ผมก็มีเพื่อนประเภทนี้ ตอนรับน้องมันโดนหนักมาก เพราะเรียนคณะเกษตร ตอนนี้เป็นผู้จัดการฝ่ายขายดูแลเขตทั้งอาเซียน ยอมรับในฝีมือครับ
พวกตุ๊ดนี่ เขามีความละเอียดอ่อนครับ มีความคิดสร้างสรรค์ดี บทบาทการแสดงก็เก่ง
จะว่าเป็นโรคก็ไม่ใช่ ไม่ใช่โรคก็ไม่เชิงครับ มนุษย์เราประกอบด้วยกายและจิต สองอย่างนี้ส่งผลต่อกัน กายผิดปกติก็ส่งผลให้จิตเบี่ยงเบน จิตผิดปกติก็ส่งผลให้กายเบี่ยงเบน
ทำใมสมัยนี้จึงมีกลุ่มที่เบี่ยงเบนทางเพศมากขึ้นหรือชัดเจนขึ้นกว่าสมัยก่อน
ตอบกว้างๆ ก็อาจตอบได้ว่า เพราะสมัยนี้มันมีปัจจัยที่เอื้อหรือส่งเสริมให้เกิดความผิดปกติทางกายและจิตอันนำไปสู่อาการเบี่ยงเบนทางเพศในที่สุด
ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดความผิดปกติทางกาย อาทิเช่น อาหารการกิน น้ำ อากาศ สิ่งปนเปื้อน สารเคมี สารปรุงแต่งในสิ่งต่างๆที่เรานำเข้าสู่ร่างกาย เป็นต้น
ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดความผิดปกติทางจิต เช่น ค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณีที่เปลี่ยนแปลงไป สื่อประเภทต่างๆที่พากันประโคมว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ(ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าผิดปกติและถ้ารู้แต่เนิ่นๆก็อาจบำบัดรักษาให้หายได้)เพื่อที่จะสร้างสังคมให้กับคนกลุ่มนี้(ที่ไม่ได้รับการบำบัด ไม่มีใครสนใจในช่วงแรกเริ่ม ตอนนี้ก็กู่ไม่กลับแล้ว) ให้เป็นที่ยอมรับ
คนกลุ่มนี้แรกเริ่มแสดงอาการนั้นนับว่าน่าสงสาร เพราะเขาจะสับสนในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง แต่พอเป็นไปแล้วมักจะแสดงออกอย่างเกินงามเพื่อเรียกร้องความสนใจหรือความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งสุดท้ายก็น่าสงสารอยู่ดี ทิศทางของกระแสสังคมในปัจจุบันยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงเยาวชนในรุ่นถัดไปๆ แม้ว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร หรือสร้างเพียงแต่น้อย(เพราะมีผู้อื่นที่สร้างความเดือดร้อนเยอะกว่า) แต่ก็เป็นปัญหาสังคมในภาพรวม
คิดง่ายๆ เดี๋ยวนี้ประชาการโลกเพศชายก็น้อยกว่าเพศหญิงมากอยู่แล้ว(ยิ่งประเทศที่ยอมรับเรื่องพวกนี้ เช่น บราซิล ยิ่งแล้วใหญ่) แล้วในจำนวนน้อยกว่านี้ก็มาเบี่ยงเบนทางเพศในลักษณะต่างๆเข้าไปอีก สรุปว่าเหลือผู้ชายทั้งแท่งอยู่สักกี่เปอร์เซ็นต์ ปัญหานี้มันไม่ได้มีผลเฉพาะผู้ชายแต่มันส่งผลโดยตรงต่อเพศหญิงด้วยเพราะพระเจ้าสร้างมนุษ์ชายหญิงมาคู่กัน ไม่ใช่เป็นสามฝาแล้วต้องอยู่ผิดฝาผิดตัว เกิดป็นหาอย่างไรบ้าง เราๆท่านๆก็คงจะวิเคราะห์ได้
มาเยี่ยมด้วยความคิดถึงค่ะ
เจริญพร โยม ครูอ้อย
กะเทยหรือบัณเฑาะก์ มีพุทธบัญญัติห้ามบวช เพราะเป็นคนมีสองเพศคือมีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง และมีมานานแล้ว
ส่วนตุ๊ดนั้นเป็นชายที่จริตกิริยาอย่างผู้หญิง เห็นมีบทความจากสื่อว่า ในวัดมีแต่พระตุ๊ด เณรแต๋ว คงมีเพิ่มหรือลดไปตามเหตุปัจจัย
เจริญพร
เป็นกระทู้ที่น่าสนใจมาก แต่ก้อยังไม่สมบูรณ์...
...ยังน่าจะขาดกระเทยอีกประเภทหนึ่ง กล่าวคือ
ประเภทที่กายเป็นชายแท้ ๆ ไม่ใช่บัณเฑาะก์เพราะไม่มีอวัยวะของหญิง
เป็นชายแท้ๆ แต่ชอบบทบาทเป็นหญิงเมื่อเวลาอยากมีความสุขหรือแสดงบทบาทเป็นชายแท้เมื่ออยากมีความสุขกับชายด้วยกัน
ทั้งสองแบบนี้จะลื่นไหลสลับสับเปลี่ยนบทบาทได้ตามอารมย์
คนพวกนี้มัจะถูกเรียกว่าเกย์ พวกนี้ทำได้สองอย่างเหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสี ขึ้นอยู่ขณะนั้นอยาก "อ้อน" หรือ "ข่มขู่" ใครหรือไม่เท่านั้น
ซึ่งการแสดงบทบาทแต่ละประเภท หากอารมย์เป็นชายก้อเรียกว่า"เกย์คิงส์ "หากอารมย์เป็นหญิงก้อเรียกว่า"เกย์ควีน"
แต่ทั้งสองอย่างนั้นแหระล้วนถือว่าเป็น "กระเทย" เพราะถือว่าเป็นวิปริตทางเพศทั้งสิ้น พวกนี้จะมีอารมย์แบบสุดโต่ง
หากรักก้อจะรักสุด ๆ หากเกลียดก้อจะเกลียดสุด ๆ ไม่คำนึงถึงเหตุผล พวกนี้เป็นนักแสดงที่เก่งมาก ๆ มักจะมคำที่ใช้ป้องกันตัวว่าการกระทำนั้นเป็นการแสดงหรือที่เรียกว่าเป็น "ศิลปิน" นั่นแหระ
พวกนี้จะทำได้ทุกอย่างที่ผิดธรรมชาติ ที่ผิดธรรมดา ไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ใด ๆ เอาอารมย์ตัวเป็นที่ตั้ง
ความอ่อนและแข้งกร้าวที่มีอยู่ในตัวชายคนเดียวกันนี้แหระที่เป็นความสามารถเป็นอาวุธของคนประเภทนี้ เวลาพ่ายแพ้ก้อจะอ้อนออด เวลาชนะก้อจะแข็งกร้าวเข้มแข็งทำขึงขังมาดแมน
บ้านเมืองเราที่เกิดวิกฤตของบ้านเมืองก้อคนพวกนี้แหระ ที่รวมกลุ่มรวมพวกกันยึดกลไกสังคมไทยให้เกิดวิปริตไปด้วย มีลูกเองก้อไม่ได้ แต่เที่ยวรับเอาลูกคนอื่นมาเป็นลูกตัวเอง...หุหุ เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง
หลักกฎหมาย ถูกทำลายด้วยหลักเกย์ ทั้งสิ้น
แต้ก้อมีทางแก้ไขครับจะบอกให้.....
ใครเคยจับ "กระปอม" ที่เปลียนสีไปมาได้บ้างไหมครับ
พวกกระปอมจะชอบชูคอว่าตัวเหมือนเป็นพระยามังกร แต่ท่าน ๆ เชื่อหรือไม่ว่าตัวกระปอมจะแพ้ทางแค่หากมีใครรู้จักใช้เชือกบวงบาศเพียงเส้นเดียวก้อสามารถกำจัดกระปอมให้สิ้นหมดแผ่นดินได้
ใครเคยจับตัว "กระปอม" บ้าง ช่วยบอกวิธีหน่อยครับ หากยังไม่มีใครรู้ถาม "จันทร์" ได้น่ะครับ...