ปฎิบัติธรรมกับมะเร็งระยะสุดท้าย


ธรรมะ

            เพื่อนผู้เขียนป่วยหนักเข้า ICU คุณหมอแจ้งให้ทราบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย และไม่น่าจะรอดเกินอาทิตย์หน้า ทั้งผู้เขียนและเพื่อนสนิทหลาย  ๆ คนได้ปรึกษากันเรื่องเตรียมการจัดงานศพให้เพื่อน

           ผู้ป่วยรายนี้ตรวจพบว่าตนเองเป็นมะเร็งปอดตั้งแต่ปี 2549 เธอได้ปรับเปลี่ยนวิถึการใช้ชีวิตใหม่หมด งดกินเนื้อสัตว์ยกเว้นปลา เคร่งครัดในการรับประทานผัก ผลไม้ที่ปลอดสารเคมี ควบคู่กับการเข้าคีโมเพื่อบำบัดรักษาอาการของโรคมะเร็ง และผู้ป่่วยยังเริ่มปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิอย่างจริงจัง ผู้ป่วยเลือกที่จะรักษาโดยการเข้าคีโมที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่ตรวจพบมะเร็งในครั้งแรก โดยในครั้งนั้น มีผู้เข้ารับการรักษาพร้อม ๆ กับผู้ป่วย 8 เตียงที่นอนให้คีโมพร้อมกัน แต่ต่อมาสองปีให้หลัง คนไข้ทั้ง 7 รายได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว

          แต่เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2553 ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนัก จึงต้องนำส่ง รพ. อุดรธานี ซึ่งใกล้บ้านเป็นการเร่งด่วน โดยที่เพื่อน ๆ ได้โทรศัพท์ประสานกับคุณหมอที่ รพ.ศรีนครินทร์ เจ้าของไข้ เพื่อให้ได้รับยาและการรักษาที่ต่อเนื่อง คนไข้ต้องให้อ๊อกซิเจนทั้งทางปากและจมูก ผู้เขียนไม่แน่ใจว่ามีสายอะไรบ้างเพราะเต็มปากผู้ป่วยไปหมด คุณหมอแจ้งว่าคนไข้น่าจะอยู่ได้ไม่เกินวันที่ 13 มีนาคม นี้

          คุณหมอได้รักษาตามกระบวนการ ครั้งสุดท้ายคนไข้ได้รับเลือดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ไปสองถุงและยาอีกหลายขนานซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างคุณหมอที่ รพ.ศรีนครินทร์ เ้จ้าของไข้และคุณหมอ รพ.อุดรธานี หลังจากนั้นไม่กี่วัน คนไข้ฟื้นจากอาการทรุดหนัก สามารถฝึกหัดเดิน ช่วยเหลือตนเองได้ พูดคุยได้อย่างกับคนปกติและดูแข็งแรงซึ่งแตกต่างจากที่ผู้เขียนไปเยี่่ยมในวันแรก ๆ ที่ห้อง ICU อย่างสิ้นเชิง  ผู้เขียนยังแอบลุ้นในใจว่า เพื่อนจะรอดพ้นจากขีดเส้นตายวันที่ 13 มีนาคม นี้หรือไม่ ส่วนตัวผู้ป่วยเองดูเหมือนจะรู้ตัวดีเหมือนกันได้สั่งเสียผู้เขียนและเพื่อน ๆ ให้จัดการธุระเรื่องงานศพและเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเ่รื่อง

           แต่ ณ วันนี้  27 มีนาคม 2553 เพื่อนผู้เขียนแข็งแรงขึ้นเยอะมากและคุณหมอได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ ทั้งคุณหมอ ญาติ เพื่อน ๆ รวมทั้งผู้เขียนเองยังแปลกใจว่าทำไมคนไข้รอดตายมาได้ ทั้ง ๆ ที่ ไม่ว่าเพื่อนและญาติ ๆ ต่างก็ทำใจกันหมดทุกคนแล้วว่า ต้องเสียเพื่อนไปแน่

         ผู้เขียนได้นั่งสนทนากับเพื่อนคนนี้เป็นเวลานานหลายชั่วโมง ทำให้ทราบว่าระหว่างที่ป่วยหนักนั้น คนไข้รู้สติอยู่ตลอดเวลาและกำหนดจิตตัวเองให้คิดว่า ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรมาก มองอาการเจ็บป่วยของตนเองแบบปล่อยวาง และระหว่างป่วยหนักนั้น ได้นอน(เนื่องจากลุกนั่งไม่ได้) ทำสมาธิตลอดเวลาที่ไม่ได้หลับ ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนสัมผัสได้จากการไปเฝ้าไข้ผู้ป่วยคือ เธอไม่เคยพูดว่าเจ็บหรือปวดตรงไหนเลย คงจะเหมือนกับพระที่ท่านฝึกหัดนั่งสมาธิแรก ๆ แล้วรู้สึกปวดขาจากการนั่งพับเพียบนาน ๆ แต่ต่อมามีการกำหนดจิตว่า ขานี้หนอไม่ใช่ขาเรา ร่างกายไม่ใช่ของเรา มองแบบปล่อยวาง จึงทำให้พ้นทุกข์จากความเจ็บป่วย

     

 


   

คำสำคัญ (Tags): #icu#กำหนดจิต#ธรรมะ
หมายเลขบันทึก: 347609เขียนเมื่อ 27 มีนาคม 2010 20:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

การปฏิบัติธรรม

 ทำให้โรคร้ายพ่ายแพ้

 งั้นหรือ..ดีจังค่ะ

อ่านบันทึกนี้แล้วนึกถึง ตอนที่ผู้เขียนไม่สบาย

หมอสงสัยว่าอาจเป็นโรคร้าย

ช่วงนั้น ชีวิตเปลี่ยนไปเหมือนกัน

แต่ก็โชคดี ที่ทำให้รู้จักธรรมะของพระพุทธเจ้า

ตอนนี้ไม่กลัวความตายแล้ว

กลัวแต่ความทุกข์ ที่ยังไม่หลุดพ้นได้

เป็นกำลังใจให้เพือ่น คุณ นิภารัตน์นะครับ

ธรรมะรักษา............

ทุกวันนี้ทุกคนมีแต่เรื่องเครียดๆม่ว่าการเงิน การงาน สุชภาพ ครอบครัวฯอยากให้ทุกคนมาทำสมาธิ ฝึกปฏิบัติธรรมกันมากๆ มีสติ

คิดก่อนทำ ทำในสิ่งดีเพื่อตนเอง สังคมและประเทศชาติของเราซึ่งนับวันยิ่งมีปัญหากันมากขึ้นจริงๆ

<a href='http://glitter.212cafe.com/'><img src='http://glitter.212cafe.com/glittered/27-04-09/1240829067-7.gif' border='0' alt='ถ้าไม่ถึงที่ตายก็ไม่วายชีวาวาตม์

ใครพิฆาตเข่นฆ่าไม่อาสัญ

หากแม้นถึงที่ตายก็ต้องวายชีวาวัน

ไม้จิ้มฟันแทงเหงือก ดันเสือกตาย'></a>

อย่าประมาทในธรรมทั้งปวง

การฝึกสมาธิกำหนดจิต เป็นสิ่งที่ดีกับทุกๆคนที่ได้ฝึกค่ะ

ปาฏิหารย์เกิดขึ้นได้เสมอ หากกำลังใจดี จิตสงบ ภูมิคุ้มกันดี โรคภัยใดๆก็มิอาจทำอะไรเราได้ค่ะ

ถึงจะไม่ได้หาย แต่ก็อยู่ได้โดยไม่ทุกข์ทรมาน

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยอีกหนึ่งกำลังใจนะคะ ^^

สวัสดีค่ะ

ดีใจด้วยกับผู้ป่วยนะคะ  ผู้ป่วยแบบนี้จะไม่ทุกขทรมานค่ะ   เพราะเขารู้จักเตรียมตัวก่อนตาย  ขอเป็นกำลังใจให้อีกแรงนะคะ แม้ว่าผู้ป่วยจะมีพลังใจในตัวเองมากมายอยู่แล้วก็ตาม

เรียน ครู ป.1

       ตอนนี้ผู้เขียนเชื่อสนิทใจเลยว่า ธรรมะรักษาอาการป่วยได้โดยเฉพาะ "การป่วยทางจิต"

เรียน คุณ พ.แจ่มจำรัส

            ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้เพื่อนผู้เขียนน่ะค่ะ ผู้เขียนจะนำทุกข้อความที่ทุกท่านโพสเข้ามาไปเล่าให้เพื่อนฟังค่ะ เพื่อนคนนี้เป็นผู้หญิงที่จิตใจเข้มแข็งมาก

เรียน คุณบวร

          ขอพระธรรม คุ้มครองคุณบวรเช่นกันค่ะ

เรียน คุณสุรีย์และคุณเลิศฤทธิ์

              ความเครียดและความทุกข์เป็นสะพานเชื่อมโยงให้โรคต่าง ๆ รุมเร้าค่ะ เพราะ "จิตป่วย กายก็ป่วย"

เรียน คุณ Hana

          เมื่อก่อนผู้เขียนไม่เชื่อเรื่องปาฎิหาริย์ จะเชื่อข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้เท่านั้น แต่จากการที่สัมผัสกับผู้ป่วยรายนี้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้เขียนที่รู้จักกันมาเกือบสิบปี เห็นการเปลี่ยนแปลง แนวคิด โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติธรรมและฝึกกำหนดจิต ยิ่งทำให้ผู้เขียนมีมุมมองที่เปลี่ยนไปว่า "ศึล สมาธิ ธรรมะ ช่วยบำบัดโรคได้"

เรียน คุณอิงจันทร์

        ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้เพื่อนผู้เขียนน่ะค่ะ ผู้เขียนจะนำทุกข้อความของทุกท่านไปถ่ายทอดให้เพื่อนได้รับรู้ ขอกุศลกำลังที่ทุกท่านมีให้กับเพื่อนผู้เขียน ขอให้ทุกท่าน มีสุขภาพจิตดี สุขภาพกายที่แข็งแรงค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • เพื่อนพี่คิมอยู่รอดพ้นขีดเส้นที่หมอกำหนด   มาคนละหลายปี  มี ๓ รายค่ะ
  • รายแรกหมดเรี่ยวแรง หัวโกร๋น  เมื่อ ๒๕๓๓  ปัจจุบันสวยสดงดงาม  เปล่งปลั่งแทบจะจำไม่ได้
  • รายที่สองเวลาใกล้เคียงกัน  ก็ผ่านพ้นมาเหมือนกัน  ปัจจุบันร่างกายแข็งแรงดีค่ะ
  • รายที่ ๓ เมื่อ ๒๕๔๖ เร็ว ๆนี้ ตอนแรกก็ทรุดเมื่อรู้ตัว  แต่มีผู้นำเรื่องราวของสองรายแรกไปเล่าให้ฟัง  เธอวางกับทุกอย่างแม้กระทั่งลูกและสามี  ทำจิตใจให้สบาย  ปัจจุบันอ้วนอวบแข็งแรง หน้าตาสะสวยกว่าก่อนป่วยค่ะ
  • อยากจะให้หลาย ๆ ท่านไม่ต้องกังวล  และมีข้อปฏิบัติเช่นเดียวกับบันทึกนี้เช่นกันค่ะ

เรียน ครูคิม

          ผู้เขียนจะนำประสบการณ์ที่ครูคิมเล่ามาไปถ่ายทอดให้เพื่อนฟังน่ะค่ะ ขอบคุณแทนเพื่อนสำหรับกำลังใจที่มีให้ค่ะ

สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะที่เข้าแวะชมบล็อกของอุ้ม

มีเพื่อนที่เขาป่วยหนักเช่นกัน เป็น SLE ไปเยี่ยม เขาไม่เคยบ่นอะไรให้เราฟังแต่ดูจากแววตารู้ว่าเขาทุกข์ เขานิ่งมากจนวันนี้ที่ไม่มีเขาแล้ว ยังคิดถึงอยู่

การทำสมาธิเป็นสิ่งที่ดีนะค่ะ ช่วยผ่อนคลายได้ดี

เพื่อนผู้เขียน แววตาเขาเด็ดเดียวมาก ขนาดคุณหมอถามว่าถ้าช๊อคจะให้ปั้มหัวใจไหม เพื่อนเขาเขียนตอบมาว่า "จะสู้ทุกวิถีทาง จะเอาชนะโรคมะเร็งให้ได้"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท