9มิย.49
ดิฉันมีโอกาสไปร่วมงานฉลองสิริราชสมบัติครบ60ปีที่พระที่นั่งอนันตสมาคมร่วมกับน้องๆที่กรมควบคุมโรคโดยนั่งรถที่กรมจัดให้ เนื่องจากการไม่ได้เตรียมตัวที่ดีทำให้ลืมบัตรประจำตัวที่ทางสำนักเลขานายกรัฐมนตรีจัดให้ แต่น้องเอ๋จากสำนักเลขาได้ให้เจ้าหน้าที่ตามไปให้ทำให้สามารถเข้าไปร่วมในงานได้ ด้วยความที่ต้องรอบัตรอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆทำให้เวลาเข้าไปแล้วไม่สามารถนั่งที่ร่มๆได้เพราะแดดจัดมาก ดิฉันต้องนั่งคู่กับคุณผู้หญิงที่แต่งชุดไทยอย่างสวยงามแต่ต้องนั่งตากแดดเหมือนดิฉัน ทุกคนเหงื่อไหลและต้องหยิบหมายกำหนดการมาพัดแล้วพัดเล่า ประมาณ10.00น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ เร่มมีเมฆมาบังและความร้อนเริ่มจางหายไป หลังจากเสร็จบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เวลาประมาณ11นาฬิกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคมถวายพระพรชัยมงคลณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ดิฉันและทีมก็ย้ายมายืนที่ด้านหน้าโดยหาที่ที่ตรงพระพักตร์ของท่าน ช่วงตั้งแต่ท่านเสด็จจะมีเมฆมาบังแดดให้ตลอดจนท่านเสด็จกลับ ช่วงที่ท่านเสด็จกลับทางทีมกระทรวงสธ.ได้มีโอกาสยืนติดถนนที่ติดประตูทางออกทำให้เห็นทุกพระองค์ห่างจากตัวเราประมาณ2เมตร พวกเราก็ดีใจกันทุกคนที่มีโอกาศเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์
บทเรียนที่อยากจะจดจำ
ในหลวงท่านมีบารมีมากจริงเพราะหลังจากท่านเสด็จกลับแดดร้อนเหมือนเดิม
สิ่งที่ท่านสอนและปฏิบัติให้เราเห็นคงต้องนำมาพัฒนางานของตัวเราในความเสียสละและอดทนมากขึ้น
ขอบคุณเจ้าหน้าที่สำนักเลขาที่ดูแลดิฉันอย่างดีและขอบคุณหมอชัยรัตน์ที่ยืนเป็นเพื่อนในช่วงที่คอยบัตร ในช่วงก่อนหมอมาดิฉันคอยแบบหวังพึ่งเทวดาเพราะห้ามทั้งโทรศัพท์และเข้าใจว่าจะถูกควบคุมสัPญานเนื่องจากระบบความปลดดภัย ไม่สามารถติดต่อกับใครได้เลย ได้แต่มองรถคันแล้วคันเล่าก็ไม่เห็นมา คอยโดยการเดาว่าน่าจะมาที่นี่
ในพระที่นั่งอนันตสมาคมจะไม่มีห้องน้ำให้พวกเราเข้ายกเว้นแขกที่อยู่ในพระที่นั่ง หมอชัยรัตน์ไปถึงก็จะเข้าห้องน้ำ ดิฉันไปเป็นเพื่อนแต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ให้เข้า ดิฉันตัดสินใจบอกหมอชัยรัตน์ให้เข้าไปเถอะเพราะในสภาวะบางกรณีเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถอนุญาติได้แต่อาจจะทำเป็นไม่เห็นได้(เหมือนที่ดิฉันเคยทำในบางกรณี)
ดิฉันได้ลปรรกับหมอน้องๆเรื่องการแต่งกายและการติดเหรียญตราทำให้แต่งตัวได้ถูกต้องยิ่งขึ้น
อยากให้ไปอ่านของอาจารย์ประพนธ์ด้วยค่ะ beyondkm.gotoknow.org อาจารย์บรรยายได้ประทับใจมากค่ะ ส่วนของผ.อ. มัวแต่ลุ้นนายกเพราะขณะที่ท่านนำพวกเราร้องทรงพระเจริญพวกเราร้องตามแต่พอท่านหยุดพวกเราก็หยุดตาม ขณะนั้นในหลวงยังไม่เสด็จกลับ เราอยากจะถวายพระพรอีกแต่ไม่มีพี่เลี้ยงที่จัดเป็นทีมให้เราร้อง งานครั้งนี้ไม่มีการบังคับ ใครอยากไปก็ไป คนที่ไปครั้งนี้ทราบว่ากระทรวงจะขอเหรียญให้ ขณะที่ท่านเสด็จกลับหมอชวนพี่ประภาศรีว่าเราจะถวายพระพร ทรงพระเจริญอีกดีไหม น้องจากสคร. บอกว่าอย่าเลยพี่เพราะไม่ได้นัดกันกับกระทรวงอื่น
ยินดีกับผ.อ. สุดหัวใจที่ได้เข้าเฝ้าใกล้ชิด วันประวัติศาสตร์นั้นผ่านมาแล้วแต่ทุกครั้งที่ทีวีนำภาพวันนั้นมาฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยังรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาซึมทุกครั้งค่ะ
ทั้งเหงื่อทั้งน้ำตาค่ะ ได้ยินคุณหญิงทั้งหลายคุยกันบอกว่าร้องไม่ออกเพราะร้องไห้แทนในขณะที่กำลังกลับบ้าน
นันท์ดูทาง TV ก็น้ำตาซึมเหมือนกัน ปลื้มใจกับท่าน ผอ.ด้วยค่ะ หลังจากนั้น ตอนบ่าย นันท์ไป ปฎิบัติธรรมที่ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทบาลัย อ.วังน้อย เป็นเวลา 5 วัน กับอ้อม ก็ได้ปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศลต่อพระองค์ท่านเช่นกัน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ....