เย็นวันที่ ๒๕ ม.ค. ๕๓ ผมไปร่วมงาน “เติมหัวใจให้สังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และกิจกรรมคืนถนนให้คนเดิน” ของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ซึ่งจัดช่วง ๑๖.๐๐ – ๒๒.๐๐ น. ในวันที่ ๒๕ – ๒๗ ม.ค. ๕๓ สร้างความมีชีวิตชีวาให้แก่วิทยาเขตศาลายาเพิ่มเติมจากที่มีการปรับปรุงภูมิสถาปัตย์ครั้งใหญ่เปลี่ยนโฉมวิทยาเขต จากแห้งแล้งรกรุงรังกลายเป็นร่มรื่นสวยงามดังเนรมิต
เวลา ๑๖.๕๐ น. เรานั่ง “รถรางไฟฟ้า” (ล้อยาง ไม่ต้องมีราง) ออกจากสถาบันสุขภาพอาเซียน อ้อมไปทางด้านหลังเพื่อไปยัง “ลานเป็ดขาว” สถานที่จัดการเสวนา “สานฝันอันสูงสุด สู่มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบ” ผ่านบริเวณที่นักศึกษาชุมนุมทำกิจกรรมกันกลุ่มใหญ่ ถัดไปเป็นลานตะกร้อวงที่เตะลงตะกร้าแขวน ใกล้ถึงบริเวณงานเสวนาผ่านบริเวณออกร้านริมถนน ทั้งร้านอาหาร เครื่องดื่ม และร้านขายสินค้านานาชนิด สร้างสีสันและความมีชีวิตชีวาให้แก่วิทยาเขต
ระหว่างรอเปิดเสวนา ท่านอธิการบดีปิยะสกล พาไปชมคลองและท่าเรือของชมรมพายเรือ ไปชมแปลงผักปลอดสารพิษ และร้านขายผัก ได้เห็นความร่มรื่นมีชีวิตชีวาผิดไปจากเมื่อ ๒ ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง
สุนัขจรจัดได้รับการนำไปดูแลมีบ้านสุนัข ได้รับการฝึกจนในที่สุดมีผู้รับไปอุปการะที่บ้านจำนวนหนึ่ง
สถาปนิกผู้ออกแบบภูมิสถาปัตย์กำหนดให้ปลูกต้นไม้ถี่มาก สร้างความร่มรื่น หลังฝนหน้าจะมีบรรยากาศร่มรื่นสดชื่นกว่านี้มากมาย ผมได้เห็นว่าการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมได้ผลต่อความรู้สึกมากจริงๆ ผมเชื่อว่าผู้ปฏิบัติงาน และ นศ. ที่นี่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมากมาย เป็น “สัปปายะวิทยาเขต” เป็นบรรยากาศที่ชวนให้คนเดินหรือใช้จักรยาน หรือออกมาใช้ชีวิตกลางแจ้งในยามว่าง
การปรับปรุงไม่ได้จำกัดแค่พื้นที่ แต่ยังปรับปรุงหอพัก หอสมุด และระบบ ICT ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้นคว้าหาความรู้
เราหวังว่า นี่คือขั้นต้นในการพัฒนาสู่ “ปัญญาของแผ่นดิน” ที่จะทำหน้าที่เป็นหัวรถจักรทางปัญญา นำพาสังคมไทยสู่สังคมเรียนรู้ สังคมอุดมปัญญา ในฐานะมหาวิทยาลัยวิจัยระดับโลก
วิจารณ์ พานิช
๒๕ ม.ค. ๕๓
ไม่มีความเห็น