ชีวิตในหลวง คัมภีร์แห่งการใช้ชีวิต


ชีวิตของพระองค์ จึงเป็นภาพสะท้อนความสมดุลของความรักทั้ง ๓ ส่วน คือ รักในสิ่งสูงสุด คือยึดมั่นในศาสนา รักผู้อื่น คือครอบครัวอันรวมถึงประชาชนของพระองค์ และสุดท้ายรักตัวเอง อันได้แก่ การหมั่นฝึกฝนเพื่อพัฒนาศักยภาพที่มีในตัวให้ปรากฏแจ้ง ซึ่งทั้ง ๓ ส่วนนี้เป็นหนึ่งเดียวและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

           แง่มุมต่างๆ ของชีวิตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เราได้มีโอกาสสัมผัส ในช่วงเวลานี้ที่ถูกนำมารวมกันถ่ายทอดให้ประชาชนได้เรียนรู้ ด้วยความคิดคำนึงที่หลากหลาย

            สำหรับฉันเอง ในช่วงเวลาของการแสวงหาสมดุลให้ชีวิตเช่นนี้ ชีวิตของพระองค์ท่านนั้นเป็นดังคัมภีร์แห่งการใช้ชีวิต ที่ฉันใฝ่ฝัน และถูกสอนสั่งมาตั้งแต่เด็ก

            รักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง

          ก้าวแรกที่ฉันเริ่มต้นชีวิตการทำงาน เพื่อสังคม  ... เพื่อคนชายขอบที่ไร้สิทธิ และถูดลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นคน ... ฉันจึงทุ่มเทความรู้ความสามารถ เรี่ยวแรงกำลัง เวลา ทุกสิ่งทุกอย่าง พยายาม อุทิศชีวิต เพื่อ รักผู้อื่น ตามคำสอนที่ฉันยึดถือ         

          นหลายครั้งที่แม้ฉันทำงานอยู่ที่บ้านทั้งวัน แต่แม่ก็ไม่รู้ เพราะฉันมัวแต่ขลุกทำงานอยู่แต่ในห้อง   เป็นอย่างนั้นอยู่ ๔ -๕ ปี  ที่ฉันเข้าใจว่า ยิ่งฉันทุ่มเทมากเท่าไร ก็จะสามารถช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนในชีวิตของพวกเขาและเธอได้มากเท่านั้น   หลายคราที่ความเครียดจากการทำงาน ทำให้ถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล               

            จริงอยู่ว่า มีผลงานภายนอกบางอย่างเกิดขึ้นจากความทุ่มเทของฉันและใครอีกหลายคนในช่วงที่ผ่านมา แต่ที่สำคัญกว่านั้น มีผลงานภายในที่ไม่ค่อยมีใครรู้ ได้เกิดขึ้นกับฉันพร้อม ๆ กัน               

              ความรัก ที่ลดน้อยลงต่อผู้อื่น อันสะท้อนให้เห็นจากความอดทน และความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ที่ลดน้อยลง รวมถึงความสุขกับชีวิตและงานที่เคยมีในช่วงแรก ก็เลือนลางไปมาก           

          ... ฉันเริ่มตระหนัก ณ นาทีนั้น ว่าฉันกำลังหลงทาง  ...       

                        

              เมื่อ ๒ สัปดาห์ก่อน ฉันได้มีโอกาสพาพ่อแม่ไปชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ที่เมืองทองธานี (แม้ตอนแรกฉันจะลังเลอยู่ เพราะกังวลกับการประชุมที่ปรึกษาโครงการวิจัยฯ ในวันรุ่งขึ้น)  แต่การเลือกให้เวลากับครอบครัวในครั้งนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ของนักจัดสรรเวลาที่ยอดเยี่ยมอย่างพระองค์ท่าน               

              เพราะนอกจากพระราชกรณียกิจมากมายเพื่อคนไทยทั้งแผ่นดินแล้ว พระองค์ยังทรงแบ่งเวลาสำหรับครอบครัวและมิตรสหาย  ที่สำคัญ พระองค์ยังทรงให้เวลาฝึกฝนพระอัจฉริยภาพอันหลากหลายของพระองค์จนเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตรกรรม การดนตรี พระราชนิพนธ์ การกีฬา หรืองานช่าง เป็นต้น  จนฉันแอบคิดในใจว่าพระองค์มีเวลาวันละมากกว่า ๒๔ ชั่วโมงหรือเปล่านะ?แน่นอนว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มุ่งมั่น แน่วแน่เช่นนี้ได้ ก็เป็นผลมาจากที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับสิ่งสูงสุด อันเป็นมิติด้านจิตวิญญาณที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจ

                ชีวิตของพระองค์ จึงเป็นภาพสะท้อนความสมดุลของความรักทั้ง ๓ ส่วน คือ รักในสิ่งสูงสุด คือยึดมั่นในศาสนา  รักผู้อื่น คือครอบครัวอันรวมถึงประชาชนของพระองค์ และสุดท้ายรักตัวเอง อันได้แก่ การหมั่นฝึกฝนเพื่อพัฒนาศักยภาพที่มีในตัวให้ปรากฏแจ้ง ซึ่งทั้ง ๓ ส่วนนี้เป็นหนึ่งเดียวและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

 

                ลงสำรวจชุมชนใต้ในงานวิจัยคราวนี้ ฉันอาจจะคว้าสีน้ำกับพู่กัน ที่วางทิ้งไว้กว่า ๑๐ ปี กลับมาปัดฝุ่นพาลงใต้ด้วยคงดี !!

คำสำคัญ (Tags): #สมดุลชีวิต
หมายเลขบันทึก: 33593เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2006 21:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 22:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แล้วอย่าเหนื่อยที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

 

ขอให้ความดีที่คุณได้กระทำต่อสังคม เป็นเกราะคุ้มกันภัย ขอให้มีจิตใจเข้มแข็งมุ่งมั่นในการทำดีนะคะ และเพื่อในหลวงของเราด้วยค่ะ
วาดแล้วขอหนูดูมั่งนะคะ :)

อุ้ย เข้าผิดบล๊อก ขอโทษครับ ผมหนีภัยเหลืองมา ไปก่อนดีกว่า ช่วงนี้เป็นโรคแพ้สีเหลืองอะครับ ไว้ว่าง ๆ จะชวนคุยสนุก ๆ ดีกว่า

อิอิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท