วันที่ตัดสินใจ...ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต


วันที่ ๒๐ มิย.๔๙ และเป็นวันหนึ่งที่ผมจะจดจำไปทั้งชีวิต ตั้งใจเขียนบันทึกไว้เพื่อเก็บเป็นความทรงจำ หากวันหนึ่งได้หวนมาอ่านอีกครั้ง

๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๙ 

วันนี้เป็นวันที่ผมตัดสินใจเขียนใบลาออกจากราชการ

ผมคิดมานานแล้ว...และเมื่อได้เริ่มรู้จัก Gotoknow ได้อ่านบันทึกของ Bloger ท่านหนึ่ง เรื่องราวเกี่ยวกับ "การแสวงหาสิ่งที่ชอบ เป็นคำตอบของชีวิต" จากนั้นก็คิดมาเรื่อย...จนตัดสินใจเอาเมื่อวานนี้ ว่าถึงเวลาแล้ว...

ผมรับราชการมาประมาณ ๑๒ ปี ทำงานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของผู้คน และทำงานด้านการพัฒนาสุขภาพที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพ ตามบทบาทหน้าที่

นับจากวันแรกที่รับราชการ เป็นวันที่เต็มไปด้วยความหวังและความฝัน มีสิ่งที่จะต้องคิดทำอีกมากมาย และคิดว่า  โชคดีที่ได้ทำงาน เป็นความหวังของคนหลายคน จวบจนมาถึงวันนี้ฝันที่มีก็มีหลายส่วนที่ได้ทำ อีกหลายส่วนยังคงเป็นฝันต่อไป เพราะมีข้อจำกัดและสถานการณ์ที่เปลี่ยนผ่าน

เวลาผ่านมา ได้เรียนรู้ ระหว่างการทำงาน ก็ได้ค้นพบตัวเองว่า ไม่เหมาะสมเลยที่ต้องมาทำงานลักษณะแบบนี้ ระบบแบบนี้ หลายคนให้กำลังใจว่า "เมื่อไม่ได้ทำสิ่งที่ชอบ ก็จงชอบในสิ่งที่ทำ"  ...คำพูดเหล่านี้ทำให้อดทนทำงานเรื่อยมา กอรปกับตัวเองก็มีทางเลือกไม่กี่ทาง

ถามว่า "ภูมิใจมั้ย" ตอบได้เลยว่า "ภูมิใจมาก" ซึ่งตลอดเวลาที่ทำงาน ได้ตั้งใจทำงาน และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆตลอดมา สิ่งที่ได้รับก็เป็นความรู้ที่สั่งสม ประสบการณ์และการได้รู้จักผู้คนหลากหน้าที่ การงานและความคิด

วันนี้กลับมาอ่าน บันทึกเก่าๆ จาก Gotoknow ทำให้มีกำลังใจขึ้นอีกครั้ง คิดว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ "การตัดสินใจ" และ สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ "การทำให้ดีที่สุด" ทำงานอะไร อาชีพใด ก็ทำคุณประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัวและประเทศชาติได้เหมือนกัน

- - -หากไม่ชอบ ไปไม่ไหว ก็ไม่ควรฝืน - - -

ผมเลยตัดสินใจเขียนใบลาออกจากราชการ ในตอนสายของวันนี้

วันที่ ๒๐ มิย.๔๙ และเป็นวันหนึ่งที่ผมจะจดจำไปทั้งชีวิต ตั้งใจเขียนบันทึกไว้เพื่อเก็บเป็นความทรงจำ หากวันหนึ่งได้หวนมาอ่านอีกครั้ง

 

                                                                          ๒๐ มิถุนายน ๒๕๔๙

                                                               วันที่ฟ้าฉ่ำฝน.....แม่ฮ่องสอน

                                                                          

คำสำคัญ (Tags): #วิถีคน#วิถีคิด
หมายเลขบันทึก: 34802เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2006 15:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 18:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
มีความสุขกับงานใหม่นะครับ คุณจตุพรเป็นโจนาธานตัวหนึ่งที่กำลังบินออกจากฝูงเหล่านกนางนวลนะครับ เป็นกำลังใจนะครับ
  • ขอให้โชคดี  และได้ทำในสิ่งที่ชอบ
  • แล้ว..แสวงหาคำตอบของชีวิตได้หรือยังคะ

 

เมื่อไม่กี่วันมานี้...ก็คิดที่จะลาออกจากราชการเช่นกัน เนื่องจากจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต ทำแล้วตนมีความสุข...เป็นคนที่ไม่ได้ยึดติดกับวัตถุ ยศฐาบรรดาศักดิ์ เลยแม้แต่นิดเดียว

