โลกและชีวิต (72) : เราหลงลืมอะไรในชีวิต


 

เราหลงลืมอะไรในชีวิต
ยิ่งโตยิ่งพินิจคิดซับซ้อน
ลืมความง่ายความสดใสไร้ตะกอน
ลืมคืนวันอันเยาว์อ่อน-สะท้อนใจ 

หรือยิ่งโตยิ่งเดินไม่ติดดิน
ลืมสิ้นของเล่น เช่นหิน,ไม้
ลืมของกิน ลืมลานดิน ถิ่นพงไพร
ลืมกระทั่งเสียงสดใส-ใครคนนั้น 

หรือยังจำฝังใจไม่รู้จบ
ปรารถนาพานพบ-ประสบฝัน
ว่ายิ่งโตเหมือนยิ่งจะผูกพัน
ว่าอดีต ยิ่งนานวัน...ยิ่งงดงาม

 

 

หมายเลขบันทึก: 340474เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2010 20:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

ใสซื่อบริสุทธิ์ มันจะคงไว้ได้นาน หากไม่โดนสภาพแวดล้อมที่มัวเมายั่วเย้า ยุให้หลงเจิ่นไป

  • เด็ก ๆ หน้าตาน่ารักมากค่ะ  เห็นอย่างนี้แล้ว อยากทำอะไรอีกหลายอย่างให้เด็กไทยเรานะคะ

เห็นเด็กๆแล้วมีความสุขมากครับ...ระลึกถึงเสมอครับอาจารย์

เป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ครับ

เห็นความเป็นธรรมชาติที่ใสพิสุทธิ์ในตัวเด็กๆ...ทำให้ยิ้มได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง หลังจากไม่ได้ยิ้มมาเป็นสัปดาห์แล้ว ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน

 

Dsc_0733-1

สวัสดีครับ ป้าเหมียว

ทุกวันนี้ สังคมเต็มไปด้วยศัตรูที่ลื่นไหล...เด็กๆ เหล่านี้ ก็กำลังเผชิญชะตากรรมเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีค่ะอ.แผ่นดิน

งดงามทั้งภาพและข้อความค่ะ...

...ลืมความง่ายความสดใสไร้ตะกอน
ลืมคืนวันอันเยาว์อ่อน-สะท้อนใจ ....

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

Dsc_0628-0

สวัสดีครับ คุณSila Phu-Chaya

เอารอยยิ้มของเด็ก ๆ มาฝากอีกภาพ นะครับ  ผมเองก็ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกหลายอย่าง -และนั่น ก็หมายถึงการทำอะไรให้เด็กๆ เท่าที่กำลังกาย, กำลัใจ และกำลังทรัพย์ของผมพึงทำได้

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม นะครับ

พระพรหมมังคลาจารย์(ปัญญานันทภิกขุ)

ได้ปาฐกถาธรรมะ อันเป็นคำสอนในทางพระพุทธศาสนา "เรื่องทำตัวให้เหมือนบัวพ้นน้ำ"ความตอนหนึ่งว่า ดอกบัว นี่เป็นดอกไม้ตัวอย่างแห่งความสะอาดเพราะดอกบัวนั้นเกิดในน้ำ ในโคลน แต่ก็ไม่เปื้อนด้วยโคลนด้วยตมเป็นดอกไม้ที่สะอาดปราศจากโทษ สังคมสมัยนี้เป็นหน้าทีของเราทุกคนที่จะชักจูงเพื่อนฝูงมิตรสหายให้ได้เข้าหาธรรมะให้ได้เดินในทางที่ถูกที่ชอบ ไม่อ่านหนังสือธรรมะ ไม่ฟังธรรมมะไม่เข้าใกล้พระเป็นพวก"ดอกบัวใต้น้ำ"ที่จะเน่าเป็นเหยื่อเต่าเหยื่อปลาอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าเราค่อยๆดึงเขาให้เป็น"บัวพ้นน้ำ"จะได้เป็นประโยชน์แก่สังคมต่อไป ผู้ไม่มีอะไรให้กังวล ย่อมพ้นไปจากความทุกข์

"พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ

ชนะความชั่วด้วยความดี ชนะคนตระหนี่ด้วยการให้

ชนะคนปากพล่อยด้วยการพูดความจริง"

จริง ค่ะ อาจารย์

ยิ่งโต ยิ่งคิดมาก ซับซ้อน

บางทีเรื่องม่มีอะไร กลับ กลายเป็นมีอะไร ไปซะงั้นค่ะ

พอลล่าชอบคำของอาจารย์ค่ะ

อ่านแล้วรู้สึกว่า มีความหมาย ไม่ฟุ่มเฟือย ค่ะ

อยากเขียนเก่งๆ บ้างค่ะ

ลืมอะไร หลายท่าน ลืม "อุดมการณ์" ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • เห็นชื่อเรื่อง แล้วสนใจ "เราหลงลืมอะไรในชีวิต"
  • อ่านไปแล้ว เราหลงลืมไปมากจริง
  • มันคิดได้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะปัจจุบัน
  • แต่อดีตตอนเด็กๆ คิดแล้ว ยิ้มตาม สบายใจ
  • แต่อดีตตอนเป็นผู้ใหญ่  ลืมได้ ถือว่า ดี  สบายใจ
  • บางเรื่องที่อยากลืมกลับจำ แต่เรื่องที่ควรจำกลับลืม (เหมือนเพลงเลย อิๆๆ)
  • ขอบคุณที่เขียน และนำรูปเด็กๆไร้เดียงสามาแบ่งปัน

ว่ายิ่งโตเหมือนยิ่งจะผูกพัน
ว่าอดีต ยิ่งนานวัน...ยิ่งงดงาม

ชอบสองวรรคนี้มากค่ะ...

เป็นบทกวีที่รู้สึกได้ถึงความใสซื่อของวัยเด็กนะคะ

 

สวัสดีค่ะ

แวะมาชมภาพรอยยิ้มสวยๆ

เห็นแล้วรู้สึกมีความสุขค่ะ

ขอบคุณนะคะ^__^

  • เราหลงลืมคืนวันอันยิ่งใหญ่
    ลืมรากเหง้าหัวใจที่ไหวอ่อน
    ลืมไออุ่นคุ้นฝันอันยอกย้อน
    หรือวัตถุไล่ต้อนจนตีบตัน

                             ดอกไผ่

สวัสดีครับ อ.เสียงเล็กๆ فؤاد

ผมชอบรอยยิ้มของเด็กๆ และมีความสุขที่ได้จัดกิจกรรมในทำนองการบริการสังคมแก่เด็กๆ ตามหมู่บ้านต่างๆ ถึงแม้จะส่วนใหญ่ไม่ได้ลงลุยเอง เพราะรับบทคนต้นคิดซะมากกว่า แต่ก็ถือว่าสุขใจกับกระบวนการมีส่วนร่วมด้วยเสมอ

เป็นกำลังใจให้นะครับ

สวัสดีครับ คุณปริมปราง

ดีใจมากเลยครับที่รู้ว่าภาพเด็กๆ ในบันทึกของผม ช่วยเติม กระตุ้นให้คุณปริมปรางได้ยิ้มอีกครั้งหลังจากไม่ได้ยิ้มมาเป็นสัปดาห์

ผมเองเป็นคนยิ้มยากมาก...แสดงออกไม่เป็น...จนดูเป็นเครียด..แต่หากได้ทำกิจกรรมกับเด็กนักเรียนแล้ว  จะรู้สึกว่ "หัวใจยิ้ม" อยู่ตลอดเวลา..

ขอให้มีความสุขและมีชีวิตที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนะครับ

สวัสดีครับ คนไม่มีราก

ขอบคุณคำชม นะครับ...
เราต่าง เติบโต และเติบใหญ่ด้วยวัยเยาว์ทั้งนั้น...

หากแต่วันนี้ ความวัยเยาว์ที่ว่านั้น โบยบินไปจากเราเกือบสิ้นแล้ว กระมังครับ

สวัสดีครับ พี่เดชา

ผมเห็นด้วยอย่างมากเลยนะครับกับที่พี่เดชา พูดไว้ว่า สังคมสมัยนี้เป็นหน้าทีของเราทุกคนที่จะชักจูงเพื่อนฝูงมิตรสหายให้ได้เข้าหาธรรมะให้ได้เดินในทางที่ถูกที่ชอบ

หลายคนมักคิดว่า "ธุระไม่ใช่" พอคิดเช่นนี้ ปัญหาต่างๆ ก็ทับถมก่อตัวและบานปลายไปเรื่อยๆ บนพื้นฐานที่ขาดความตระหนักต่อการต้องรับผิดชอบตัวเอง และทำให้ตัวเองเป็นภาระของสังคมก็หนักหนาอยู่แล้ว แต่มาเจอกับภาวะที่คนในสังคมเพิกเฉยที่จะช่วยเหลือ เป็นหูเป็นตา ถือเป็นภาระ...ก็ยิ่งพลอยให้ทุกอย่างแย่เข้าไปใหญ่-แต่ก้เข้าใจนะครับว่า คงไม่มีใครแบกภาระใดได้มากกว่าภาระตัวเอง  เพราะทุกคนควรต้องตระหนักถึงคุณค่าและหน้าที่ของตัวเองเป็นที่ตั้ง  เพียงแต่อดสะท้อนใจเล็กๆ ไม่ได้ว่า "ธุระไม่ใช่" ...ก็กลายเป็นปัญหาเรื่อง "จิตอาสา" ของสังคมได้เหมือนกัน

ขอบคุณครับ

พี่พนัสคะ..

  • บันทึกนี้เป็นบันทึกที่แป๋มชอบและประทับใจมากๆ
  • ทุกถ้อยคำที่คัดสรรมาล้วนมีความหมายให้ใครหลายคนได้ฉุกคิดอะไรบางอย่าง
  • อีกทั้งภาพดวงตาใสๆของเด็กน้อยที่เจ้ายังเล็กนัก กับการก้าวสู่โลกเบื้องใหญ่
  • โลกที่ผู้ใหญ่อย่างเรายังอดที่จะผวาไปกับความน่ากลัวเบื้องหน้าหากไม่รู้เท่าทัน
  • ภาวนาขอให้ต้นกล้าน้อยๆนี้  ได้เติบโตเป็นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับพี่..พี่คนนี้..
  • พี่ที่ไม่เคยลืมรากเหง้าของตนเอง..น่ายกย่องยิ่งนัก..พี่พนัส..คนดีของแผ่นดิน..

ด้วยความระลึกถึงเสมอนะคะ.

งดงาม เรียบง่าย เปี่ยมความหมาย เช่นเคยค่ะ ;)

P
แผ่นดิน
เมื่อ พ. 01 ส.ค. 2550 @ 17:43
การเดินทางของชีวิต
  • ย่อมมีเรื่องราวแห่ง "ชีวิต" ...
    • ทีละนิด  ทีละก้าว
    • สั้น  หรือ นานยาว

    " ยังคง งดงาม ด้วยอักษร ที่เรียงร้อย รสพจนา กลั่นจากใจ " ขอบคุณค่ะ

    ลืมกระทั่งเสียงสดใส-ใครคนนั้น......

    .....อนุโมทนา...คงไม่ได้ลืืม...เพียงแต่คงมิได้หยุด.........

    สวัสดีครับ

    เด็กๆ น่ารัก เติบโต เติบใหญ่ เปลี่ยนไป เปลี่ยนแปลง จากปัจจัยรอบด้าน

    ดังนั้นพวกเราทุกคน ร่วมด้วยช่วยกัน ผลักดันให้ทำในสิ่งดีงาม ครับ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท