ประสบการณ์ในการเรียนปริญญาโทที่ธรรมศาสตร์ของรัตน์
ประสบการณ์ในการเรียนปริญญาโทที่ธรรมศาสตร์
รัตน์ สอบเข้าปริญญาโท สาขากฎหมายระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2543 ซึ่งเป็นหลักสูตรเก่านักศึกษาสามารถอยู่ในหลักสูตรได้ถึง 7 ปี แต่ถ้าขยันสามารถจบได้ภายใน 4 ปี
จากประสบการณ์ของพวกพี่ ๆ ที่เรียนส่วนใหญ่ใช้เวลา เรียน 7 ปี และแนะนำรุ่นน้อง ๆ ว่าอย่ามาเรียนโทที่ ธรรมศาสตร์ เลย จบช้านะ น่าจะไปเรียนจุฬาฯมากกว่าเพราหลักสูตร 4 ปี
เมื่อเรียนไป 1 ปี มีการปรับปรุงหลักสูตร ให้เหลือ 4 ปี โดยนักศึกษาสามารถเลือกเรียนแบบ แผน ก (ทำวิทยานิพนธ์) หรือ แผน ข (ทำสาระนิพนธ์) ซึ่งเพื่อน ๆ บางคน ก็เปลี่ยนไปเรียนหลักสูตรใหม่ และจบไปก่อนเรา
ตามหลักสูตรแล้ว นักศึกษาต้องลง Course Work ให้เสร็จก่อนแล้วจึงสามารถทำวิทยานิพนธ์ แต่ถ้าคนที่รู้ว่าตัวเองอยากเชี่ยวชาญในด้านใดก็สามารถเลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิทยานิพนธ์ทำให้จบได้เร็วกว่าคนที่ไม่มีจุดหมาย ซึ่งไม่ใช่รัตน์ เพราะรัตน์เป็นคนโลเล เรียนตามเพื่อน แต่ในบางเรื่องก็ใจแข็งเขาลงวิชากต. กอ. กัน เราก็ไม่ลง ลงเรียนวิชาในสายระหว่างประเทศทั้งหมด เรียนตามหลักสูตรมาเรื่อย ๆ จนจบ Course Work ใช้เวลา กว่า 3ปีเพราะต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ
ระหว่างนั้น เพื่อน ๆ เขาตัดสินใจทำวิทยานิพนธ์ เราก็ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องอะไรดี ประกอบกับโลเล เปลี่ยนใจบ่อย ไม่เกาะติดในหัวข้อหนึ่ง กว่าจะเลือกได้จริง ๆ ก็เปลี่ยนหัวข้อไปถึง 3 ครั้ง ซึ่งการเปลี่ยนหัวข้อหลายครั้งไม่ดีเลยทำให้เสียเวลา หัวข้อหนึ่ง ๆ ใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือนในการค้นคว้า เพราะเราต้องค้นข้อมูลให้มากพอที่จะสามารถคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาได้ และเมื่อนำไปคุยแล้วท่านแนะนำให้ค้นเพิ่มเติม พอใกล้ ๆ จะสอบเค้าโครงได้ ตัวเองดันเปลี่ยนใจไปทำเรื่องอื่น อีกแล้ว
พอเวลาผ่านไป เพื่อน ๆ เริ่มทยอย สอบเค้าโครง เราก็อยากสอบกับเค้าบ้างก็เลยตัดสินใจว่าเอาละเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ ไม่อย่างนั้นจะไม่จบพร้อมเพื่อน ๆ ดังนั้นจึงตัดสินใจ หยุดเปลี่ยนหัวข้อและเกาะติดกับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ทำวิทยานิพนธ์ในเรื่องใกล้ ๆ กัน กฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) แต่กว่าจะจบได้ก็หลังจาก เพื่อน ๆ ซึ่งเรียนจบกันไปก่อน 1 ปี
อยากให้ประสบการณ์ในการเรียนของรัตน์เป็นตัวอย่างของคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะทำวิทยานิพนธ์ หรือ สาระนิพนธ์เรื่องอะไรดี ให้รีบ ๆ ตัดสินใจ และเมื่อตัดสินใจแล้วอย่าเปลี่ยนใจ หรือถ้าไม่ชอบเรื่องที่ทำจริง ๆ ก็อย่าเปลี่ยนบ่อย เดี๋ยวจะไม่จบ หรือจบช้ากว่าคนอื่นเขา
ความเห็น (2)
แล้ววันนี้ ตัดสินใจที่จะดำเนินชีวิตต่อในทิศทางไหนล่ะ ? อย่ารีบร้อนเกินไป แต่ก็อย่ารีรอเกินไปล่ะ เรานัดกันที่ ๖ เดือนใช่ไหม ? อย่าลืมล่ะ ?
ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำที่ดีค่ะ