ไปไหนก็พบแต่...ตุ๊ด


พบมามากเลยนะ  ผู้ชายที่ไม่มั่นคงทางเพศ  ที่เราเรียกกันว่า.....กระเทย 

กระเทยมีหลายชนิด  แบ่งอย่างไม่ละเอียด คือ สาวประเภทสอง  กระเทยแท้  กระเทยเทียม  กระเทยน่ารัก  กระเทยควาย  และกระเทยเฒ่า

ไปดูความหมาย....กระเทยจะหมายถึง ผู้ชายที่มีนิสัยใกล้เคียงกับเพศหญิง อาจจะมีบุคลิกแบบผู้หญิง ลักษณะกิริยาท่าทาง รวมทั้งการแต่งกาย รักสวยรักงาม การแสดงออกค่อนข้างที่จะออกไปทางเพศหญิงมากอย่างชัดเจน

หรือผู้ชายที่แต่งกายเป็นชาย แต่มีลักษณะเรียบร้อย กระตุ้งกระติ้ง ท้ายที่สุดก็ผู้ชายเราดีๆนี้เองดูไม่ออกโดยภายนอก แต่บุคคลพวกนี้จะมีรสนิยมทางเพศกับเพศเดียวกัน

*****

วันนี้  จะขอบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์  ของกระเทย  ในยุคนี้ .....

บางทีก็พบ...คนกลุ่มที่มีความใกล้เคียงเป็นผู้หญิงมากที่สุด    อาจไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองเป็นผู้ชาย เพราะจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงตลอดเวลา   มีความเป็นอยู่แบบผู้หญิง   อาจจะไม่มีความเป็นผู้ชายเลยในด้านความคิด เพียงแต่มีร่างกายเป็นชาย

อีกกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวเป็นชาย   แต่มีใจเป็นหญิง  อาจจะมีเหตุผลทางสังคมหลายๆอย่างจึงทำให้ไม่สามารถแต่งตัวเป็นหญิงได้   จะแต่งเป็นผู้หญิงบ้างถ้ามีโอกาส   มีความเป็นชายบ้าง 20-30เปอร์เซ็นต์

บางกลุ่มแต่งตัวเป็นชายมีจิตใจเป็นชาย  แต่มีลักษณะนิสัยคล้ายผู้หญิง   ชอบมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายและมีความเป็นอยู่โดยทั่วไปแบบผู้ชาย

อื่นๆอีกมากมาย  มีทั้งผู้ชายเต็มตัว  แบบชายชาติทหาร  แต่ชอบมากๆๆกับการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน

บางกลุ่มเรียกว่า....เพศที่สาม   ซึ่งต้องทำความเข้าใจ ให้มาก...เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ไม่ตั้งข้อรังเกียจ   หรือหาข้อแก้ต่างๆมาขัดขวางความสัมพันธ์   ไม่ว่าจะเป็นแบบเพื่อน หรือคนรู้ใจ ที่ต้องใช้คำว่าคนรู้ใจ

มีความรู้สึกดีๆให้กัน เข้าใจกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน (ซึ่งจริงๆแล้วเคยเห็นแต่กระเทยช่วยผู้ชาย)  

ทัศนของกระเทย.....มีดังนี้  กระเทย..ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ใช่อาชญากรของแผ่นดิน   เป็นเพื่อนและให้ความจริงใจได้กับทุกเพศไม่ใช่เฉพาะผู้ชาย   ไม่ใช่อยากที่จะเป็น  แต่เมื่อจิตใจมันเป็น....ก็ไม่รู้จะขัดขวางมันได้อย่างไร

ไม่ใช่ตัวตลกของสังคม แต่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สังคมมีความสุข   สังคมของกระเทยก็ไม่ต่างกับสังคมของผู้หญิง หรือผู้ชาย   คือมีทั้งคนดี คนไม่ดี ไม่แตกต่างกัน   มันต่างกันแค่ความรู้สึกเรื่องเซ็กส์ข้างในก็เท่านั้น…..

*****

มันไม่เกี่ยวอะไรหรอก  แต่เกิดมาเป็นคนช่างสังเกต  ก็เลยต้องการเขียน

กระเทย....มีมานานแล้ว  สมัยที่ครูอ้อยยังเล็ก  จะมีเพื่อนผู้ชาย  ที่อยู่ใกล้บ้าน  จะมีนิสัยกระเดียดไปทางผู้หญิง  เวลาใครๆเรียกว่า...กระเทย  จะอายม้วนต้วนไป  สมัยนั้น  ยังไม่นิยม  กลับจะรังเกียจด้วยซ้ำ 

แต่มาถึงสมัยนี้  ที่มีอิสระทางความคิด และพฤติกรรม  แสดงออกได้อย่างชัดเจน  ประกอบกับ....เราไม่เคยรังเกียจ  กลับจะเอ็นดู  เพราะ กระเทย  สวยน่ารัก นิสัยดีมีมากในสังคม...นั่นคือ  กระเทย เปิดเผยตัวเอง  ผลักดันตัวเองออกจากเพศเดิม..และกลายเป็น สาวประเภทสอง.....

*****

แต่มาขอเขียนถึง  กลุ่มหนึ่ง  ที่ไม่เปิดเผยตัวเอง...หลบๆซ่อนๆ สังคม  เพียงชื่อที่บอกว่าเป็น...ชาย  ให้สังคมยกย่อง แต่มีนิสัย และความประพฤติที่เป็น..หญิง  ที่นุ่งผ้าถุง  ทำนิสัย  ไม่ใช่ชาย.....มีมากที่เป็นใหญ่  เป็นโต..สังคมก็ยังยกย่อง...

ปิดตาหรือเปล่า  หรือว่า  รู้ทั้งรู้  คนทั้งหลาย มีมากมาย  แต่มาตกอยู่ใต้อาณัติ...คนวิปริต อยู่ได้....

*****

บัตรประจำตัวประชาชน  เป็นชาย  นาย...แต่เดินออกมา  มีหน้าอก แบบผู้หญิง...ฮ้า...ฮา...ดูน่ารักไปอย่างหนึ่ง...ที่ยอมรับว่า..ตัวเองเป็นแบบนี้ 

บัตรประจำตัวประชาชนเป็นชาย  เป็นนาย ....  เดินออกมาเป็นชาย  แต่หลับนอนมีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกัน...แถมแจกจ่ายเงินที่ไม่ใช่ของตน....ดูน่ารังเกียจ....และไม่ยอมรับด้วย...ว่าตัวเองน่ะ น่าเกลี๊ยด น่าเกลียด.....

ตุ๊ดตุ๊ด ไปไหนก็พบแต่..ตุ๊ด

ข้อมูลจาก ...ที่นี่ .... ที่นี่

หมายเลขบันทึก: 341045เขียนเมื่อ 2 มีนาคม 2010 06:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ผมก็มีเพื่อนประเภทนี้ ตอนรับน้องมันโดนหนักมาก เพราะเรียนคณะเกษตร ตอนนี้เป็นผู้จัดการฝ่ายขายดูแลเขตทั้งอาเซียน ยอมรับในฝีมือครับ

พวกตุ๊ดนี่   เขามีความละเอียดอ่อนครับ  มีความคิดสร้างสรรค์ดี  บทบาทการแสดงก็เก่ง

จะว่าเป็นโรคก็ไม่ใช่ ไม่ใช่โรคก็ไม่เชิงครับ มนุษย์เราประกอบด้วยกายและจิต สองอย่างนี้ส่งผลต่อกัน กายผิดปกติก็ส่งผลให้จิตเบี่ยงเบน จิตผิดปกติก็ส่งผลให้กายเบี่ยงเบน

ทำใมสมัยนี้จึงมีกลุ่มที่เบี่ยงเบนทางเพศมากขึ้นหรือชัดเจนขึ้นกว่าสมัยก่อน

ตอบกว้างๆ ก็อาจตอบได้ว่า เพราะสมัยนี้มันมีปัจจัยที่เอื้อหรือส่งเสริมให้เกิดความผิดปกติทางกายและจิตอันนำไปสู่อาการเบี่ยงเบนทางเพศในที่สุด

ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดความผิดปกติทางกาย อาทิเช่น อาหารการกิน น้ำ อากาศ สิ่งปนเปื้อน สารเคมี สารปรุงแต่งในสิ่งต่างๆที่เรานำเข้าสู่ร่างกาย เป็นต้น

ปัจจัยที่เอื้อให้เกิดความผิดปกติทางจิต เช่น ค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณีที่เปลี่ยนแปลงไป สื่อประเภทต่างๆที่พากันประโคมว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ(ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าผิดปกติและถ้ารู้แต่เนิ่นๆก็อาจบำบัดรักษาให้หายได้)เพื่อที่จะสร้างสังคมให้กับคนกลุ่มนี้(ที่ไม่ได้รับการบำบัด ไม่มีใครสนใจในช่วงแรกเริ่ม ตอนนี้ก็กู่ไม่กลับแล้ว) ให้เป็นที่ยอมรับ

คนกลุ่มนี้แรกเริ่มแสดงอาการนั้นนับว่าน่าสงสาร เพราะเขาจะสับสนในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง แต่พอเป็นไปแล้วมักจะแสดงออกอย่างเกินงามเพื่อเรียกร้องความสนใจหรือความสุขชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งสุดท้ายก็น่าสงสารอยู่ดี ทิศทางของกระแสสังคมในปัจจุบันยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงเยาวชนในรุ่นถัดไปๆ แม้ว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร หรือสร้างเพียงแต่น้อย(เพราะมีผู้อื่นที่สร้างความเดือดร้อนเยอะกว่า) แต่ก็เป็นปัญหาสังคมในภาพรวม

คิดง่ายๆ เดี๋ยวนี้ประชาการโลกเพศชายก็น้อยกว่าเพศหญิงมากอยู่แล้ว(ยิ่งประเทศที่ยอมรับเรื่องพวกนี้ เช่น บราซิล ยิ่งแล้วใหญ่) แล้วในจำนวนน้อยกว่านี้ก็มาเบี่ยงเบนทางเพศในลักษณะต่างๆเข้าไปอีก สรุปว่าเหลือผู้ชายทั้งแท่งอยู่สักกี่เปอร์เซ็นต์ ปัญหานี้มันไม่ได้มีผลเฉพาะผู้ชายแต่มันส่งผลโดยตรงต่อเพศหญิงด้วยเพราะพระเจ้าสร้างมนุษ์ชายหญิงมาคู่กัน ไม่ใช่เป็นสามฝาแล้วต้องอยู่ผิดฝาผิดตัว เกิดป็นหาอย่างไรบ้าง เราๆท่านๆก็คงจะวิเคราะห์ได้

มาเยี่ยมด้วยความคิดถึงค่ะ

เจริญพร โยม ครูอ้อย

กะเทยหรือบัณเฑาะก์ มีพุทธบัญญัติห้ามบวช เพราะเป็นคนมีสองเพศคือมีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง และมีมานานแล้ว

ส่วนตุ๊ดนั้นเป็นชายที่จริตกิริยาอย่างผู้หญิง เห็นมีบทความจากสื่อว่า ในวัดมีแต่พระตุ๊ด เณรแต๋ว คงมีเพิ่มหรือลดไปตามเหตุปัจจัย

เจริญพร


คลิ๊ก..สร้าง Glitter ด้วยตัวคุณเอง

เป็นกระทู้ที่น่าสนใจมาก แต่ก้อยังไม่สมบูรณ์...

...ยังน่าจะขาดกระเทยอีกประเภทหนึ่ง กล่าวคือ

ประเภทที่กายเป็นชายแท้ ๆ ไม่ใช่บัณเฑาะก์เพราะไม่มีอวัยวะของหญิง

เป็นชายแท้ๆ แต่ชอบบทบาทเป็นหญิงเมื่อเวลาอยากมีความสุขหรือแสดงบทบาทเป็นชายแท้เมื่ออยากมีความสุขกับชายด้วยกัน

ทั้งสองแบบนี้จะลื่นไหลสลับสับเปลี่ยนบทบาทได้ตามอารมย์

คนพวกนี้มัจะถูกเรียกว่าเกย์ พวกนี้ทำได้สองอย่างเหมือนจิ้งจกเปลี่ยนสี ขึ้นอยู่ขณะนั้นอยาก "อ้อน" หรือ "ข่มขู่" ใครหรือไม่เท่านั้น

ซึ่งการแสดงบทบาทแต่ละประเภท หากอารมย์เป็นชายก้อเรียกว่า"เกย์คิงส์ "หากอารมย์เป็นหญิงก้อเรียกว่า"เกย์ควีน"

แต่ทั้งสองอย่างนั้นแหระล้วนถือว่าเป็น "กระเทย" เพราะถือว่าเป็นวิปริตทางเพศทั้งสิ้น พวกนี้จะมีอารมย์แบบสุดโต่ง

หากรักก้อจะรักสุด ๆ หากเกลียดก้อจะเกลียดสุด ๆ ไม่คำนึงถึงเหตุผล พวกนี้เป็นนักแสดงที่เก่งมาก ๆ มักจะมคำที่ใช้ป้องกันตัวว่าการกระทำนั้นเป็นการแสดงหรือที่เรียกว่าเป็น "ศิลปิน" นั่นแหระ

พวกนี้จะทำได้ทุกอย่างที่ผิดธรรมชาติ ที่ผิดธรรมดา ไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ใด ๆ เอาอารมย์ตัวเป็นที่ตั้ง

ความอ่อนและแข้งกร้าวที่มีอยู่ในตัวชายคนเดียวกันนี้แหระที่เป็นความสามารถเป็นอาวุธของคนประเภทนี้ เวลาพ่ายแพ้ก้อจะอ้อนออด เวลาชนะก้อจะแข็งกร้าวเข้มแข็งทำขึงขังมาดแมน

บ้านเมืองเราที่เกิดวิกฤตของบ้านเมืองก้อคนพวกนี้แหระ ที่รวมกลุ่มรวมพวกกันยึดกลไกสังคมไทยให้เกิดวิปริตไปด้วย มีลูกเองก้อไม่ได้ แต่เที่ยวรับเอาลูกคนอื่นมาเป็นลูกตัวเอง...หุหุ เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง

หลักกฎหมาย ถูกทำลายด้วยหลักเกย์ ทั้งสิ้น

แต้ก้อมีทางแก้ไขครับจะบอกให้.....

ใครเคยจับ "กระปอม" ที่เปลียนสีไปมาได้บ้างไหมครับ

พวกกระปอมจะชอบชูคอว่าตัวเหมือนเป็นพระยามังกร แต่ท่าน ๆ เชื่อหรือไม่ว่าตัวกระปอมจะแพ้ทางแค่หากมีใครรู้จักใช้เชือกบวงบาศเพียงเส้นเดียวก้อสามารถกำจัดกระปอมให้สิ้นหมดแผ่นดินได้

ใครเคยจับตัว "กระปอม" บ้าง ช่วยบอกวิธีหน่อยครับ หากยังไม่มีใครรู้ถาม "จันทร์" ได้น่ะครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท