ช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ภายใต้กระแสการเรียกร้องทางการเมืองที่ร้อนแรง ยังมีอีกมุมหนึ่งของการเรียกร้องขอพื้นที่ที่จะสามารถแสดงความเป็นตัวตน ความเป็นอัตลักษณ์ในชาติพันธุ์ของตน กับการแสดง ดนตรีชาติพันธุ์พันแสงรุ้ง ที่หอแสดงดนตรี อาคารภูมิพลสังคีต วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล...
ซึ่งเป็นความร่วมมือของหลาย ๆ ฝ่าย โดยมีหัวแรงใหญ่คือ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล บริษัทป่าใหญ่ครีเอชั่นจำกัด ชุมชนคนรักป่า และทีวีไทย โดยการแสดงดนตรีในวันนั้นสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าชมมาก ๆ ครับ จากการแสดงของกลุ่มชาติพันธุ์ ปกาเกอะญอ ดาราอัง ไทใหญ่ ลัวะ และม้ง...
สิ่งที่ได้เห็นอีกอย่างจากการแสดงบนเวทีในวันนั้น คือการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากคนหลายช่วงวัย ได้เห็นคนรุ่นปู่ รุ่นย่าได้ถ่ายทอดศิลปะ วัฒนธรรมทางดนตรี ให้กับลูกรุ่นหลาน เพื่อสืบทอดและดำรงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์แห่งความชาติพันธุ์ ไม่ให้สูญสลายไปพร้อม ๆ กับคนรุ่นเก่าและกาลเวลาที่ผ่านไปนะครับ...
หลาย ๆ ประโยคที่เกิดขึ้นบนเวทีได้สะท้อนมุมมองทางด้านสิทธิมนุษยชน ของคนกลุ่มชาติพันธุ์ได้ชัดเจนมากครับ โดยก่อนที่ ชิ นักดนตรีปกาเกอะญอ จะร้องเพลง ไก่กำพร้า ได้พูดว่า ชาวปกาเกอะญอภูมิใจและคิดว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นไทย แม้ว่าบางครั้งคนไทยจะไม่ได้ยอมรับว่าพวกเขาเป็นคนไทยก็ตาม...
สิ่งที่สร้างความประทับใจให้ผมและผู้เข้าชมการแสดงในวันนั้นอีกอย่างคือช่วงท้ายของการแสดง คุณชมพล เอกสมญา ลูกชายจ่าเพียร ได้มาถ่ายทอดบทเพลงที่ตนแต่งให้ผู้เป็นพ่อก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการขึ้นคอนเสิร์ตครั้งแรกหลังจากเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียในครั้งนั้น...
สำหรับผมแล้วสิ่งที่สะท้อนขึ้นในวันนั้นคือ ยังมีผู้คนในสังคมอีกมากมายที่เป็นกลุ่มคนชายขอบ ที่ต้องการพื้นที่ไม่เฉพาะแค่พื้นที่ทางกายภาพ แต่เป็นพื้นที่ทางสังคมที่พร้อมเปิดโอกาสให้พวกเขาได้บอกเล่าและแสดงเรื่องราวความเป็นตัวตนของพวกเขา อย่างน้อยก็เพื่อให้สังคมได้รู้ว่า พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่พร้อมจะสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในสังคมนะครับ...
เสียดายมาก ๆ ไม่ได้ไป
มารู้อีกทีเมื่องานจัดเสร็จไปอแล้ว
งานนี้มีคนที่รู้จักคุ้นเคยกันจำนวนมากเลยครับ ที่มาร่วมงาน
สวัสดีค่ะ คุณMr.Direct : เชื่อไหมค่ะว่าตามงานนี้มาจากรายการของพี่นกมาเป็นเดือน พอถึงวันงานกลับลืมค่ะ จนมาเห็นบันทึกนี้แหละค่ะ น่าเจ็บใจจริงๆ วันหน้ามีรายการดีๆ ชวนกันบ้างนะค่ะ .. ดีใจที่ได้รู้จักค่ะ =)
ครับ... พี่หนาน หนานเกียรติ
ผมมีโอกาสได้ชมการแสดงของ ชิ ครั้งหนึ่งที่มูลนิธิมะขามป้อม เลยประทับใจครับ...
ครั้งนี้เลยรีบจองบัตรก่อนหลายวันเลยครับ...
โอกาสหน้าน่าจะมีนัดอีกนะครับ...
ขอบคุณมากครับ...
ย่อหน้าสุดท้ายสะท้อนมุมคิดได้ลึกซึ้งและกินใจมากครับ
สำหรับผมแล้วสิ่งที่สะท้อนขึ้นในวันนั้นคือ ยังมีผู้คนในสังคม อีกมากมายที่เป็นกลุ่มคนชายขอบ ที่ต้องการพื้นที่ไม่เฉพาะแค่พื้นที่ทางกายภาพ แต่เป็นพื้นที่ทางสังคมที่พร้อมเปิดโอกาสให้พวกเขาได้บอกเล่าและแสดงเรื่อง ราวความเป็นตัวตนของพวกเขา อย่างน้อยก็เพื่อให้สังคมได้รู้ว่า พวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่พร้อมจะสร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นในสังคมนะครับ...
ครับ... ณัฐพัชร์
โอกาสหน้ามีรายการดี ๆ จะแจ้งไปล่วงหน้านะครับ พร้อม remind เรื่อย ๆ กันลืมด้วยครับ...
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับผม...
ขอบคุณมากครับ...
สวัสดีค่ะ..
ชอบบรรยากาศค่ะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาชมบรรยากาศ
ภายในงานด้วยคนนะคะ
ขอบคุณค่ะ^__^