อุปสรรคขัดขวาง


...ลองดูก่อน ค่อยตัดสินใจ...

 

 

 

เมื่อเช้าเตรียมตัวออกจากบ้านไปส่งภรรยาทำงาน พอตอนเช้าเดินไปเปิดประตูรั้วเหลือบเป็นเห็นรถเจ้ากรรมของใครก็ไม่รู้จอดฝั่งตรงข้ามบ้าน ดูเหลี่ยมมุมแล้วน่าจะขวางทางออกทำให้ผมถอยออกจากบ้านไม่ค่อยถนัดนัก

 

 

ยืนเล็งๆสงสัยเจ้าของจะยังไม่ตื่น ไม่เป็นไรใจเย็นๆกลับเข้าไปอาบน้ำ กินข้าว ออกมาดูอีกรอบอาจจะไปแล้วก็ได้

 

 

อาบน้ำ กินข้าว แต่งตัวเสร็จเตรียมจะเดินทาง ออกมาดูอีกรอบ รถเจ้ากรรมก็ยังนิ่งสนิท ดูรถแล้วก็ไม่คุ้นว่าเป็นของบ้านไหน สงสัยจะเป็นพวกรถขาจร

 

 

พยายามใจเย็นๆอีกรอบ คิดว่าปัญหาต้องมีทางออก เลยไปเรียกน้องลงมาถอยรถของน้องที่จอดนอกบ้านฝั่งติดบ้าน เพื่อจะได้มีช่องว่างเพิ่มขึ้น

 

 

จากการคำนวณด้วยสายตา ผมคิดว่า ไม่พ้นแน่ๆ แต่ก็บอกกับแฟนว่า อย่างไรลองดูก่อน ถ้าไม่พ้นจริงๆ ก็ถอยกลับเข้าบ้าน ยืมรถน้องไปก็ได้ ว่าแล้วผมก็จัดแจงถอยอย่างใจเย็นๆ ปรากฎว่าออกได้พอดี ผมก็โล่งใจ ปัญหาก็แก้ได้ แถมไม่โมโหพร่ำเพรื่อมากเกินเหตุ

 

 

เช้านี้ ผมเรียนรู้ว่า ถ้าเจอปัญหา ก็ลองแก้ดูก่อน ถ้าแก้ไม่ได้ก็กลับมาตั้งหลัก หาวิธีอื่น เพราะปัญหาที่เราคิดว่าแก้ไม่ได้ เมื่อลองดูแล้วอาจจะแก้ได้ ถ้าหงุดหงิดไปก่อน สุดท้ายปัญหาแก้ได้ แต่เราก็เกิดกิเลสโทสะ โดยไม่จำเป็น

 

 

จเย็นๆแก้ได้ก็ดี แก้ไม่ได้ จะได้หาทางอื่นต่อ อย่างมีสติ จะได้ไม่อาฆาต พยาบาทใครนะครับ

 

 

 

 

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ...

 

 

หมายเลขบันทึก: 343225เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2010 10:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

เป็นข้อคิดที่ดีมากๆเลยค่ะ.

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วยิ้ม ๆ ตาม...

ขอบคุณบันทึกดี ๆ ที่ให้ข้อคิดค่ะ

ยามที่เจอปัญหา เรามักจะขาดสติ เพราะความรีบ ความโกรธ โมโห... ทำให้ไม่เห็นทางที่ควรจะแก้ไขได้ ส่วนตัวที่ทำเมื่อโกรธหรือมีปัญหา ชอบหายใจลึก ๆ ไปเดินเล่นสักพัก ไปล้างหน้า แปรงฟันค่ะ กลับมาอีกทีเราก็มักจะได้คำตอบดีเสมอเลย

(^___^)

สวัสดีคุณครูแป๋มที่มาเยี่ยมนะครับ...

ขอบคุณ คุณ nata ที่มาเยี่ยมครับ

โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า อารมณ์ชั่ววูบ อาจทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

ขอบพระคุณมากครับ...

สวัสดีคุณคนไม่มีรากครับ

"ยามที่เจอปัญหา เรามักจะขาดสติ เพราะความรีบ ความโกรธ โมโห ทำให้ไม่เห็นทางที่ควรจะแก้ไขได้ ส่วนตัวที่ทำเมื่อโกรธหรือมี

ปัญหา ชอบหายใจลึก ๆ ไปเดินเล่นสักพัก ไปล้างหน้า แปรงฟันค่ะ กลับมาอีกทีเราก็มักจะได้คำตอบดีเสมอเลย"

ด้วยความระลึกถึงครับ

ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมครับ...

สวัสดีค่ะ

  • วันก่อนพี่คิมไปจอดรถในที่เขาห้ามจอด  จึงไม่ดับเครื่องนั่งรอในรถเปิดไฟเลี้ยวไว้ ให้น้องนัทลงไปซื้อของ
  • รถกระบะขนาดใหญ่มาจอดด้านหน้าห่างกันไม่ถึง ๑ เมตร  ดับเครื่องเดินลงไปหน้าตาเฉย  ด้านหลังเป็นทางแยกไฟแดง  และมีรถมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายกันเป็นตับ
  • พี่คิมนั่งรอจนกว่าน้องนัทซื้อของเสร็จและรอเจ้าของรถกระบะ  นานมากยังไม่มาสักที 
  • จึงแก้ปัญหาเหมือนกันค่ะ  ให้น้องนัทลงไปดูรถมอเตอร์ไซค์ด้านหลัง ขยับไปขยับมาทีละนิด  กว่าจะพ้นได้ก็เฉียดฉิว  และรอจังหวะสัญญาณไฟอีก และพี่คิมอยู่เกือบมุมด้านซ้าย แถมเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด
  • รู้ตัวว่า หงุดหงิดเหมือนกันค่ะ

สวัสดีพี่ครูคิมที่มาเยี่ยม และ มาแบ่งปันประสบการณ์นะครับ...

  • เมื่อไรก็ตามที่เราไม่อยู่ในปัญหา ออกมานอกปัญหา คงจะทำให้เรามองเห็นทางออกได้อย่างคมชัดขึ้นอย่างกรณีตัวอย่างที่ดีแบบนี้นะคะ 
  • ยังระลึกถึงเสมอค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • อย่างที่เขาไว้ว่า  ปัญหาทุกอย่างมีทางออก  สุดแท้แต่ว่าทางอกนอกนั้นจะสวยหรือไม่สวยนะ
  • ถ้าใจเย็นหน่อย  ค่อยมองก็จะเห็นทางออกที่สวยๆ  ถ้ามองหาทางออกด้วยความใจร้อน  หุนหันพลันแล่น ก็ไม่ทันพิจารณาให้ถี่ถ้วน  ทางออกที่พบก็อาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีก็ได้นะ

ปัญหาทุกปัญหามีทางออกใจเย็นๆนะค่ะ

ขอบพระคุณพี่ sila ที่มาเยี่ยมครับ

ระลึกถึงเช่นกันครับ...

ขอบพระคุณ คุณกิ่งไผ่ใบหลิวที่มาเยี่ยมพร้อมข้อคิดครับ...

"ปัญหาทุกอย่างมีทางออก สุดแท้แต่ว่าทางอกนอกนั้นจะสวยหรือไม่สวย"

ขอบพระคุณ คุณ natta oum puangmala ที่มาเยี่ยมครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท