ภาพประวัติศาสตร์ที่ได้รับการจดจำและกล่าวขานมานาน
ผมพบหนังสือชื่อ "รอยยิ้มของในหลวง" เลือกในภาพนี้เป็นภาพปก
แถมพบเรื่องราวที่มาของภาพอีกครั้ง หลังจากเคยเขียนบันทึกไว้บ้างแล้ว
ปกหนังสือ "รอยยิ้มของในหลวง" Smiles of the King
มีคำบรรยายปกใน บรรยายไว้ว่า ...
ที่จังหวัดนครพนม บ่ายวันที่ ๑๓ พ.ย.๒๔๙๘ หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารเสร็จสิ้นในช่วงเช้าแล้ว ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งกลับไปประทับ ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ราษฎรที่รู้ข่าวต่างพากันอุ้มลูกจูงหลานหอบกับมารับเสด็จที่ริมถนนอย่างเนืองแน่น ดังเช่น ครอบครัวจันทนิตย์ ที่ลูกชายช่วยกันนำแม่เฒ่าตุ้ม จันทนิตย์ วัย ๑๐๒ ปี ไปรอรับเสด็จห่างจากบ้านประมาณ ๗๐๐ เมตร โดยได้จัดหาดอกบัวสายสีชมพูให้แม่เฒ่าจำนวน ๓ ดอก และพาออกไปรอที่แถวหน้า เพื่อให้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมากที่สด เปลวแดดร้อนตั้งแต่เช้าจนสาย เที่ยงจนบ่าย แสงแดดเผาเอาจนดอกบัวภายในมือเหี่ยวโรย แต่หัวใจรักภักดีของหญิงชรายังคงเบิกบาน
เมื่อเสด็จฯ มาถึงบริเวณสามแยกชยางกูร - เรณูนคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หยุดรถพระที่นั่ง เสด็จฯ ลงไปเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จ เมื่อเสด็จฯ มาถึงตรงหน้า แม่เฒ่าตุ้มได้ยกดอกบัวสายที่โรยราสามดอกนั้นขึ้นจรดเหนือศีรษะแสดงความจงรักภักดีอย่างสุดซึ้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโน้มพระองค์อย่างต่ำที่สุด จนพระพักตร์เกือบชิดศีรษะแม่เฒ่า ทรงแย้มพระสรวลและยื่นพระหัตถ์แตะมืออันกร้านคล้ำของหญิงชราชาวอีสานอย่างอ่อนโยน เป็นภาพที่ไม่จำเป็นต้องมีคำบรรยาย ไม่มีใครทราบว่าได้รับสั่งกับแม่เฒ่าอย่างไร แต่แน่นอนว่าแม่เฒ่าจะไม่มีวันลืม
เช่นเดียวกับในหลวงที่ไม่ทรงลืมพสกนิกรชาวไทย หลังจากเสด็จฯ กลับกรุงเทพฯ แล้วทางสำนักพระราชวังได้จัดส่งภาพรับเสด็จของแม่เฒ่าตุ้ม พร้อมกับพระบรมรูปหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาพระราชทานผ่านทางอำเภอพระธาตุพนม ให้กับแม่เฒ่าตุ้มไว้เป็นที่ระลึก พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ นำความปลื้มปิติยินดี ซึ่งอาจมีส่วนชุบชีวิตให้แม่เฒ่ายืนยาวด้วยความสุขต่อมาอีกถึง ๓ ปี จึงถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่ออายุได้ ๑๐๕ ปี
ภาพนี้ นายอาณัติ บุนนาค
หัวหน้าฝ่ายช่างภาพประจำพระองค์ได้บันทึกภาพในวินาทีสำคัญที่กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่ง และเรื่องราวความเป็นมาของภาพต้องใช้เวลาสืบค้นนานถึง ๔๐ ปี
หนังสือเล่มนี้ คนไทยอย่างคุณมีหรือยัง ;)
ผมตั้งคำถามเอาไว้ เผื่อคุณได้เจอหนังสือเล่มนี้แล้วยังตัดสินใจไม่ได้
รายได้มอบให้มูลนิธิพระดาบสนะครับ
ราคา ๓๐๐ บาท เป็นกระดาษอาร์ตมันทั้งเล่ม
เนื้อหาในตัวเล่มเป็นเรื่องเล่าจากบุคคลผู้ใกล้ชิดในหลวง
หลายเรื่องคุณไม่เคยได้ยินมาก่อน
หนังสือเล่มนี้ควรค่าสำหรับการเทิดทูนในหลวงเป็นอย่างยิ่ง
ผมจึงเขียนบันทึกนี้ขึ้นมา
ลองค้นหาดูจากร้านหนังสือดูนะครับ ;)
ทรงมีพระราชจริยาวัตรงดงามที่สุด
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
แหล่งที่มาของภาพและข้อมูล
กองบรรณาธิการ สำนักข่าวเจ้าพระยา. รอยยิ้มของในหลวง. ลำพูน: สำนักข่าวเจ้าพระยา, ๒๕๕๓.
สวัสดีครับท่าน อาจารย์
เห็นภาพในหลวง อ่านเรื่องราวตอนดึกๆนึกทบทวนตัวเอง
พระคุณแผ่นดินทดแทนไม่สิ้นแล้ว
ขอบคุณมากครับ ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า ;)
เรามาช่วยกันทดแทนบุญคุณท่านและแผ่นดินกันนะครับ
ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์หมอ JJ ;) มาก ๆ ครับ
เป็นเรื่องเดียวที่ได้อ่าน ได้ชมคราใด เรียกใจไหวๆ ตารื้นๆ ทุกครั้ง เฮ้อ
... เกิดมาครั้งหนึ่งควรได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน ...
ขอพ่อหลวงทรงพระเจริญ และบ้านเมืองสุข สงบด้วยพระบารมีเจ้า ค่ะ
เรามาทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อในหลวงของเรากันนะครับ คุณ poo ;)
ขอบคุณมากครับ คุณ ครู kij ;)
ร้อยรัดดวงใจเพื่อเทิดไท้องค์ราชัน ที่พระองค์ทรงฝ่าฟันให้ไทยนั้นได้ร่มเย็น
ขอบพระคุณครับ ท่าน กบร.ศสพ. ;)
ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อพวกเราจริง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ขอบคุณมากครับ คุณ poo31 ;)
ในหลวงท่านทรงงานเหนื่อยเพื่อคนไทยมามากมาย ขอให้พวกเรารักและสามัคคีกัน เพื่อให้ท่านสุขใจที่เห็นคนไทยรักกันจะได้ไม๊
ขอให้เป็นเช่นนั้นครับ คุณ ญาดา ;)...
ขอบคุณมากครับ