แต่ในระหว่างการตัดสินใจ ต้องใช้สติทุกขณะจิตเนื่องจากหากพลาดแล้วพลาดเลย โอกาสที่จะหวนกลับมาทางเดิมใหม่มีน้อยมากในขณะที่ตัวเลขของอายุก็มีแต่เดินหน้าไม่ได้หวนทวนกลับที่เดิม ทางเดินที่เลือกเส้นหนึ่งดูจะมืดมน แต่อีกเส้นหนึ่งถึงจะไม่สว่างจ้าแต่ก็ยังมีแสงรำไรอยู่ จึงเลือกที่จะอยู่เพื่อมองตนเองในแสงรำไรนั้น เพราะเชื่อว่าสักวันจะสว่างจ้าขึ้นมาแน่นอน

ในชีวิตหนึ่งของคน...หากสิ่งใดที่เป็นความสุขแท้จริงของตน...ก็ควรเลือกในเส้นทางเดินนั้น แต่หากไม่มีหนทางให้เลือกก็ควรที่จะอดทนสักนิด เพราะวันหนึ่งอาจจะมีแสงเล็ดรอดเข้ามาให้เรามองตัวตนที่แท้จริงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

หากตัดสินใจและมีความสุข...ก็ขอให้เส้นทางเดินสายใหม่จงประสบแต่ความสุข...กับการหัดโบยบินในโลกกว้างของวันใหม่ในชีวิต...ยังมีอะไรดี ๆ ให้เราได้ชื่นชมในโลกกว้างนี้อีกมากมายนัก...ขอให้โชคดีค่ะ

 

     เป็น "อึ้ง" แต่ไม่ถึงกับ "งง" ขอชื่นชมในความเด็ดเดี่ยว ขอให้ความสุขกับสิ่งที่ชอบและความสุขในการค้นหาคำตอบของชีวิต
     คำตอบของชีวิตเรา อาจจะไม่เหมือนกับคำตอบของชีวิตใคร จะถูกจะผิดเราตัดสินเอาเอง และเมื่อตัดสินแล้วถูกต้องเสมอครับ
     เป็นกำลังใจในการร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาชาติไทยต่อไปนะครับ
หนุขอชื่นชมคุณ จตุพร นะค่ะที่กล้าตัดสินใจในสิ่งที่ตนเลือกและกล้าหาญมากคนหนึ่งซึ่งหนูจะเอาคุณเป็นตัวอย่างในการตัดสินใจ คือตอนนี้หนูก้กำลังเรียนอยู่ที่ม.อุบล สาขาพัฒนบูรณาการศาสตร์ ในระดับป.โท ซึ่งบางครั้งบางทีหนูไม่อาจตัดสินใจได้และอาจจะไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเองเพราะว่าอาจจะเป็นเพราะยังลังเลกับความคิดของตัวเอง ตอนนี้หนูอายุได้ 23 ปี ซึ่งถือว่าอายุน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมห้องที่เรียนป.โทด้วยกัน คือเพื่อนร่วมห้อง อายุน้อยที่สุดคือ 38 ปี วึ่งบางครั้งหนูก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน   ถ้าคุณจตุพรมีขอเสนอแนะอะไรดีๆก้บอกด้วยนะค่ะขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

หนูก็เป็นคนหนึ่งนะค่ะที่รักท้องถิ่นมากและอยากจะทำให้ท้องถิ่นของตนเองอยู่และพึ่งพาธรรมชาติได้อย่างไม่รบกวนธรรมชาติมากจนเกินไปและตอนนี้หนูก็ศึกษาสาขาพัฒนบูรณาการศาสตร์ ที่ม.อุบล ซึ่งการศึกของหนูจะสามารถนำไปพัฒนาหมู่บ้านของหนูได้ถึงแม้ว่าอนาคตจะเป้นอย่างไรก็ตามแต่หนูขอสัญญาว่าจะอยู่และจะตายอยู่ที่บ้านเกิดของตัวเองและจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่หนูยังมีลมหายใจอยู่ ถ้าคุณจตุพรมีข้อเสนอแนะอะไรก็ส่ง Mail มาชี้แนะด้วยนะค่ะ

ก็ลาออกจากราชการมาเหมือนกัน สองปัแล้วค่ะ ไม่เสียดายเลย เป็นตัวของตัวเราดีที่สุด ค่ะ สู้ๆ นะคะ

นิ่ง...ทบทวน

อ่าน...วนซ้ำไป-มา

ภายใต้...ประโยคแต่ละประโยค

บ่งบอก..อะไรไว้มากมาย

แห่งความเป็นตัวตน...คุณ"จตุพร"

เชื่อและศรัทธา...ในสิ่งที่ตนคิด

และตน..ทำ...

ขอจงศรัทธา...ต่อ"ชีวิต"...ต่อไป

 

 

คุณออต

เพื่อนที่ดีในBlog ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจที่มีให้ผมเสมอมา...ตกลงผมเป็น "โจนาธาน" นะครับ

คุณnidnoi

มิตรที่อยู่ไกล แต่ก็คอยมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจทุกครา...ผมคิดว่า สิ่งที่ผมตัดสินใจ เป็นสิ่งที่เลือกแล้ว และ ก็คิดว่าได้คำตอบแล้วครับผม

คุณ vij

คนเราต่างวิถี ต่างความคิดและมีบริบทเฉพาะ ยังไงก็ตามผมเคารพและให้กำลังใจในการตัดสินใจของคนหนึ่งคน...ผมให้กำลังใจคุณ vij เช่นกันครับ

พี่ชายขอบ

พี่ชายที่เป็นแบบอย่างทางด้านความคิด และให้กำลังใจน้องๆเสมอมา ...ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและกำลังใจ อยู่ที่ไหนก็ทำดีเพื่อแผ่นดินได้จริงมั้ยครับ

น้องพิไล

ผมชื่นชมในความตั้งใจจริงของน้องพิไล มากครับ ...บ่อยครั้งที่เราจะเห็นคนพยายามเดินออกจากหมู่บ้านเพื่อไปแสวงหา ต่อสู้ ดิ้นรน ข้างนอก แต่มองไม่เห็นความสำคัญของบ้านเกิดเลย การศึกษากระแสหลัก บางทีก็ทำให้คนห่างเหินจากชุมชนเรื่อยๆ

คำสัญญาที่น้องพิไล ให้ไว้ในข้อคิดเห็น เป็นคำสัญญาที่มีคุณค่า มากเลยครับ ยังไงก็ตาม ผมก็ขอให้กำลังใจน้องพิไล ในการเดินทางไกลครั้งนี้ ...และในสถานการณ์บางสถานการณ์การตัดสินใจเป็นเรื่องที่สำคัญ...

คุณ paula

คนเรามีฝัน มีวิถีที่เป็นของตัวเอง ...ผมชื่นชมในความอิสระ หลุดจากการยึดติด และขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ

คุณ Dr.Ka-poom

พี่สาวอีกคนที่แวะเวียนมาเยี่ยมและให้กำลังใจเสมอ

ขอบคุณครับ ผม...นั่งอ่านถ้อยความสวยๆ เหล่านี้หลายครั้งทีเดียวครับ

"...เชื่อและศรัทธา...ในสิ่งที่ตนคิด

และตน..ทำ...

ขอจงศรัทธา...ต่อ"ชีวิต"...ต่อไป..." 

               ขอบคุณครับปิยมิตรทุกๆคน ครับ           .

 ... ของขวัญดี ๆ สำหรับชีวิต  น่าแปลก ! ที่มีคนส่วนหนึ่ง "สุกคาต้น" ในขณะที่คนอีกส่วนหนึ่ง ยังคงมีชีวิตชีวาต่อไป จนถึงวาระสุดท้าย "สุกคาต้น" คือ การหยุดเรียนรู้ และหยุดเติบโตกลางคัน ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ คงเพราะสะพายเป้ออกเดินทางมานาน จนลืมไปว่า...ออกเดินทางไปทำไม ? นาฬิกาของคนบางคนหมดลานก่อนหมดเวลาเสียด้วยซ้ำไป "คุณค่า" ไม่ใช่สิ่งที่เราเดินเข้าไปเจอเข้าแบบเล่นเกมล่าสมบัติ "คุณค่า" คือ สิ่งที่คุณสร้างขึ้นในชีวิตคุณเอง คุณสร้างมันขึ้นจาก พื้นฐานที่มาของคุณ จากความรักภักดีและผูกพันของคุณ จากประสบการณ์ จากสติปัญญา ความสามารถ และความเข้าใจ จากสิ่งที่คุณเชื่อ จากผู้คนและวัตถุสิ่งของที่คุณรัก องค์ประกอบเหล่านี้มีอยู่พร้อมแล้ว แต่...คุณเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะสามารถนำมาผสมผสาน เป็นรูปรอย เป็นแบบแผนของสิ่งที่จะกลายเป็นชีวิตของคุณ จงทำให้มันเป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรี มีคุณค่าสำหรับตัวคุณเอง ถ้าคุณทำได้ จุดพลิกผันระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลว ก็ไม่ใช่เรื่องหมิ่นเหม่อีกต่อไป ถ้าคุณเลือกทางเดินที่หอมหวาน ก็ไม่มีวันที่คุณจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวาน แต่ถ้าคุณเลือกจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวาน เส้นทางเริ่มต้นของคุณอาจจะไม่หอมหวาน

คุณต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวคุณเอง ให้โลกเห็นว่าคุณคู่ควรกับเป้าหมาย

อ่านแล้วรู้สึกกระแทกใจดี..เลยนำมาให้พี่เอกได้อ่านนะครับ

กระแทกใจจริงๆนะน้อง หมูมอมแมม

ผมไม่ทราบว่าหมูมอมแมมคือใคร รู้แต่ว่า ผมขอบใจมากนะครับ สำหรับกำลังใจครับ

 

...หากชีวิตเราคือการก้าวเดิน ให้เพลินกับฝันอย่าหวั่นไหว ทุ่มเทพลังไปทั้งหัวใจ หากเหนื่อยนักพักกายอย่ารีบเดิน...

ด้วยหัวใจ ... ด้วยตัวเราเอง

ขอยินดีด้วย......กับการที่ตัดสินใจจาก.......อีกโลกหนึ่ง ไปสู่อีกโลกหนึ่ง.......ที่อาจจะมีคนมองเราในหลายแง่มุม,,,ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใน .....แต่ กระนั้นขอให้เราเข้าใจตัวเราเองก็พอว่า เราต้องการอะไร และเราได้ให้อะไร.......กับเพื่อนร่วมโลก และประเทศชาติที่เราเกิดมา.....อย่างไรก็ตาม.........น้องก็ใช่ว่าจะเดินทางไปเพียงคนเดียวเท่านั้น....เพราะ......ยังมีคนอีกส่วนหนึ่งที่เฝ้ามองและเข้าใจในสิ่งที่น้องเอกทำไป....

จาก..........พี่ชายที่เคยร่วมทางกันมาแล้วครั้งหนึ่ง....

เรียน คุณจตุพร

          ขอให้เดินไปตามทางที่มุ่งหวังและสำเร็จ เพราะคุณจตุพรคือ "คนล่าฝัน" ครับ

 

พี่ขจร

พี่นักข่าวใจเกินร้อย ที่เคยร่วมหัวจมท้าย ในงานที่หนักหน่วง ขอบคุณพี่มากครับ...สำหรับกำลังใจ

พี่สิงห์ป่าสัก

ผม "คนล่าฝัน" ครับพี่ ...กว่าจะได้มาซึ่งฝัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเหน็ดเหนื่อยสักแค่ไหน...แต่ก็ไม่ท้อครับ ขอบคุณพี่มากครับ

พอจะทราบเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ พยายามถามหลายครั้งหลายหนให้พี่ชายคนนี้ตัดสินใจดีดีเพราะมันเป็นอนาคตของเรา แต่พอมาถึงครั้งนี้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ .... เชื่อมั่นในการตัดสินใจของพี่คะ ... ทุกสิ่งที่เราตัดสินใจแล้ว เราทบทวน พินิจ พิเคราะห์ แล้ว ... หัวใจของเราจะเป็นสิ่งที่ให้คำตอบกับตัวเรามากที่สุด ว่าเราเหมาะกับอะไร เราชอบอะไร และเราอยากทำอะไร ... มีไม่กี่คนหรอกคะที่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองฝัน ... เพราะหลายๆ อย่างอาจจะไม่เอื้ออำนวย ... แต่ถ้ามีโอกาส ก็คงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทำในสิ่งที่เป็นเรา และเรารัก ... จริงอย่างที่พี่บอก ทำงานอะไรก็สามารถทำเพื่อชุมชนท้องถิ่น เพื่อสังคมได้ ทุกอย่างอยู่ที่ใจคะ ...ให้กำลังใจกับเส้นทางสายใหม่ที่พี่กำลังจะก้าวเดินไปนะคะ แม้จะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ยังมีน้องคนนี้ที่พร้อมคอยให้กำลังใจพี่ชายคนนี้เสมอนะคะ

