ผมกำลังมองดูว่า ผมจะอธิบายอะไรได้บ้าง จากข้อมูลการเปลี่ยนแปลง charge characteristics ของ surface soils (ลึก 0-5 ซม จากผิวดิน) หลังจากการถางเผาไร่ข้าวโพด และความแตกต่างของ charge characteristics ในการใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทต่างๆ
- ผมทราบว่า โดยทั่วไปแล้ว charge characteristics และ mineralogical properties จะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เช่น ระหว่างรอบของการเพาะปลูก หรือ ช่วงเวลา 1-2 ปี
- ผลการศึกษาจากนักวิจัยหลายท่าน พบว่า charge characteristics (PZSE และ sigma p) แปรผันตามประเภทของการใช้ที่ดิน โดยเฉพาะการใช้ที่ดินที่มีพืชพรรณไม้ปกคลุมอย่างถาวร จะพบว่า PZSE มีค่าระดับต่ำ ขณะที่ sigma p มีค่าสูง ในกรณีที่เปรียบเทียบกับ พื้นที่ที่ไม่มีพรรณไม้ปกคลุม หรือพื้นที่เปิดโล่ง
อย่างไรก็ตามค่า PZSE ค่อนข้างจะผันแปรในระดับที่ต่ำกว่า ค่า sigma p ตามการใช้ประโยชน์ที่ดินแต่ละประเภท
ผลการศึกษาการเปลี่ยนแปลง charge characteristics ภายใต้การเตรียมพื้นที่ด้วยการถางและเผาแปลง พบว่า ค่า PZSE ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด ในขณะที่ค่า sigma p นั้นเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัดเจน โดยมีแนวโน้มว่ามีค่า สูง ขึ้น หลังจากที่เผาแปลงแล้ว
- ผมพบว่าค่า sigma p มีความสัมพันธ์กับ exchangeable bases (K, Mg, และ Ca) ในระดับสูง เนื่องจากค่า sigma p ระดับสูง แสดงให้ทราบว่าว่า อนุภาคของดินนั้น มีพื้นผิวที่จะให้ธาตุอาหารพืชต่างๆ ถูกดูดซับได้มากขึ้น ส่งผลให้เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชนั่นเอง
ผมคิดว่า ถ้าค่า sigma p เปลี่ยนแปลงได้มากในช่วงเวลาสั้นๆ คงไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัวชี้วัดเพื่อประเมิน soil productivity ของพื้นที่ในระยะยาวได้ เช่น 10 หรือ 15 ปี เป็นต้น นอกจากนี้ ธาตุอาหารพืชในดินต่างๆ ก็มักจะเปลี่ยนแปลงอย่างเสมอในระหว่างรอบการเพาะปลูก สำหรับค่า PZSE จะมีโอกาศผันแปรได้ต่ำกว่า ค่า sigma p ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ผมว่าการศึกษานี้คงต้องดำเนินต่อไปเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง เนื่องจากการวิเคราะห์แลป เพื่อหาค่า PZSE ค่อนข้างที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง ไม่เช่นนั้นจะเกิด human error เสมอครับ