวลลีได้เขียนต่อว่า “คำแนะนำที่เขากล่าวมาแล้ว มันจะใช้ไม่ได้ถ้ามนุษย์ทุกคนเป็นคนดี แต่ที่มันใช้ได้เพราะมนุษย์มันแย่ และมนุษย์เองก็จะไม่รักษาคำพูดหรือรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวท่าน ดังนั้น เมื่อมนุษย์มันแย่มันไม่รักษาคำพูด ตัวท่านผู้ปกครองเองก็ไม่จำเป็นต้องรักษาคำพูดเช่นกัน”
กำจัด คงหนู
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑
ความเห็น (12)
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ....มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
ระรื่นชื่นสงกรานต์ บริบาลประเพณี
เริงรื่นชื่นฤดี บันเทิงที่กาลสมัย
ทำบุญหนุนเนืองพร อีกไหว้วอนพรผู้ใหญ่
สุขล้ำลำนำไทย รับปีใหม่ในสงกรานต์
ตรุษสงกรานต์งานบุญรับคุณท่าน
พรอนันต์จงประสบพบสิ่งใหม่
ให้ชีวีชุ่มฉ่ำล้ำน้ำใจ
ได้หล่อเลี้ยงทุกถ้วนไทยปีใหม่เทอญ
สวัสดีวันปีใหม่ไทย
ขอให้สุขใจสุขสรรและสุขขี
ทุกถ้วนหน้าทุกคนสมฤดี
ตลอดปีตลอดไปทุกคนเอ๋ย....
ประมวลความดีมั่นสุขสรรเสริญ พรประเมินมาประมูลเพิ่มพูนผล
คุณธรรมจริยธรรมนำมงคล บันดาลดลในดิถีปีใหม่ไทย
เกษมสันต์มั่นมิ่งสิ่งโสมนัส ฤกษ์นักษัตรสงกรานต์สมานสมัย
วัฒนธรรมทูนเทิดเลิศพิไล สานสายใยผูกพันวันครอบครัว
ครูไม่เล็ก
การเป็นผู้นำที่ดีนั้นยาก แต่การเป็นผู้บริหารที่ดีนั้นยากกว่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารบุคลากรนั้นยากยิ่งกว่าการบริหารใด ๆ เพราะบุคคลมีการเลื่อนไหล เปลี่ยนแปลงทั้งความคิด จิตใจ ตลอดเวลา แต่ก็อย่าลืมว่ามีองค์กร มีงาน มีผู้ใต้บังคับบัญชา ถึงได้มีเรา(ผู้นำและผู้บริหาร)
ผู้บริหารที่เก่งนั้นเคยได้ยินมาว่าขอเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพรักสัก 50% ของคนในองค์กรก็ถือว่าประสบความสำเร็จในภาระหน้าที่แล้ว (ไม่รู้ว่าจริงไหม)
สวัสดีปีใหม่ไทยทุก ๆ ท่าน
มีเอกเคมีหรือเปล่าค่ะ เพราะอัตราเออรี่ไม่มีเอกเคมีเลย สงสัยไม่มีอีกแล้ว เหนื่อยกับการรอคอยที่ไม่มีทางเป็นไปได้ หนูถามดูเฉยๆ
สวัสดีปีใหม่ไทยครับท่านเขต
ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง
ทรงไว้ด้วยความยุติธรรมตลอดไปครับท่าน
สวัสดีปีใหม่ค่ะท่าน ผอ. และชาวโลก...
อ่านเรื่องเล่าวันที่ 9 แล้วชอบมากเลย...ได้หลักในการจะไปเป็นผู้บริหารอีกหลักแล้ว...(ถ้าสอบผ่าน ภาค ข นะ คริคริ)
ขอบคุณท่านมาก...ชอบตรงที่แมคเคียเวลลีกล่าวไว่ว่า...."เป็นมนุษย์ให้เลียนแบบทั้งจิ้งจอกและสิงโต
สิงโตตรงไปตรงมา แต่จิ้งจอกมันกะล่อน
ผู้ปกครองควรหัดที่จะเลียนแบบทั้งสองประเภท ทั้งกำลัง และอุบาย...
มันก็เป็นการฉลาดกว่าถ้าผู้ปกครองจะไม่ต้องรักษาคำพูดตลอดเวลา
ถ้าการรักษาคำพูดมันสร้างความเสียหายให้กับการปกครองและอำนาจ
หรือสภาพแวดล้อมมันเปลี่ยนไป ไม่มีเหตุผลที่จะรักษาคำพูดก็ไม่ต้องรักษาคำพูด..".
จึงเข้าใจว่า...ทำไมท่านจึงกล้า....ที่จะเขียนถึงข้อบกพร่อง...ข้อผิดพลาด...ของสำนักงานเขต..(ลูกน้องท่าน)
ขอคารวะ...ท่านจริง ๆ...
ครูบ้านนอก
บรรยากาศดูอบอุ่นดี รักษาประเพณีดีอันดีงามคงไว้ให้ลูกหลาน
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยค่ะ
เอกวิทยาศาสตร์
ของขวัญปีใหม่ที่ผมอยากได้ขอให้ ผอ.เขตช่วยให้เรียกบรรจุเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป 10 อัตราด้วยนะครับ
เอกวิทยาศาสตร์
ของขวัญปีใหม่ที่ผมอยากได้ขอให้ ผอ.เขตช่วยให้เรียกบรรจุเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป 10 อัตราด้วยนะครับ
น้องเอกวิทยาศาสตร์ ผอ.เขตช่วยเรียกบรรจุเร็วไม่ได้หรอก อยู่ที่อัตราจะว่างมากน้อยแค่ไหนและอยู่ที่ว่า ผอ.โรงเรียนต้องการเอกอะไรมากกว่า
ผู้รักในวิชาชีพครู
น้องเอกวิทย์ และทุกเอกที่รอเรียกบรรจุ ขอเป็นกำลังใจ การบรรจุขึ้นอยู่กับความขาดแคลนบุคลากรในโรงเรียน เป็นมติของคณะครูและคณะกรรมการสถานศึกษา ที่สำคัญเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมีครูตรงตามวิชาเอก ส่งผลให้นักเรียนมีคุณภาพ เวลาที่รอคอยเป็นเวลาที่มีค่า ขอให้น้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อพัฒนาการศึกษาของเราชาวปทุมธานี พี่เป็นกำลังใจ และรอคอยผู้ร่วมวิชาชีพที่มีคุณภาพนะคะ
ครูโรงเรียนวัดสุทธาวาส
ขอบพระคุณท่าน ผอ.เขตฯมากค่ะที่ทำให้ทราบข้อมูลต่างๆมากมาย ได้ความรู้ ได้แง่คิดหลายๆอย่าง