เชื่อมั่นในการตัดสินใจของพี่

เป้นกำลังใจให้คะ

น้องเอก อาจมาช้าไปน่ะ พอดีไม่ได้เปิด           เมล์ลหลายวันแล้วพอเข้ามาเจอ ตอนแรกก็คิดถึงอีกเรื่องน่ะ แต่ไม่บอก เอะใจได้ว่าน้องเคยเปรยๆเรื่องนี้ พี่ก็ดีใจด้วยกับทางเลือกใหม่ ที่พี่คิดว่าดีที่สุดมากสำหรับน้องผู้ซึ่งมีความมุมาน่ะ ในหลายๆสิ่ง ไงไปสู่ระบบงานใหม่คงได้พบเจอโลกใหม่ ประสบการณ์ใหม่ๆอีกมากมาย ขอให้น้องโชคดีน่ะพี่อะไรก็โทรคุยกันได้ตลอด จะเป็นกำลังใจให้ตลอดมีงานเขียนอะไรดีๆก็ส่งมาให้อ่านบ้างแล้วกัน

น้อง pakanda

ขอบคุณมากเลยครับสำหรับกำลังใจ ...อย่างนี้สู้ตายครับ

พี่เก่ง

แม้จะอยู่ไกล ก็ใกล้กันด้วยความรู้สึกดีๆ ครับ งานเขียนจะออกปลายปีครับผม

ขอให้กำลังใจแก่คุณจตุพร ขอให้มีความสุขกับการทำงานใหม่ที่พึงพอใจ ครับ พันตรีหลวงวิจิตร วาทการ ได้รจนาไว้เพื่อคนทำงาน ที่ว่า 

  • งานยิ่งมี มากจริง ยิ่งเป็นสุข
  • งานยิ่งชุก มันสมอง ยิ่งผ่องใส
  • เมื่อทำงาน ได้เสร็จ สำเร็จไป
  • ก็สุขใจ ปลาบปลื้ม ลืมทุกข์ร้อน

คุณเอกคะ

  • ครูอ้อยเพิ่งรู้ความจริงเป็นเช่นนี้
  • อิจฉาลึกๆที่ได้ตัดสินใจและได้ทำในสิ่งที่เป็นตัวตนที่อยากจะทำ

เป็นกำลังใจให้เธอ..ค่ะ

ขอบคุณอาจารย์  ดิศกุล เกษมสวัสดิ์  และอาจารย์ สิริพร (คุณครูอ้อย)

..........................

ผมพยายามเดินเข้าสู่ศูนย์กลางของตนเอง แสวงหาสิ่งที่ตนเองพึงพอใจ เรียนรู้ไปตามเวลาที่มีอยู่ เพราะผมคิดว่า หนึ่งชีวิตมีเวลาไม่มากมายนัก

สิ่งที่ผมยึดถืออยู่เสมอคือ การทำดี การบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม และตัวเอง ครอบครัว และสิ่งที่ก่อเกิดความสุขสำหรับผม ก็คือ การเฝ้ามองสิ่งที่ทุ่มเทนั้นอย่างมีสุขในแรงกาย-ใจที่ทุ่มเทลงไป ...ผมอิ่มเอมใจและมีสุข

ชีวิต คือ การแสวงหา

ผมรู้วันที่ผมเกิด แต่ผมไม่สามารถรู้วัน ที่ผมจะจากไปได้เลย

และผมคงจะเสียใจมากหากผมไม่ได้ทำอะไรตามฝันของผม เพราะผูกด้วยพันธนาการที่นำมาร้อยรัดตนเรื่อยๆ

ชีวิตนี้ไม่ยืนยาว

โชคดีที่มีโอกาสได้เกิด โชคดีที่มีโอกาส อยากจะใช้โอกาสแห่งการเกิด ทำประโยชน์ ทำสิ่งดี ให้มากที่สุด

หากติดรูปแบบชีวิตเดิม แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย

ตื่นเช้าไปทำงาน(ที่เคร่งเครียด) ทุกคนมีภาระทำงานที่หนักพอสมควร และยังมีแรงกดดันที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในชีวิตการทำงานเพิ่มอีก ชีวิตคนทำงานจึงต้องอดทน...ชีวิตมันดูหดหู่ดี

หากหนทางที่เลือก ยังไม่พบ แต่ "การตัดสินใจ" สำคัญที่สุด

และท้าทายที่สุด คือ "การตัดสินใจ"

ผมเริ่มต้นด้วยการชนะตนเอง เดินทางต่อครับ

วันนี้ผมมีความสุขดี กับความพอเพียงในจิตใจ ไม่มีเลือนไขใดที่จะหยุดยั้งพลังของการตั้งใจของผม

ผมคิดว่า "ผมโชคดี" ครับ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท