เรียนรู้เพื่อเปลี่ยนชีวิต


อิสรชน ต้องการให้อาสาสมัครได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ชีวิตของคนที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธาณะ โดยเราจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนที่มีโอกาสกับคนที่ด้อยโอกาส ให้เขาได้เข้ามาเรียนรู้ชีวิตคนด้อยโอกาส และในทางกลับกัน คนด้อยโอกาสก็จะได้เรียนรู้ชีวิตของคนที่มี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเกิดพลังที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ในเวลากลางวันท้องสนามหลวงจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาชื่นชมกับความงดงามในวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของวัดต่างๆ พระราชพิธีอันดีงามของไทยก็จัดขึ้น ณ ที่นั้น รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ที่บรรจุรากเหง้าแห่งความรุ่งเรืองของประวัติศาสตร์สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้นเมื่อตะวันลับฟ้าพื้นหญ้าที่โล่งกว้างของท้องสนามหลวง จะกลายเป็นแหล่งพักพิงให้แก่คนเร่ร่อน คนไร้บ้าน ผู้คนหนุนนอนกระเป๋าเสื้อผ้าต่างหมอน หลายคนไม่มีเงินติดกระเป๋า ก็เดินเข้ามาใช้สนามหญ้าเป็นแหล่งพักพิง บางคนมากันทั้งครอบครัว เพราะยังคิดไม่ตกว่าจะเอาเงินที่ไหนกลับบ้าน ใครที่วิกลจริตก็เดินไปเดินมาอย่างไร้จุดหมาย พร้อมสบถคำพูดต่างๆ นานา หญิงชายหลายคนเลี้ยงชีพด้วยธุรกิจปรนเปรอความสุขชั่วข้ามคืน

อิสรชน ต้องการให้อาสาสมัครได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ชีวิตของคนที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธาณะ โดยเราจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนที่มีโอกาสกับคนที่ด้อยโอกาส ให้เขาได้เข้ามาเรียนรู้ชีวิตคนด้อยโอกาส และในทางกลับกัน คนด้อยโอกาสก็จะได้เรียนรู้ชีวิตของคนที่มี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเกิดพลังที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ในเรื่องของครอบครัวเร่ร่อนนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากเด็กวัยรุ่นที่เร่ร่อนออกจากบ้านโดยที่ยังไม่ทำบัตรประชาชน พอเติบโตขึ้นก็มามีครอบครัวอาศัยอยู่บริเวณสนามหลวง ดังนั้นลูกของพวกเขาที่คลอดในสนามหลวง ก็จะกลายเป็นคนไร้สัญชาติ เราจึงพยายามผลักดันให้เขาเข้าไปคลอดในโรงพยาบาล เพื่อเด็กที่เกิดมาจะได้มีเลข 13 หลักที่ยังไม่ระบุสัญชาติ และยังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องเผชิญกับภาวะล้มเหลวและบีบคั้นในสังคม ละทิ้งบ้านมาอาศัยอยู่ที่นี่ ตื่นเช้ามาก็พับเสื่อแล้วไปทำงาน แต่ยังมีบางกลุ่มที่ทำงานไม่ไหว แก่มากแล้ว ก็จะคอยช่วยพระบิณฑบาต แล้วนำอาหารมาทานร่วมกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่วนเวียนการดำรงชีวิตของคนที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ

การทำงานตรงนี้มีเป้าหมายให้พวกเขาได้กลับบ้านตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน โดยจะมีกระปุกออมสินสำหรับค่าเดินทางกลับบ้านของพวกเขา เพื่อให้ลูกได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งหลายครอบครัวเมื่อกลับบ้านไป ทางเราก็จะต้องไปอยู่กับเขา 3-4 วัน เพื่อประสานงานกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดให้มาดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีข้อกำหนดให้เขาอยู่กับลูกจนครบ 3 เดือน ก่อนที่จะกลับไปทำงานหาเงินเลี้ยงลูก งานที่พวกเขาทำนั้น มีทั้งรับเหมาก่อสร้าง ขายลูกอม บุหรี่แบ่งขาย น้ำอัดลม หรืออาจมีอาชีพเก็บของเก่ามาขาย จนกระทั่งขายบริการ

หญิงบริการในบริเวณคลองหลอดจะเป็นการขายบริการแบบเสรี ยืนตามพื้นที่สาธารณะ ซึ่งมีทั้งที่เป็นคนเร่ร่อนและไม่เร่ร่อน มีอายุตั้งแต่ 11 จนถึง 74 ปี ซึ่ง อิสรชนทำงานกับหญิงบริการจะทำในเรื่องเกี่ยวกับโรคเอดส์ จะนำถุงยางอนามัยไปแจกให้ใช้ เพื่อให้ป้องการการติดเชื้อ นอกจากนั้นก็จะให้ความรู้เรื่องเอดส์อย่างถูกต้อง รวมถึงข้อควรระวัง หลังจากที่รณรงค์ให้ใช้ถุงยางอนามัยก็มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และเมื่อพวกเขามีความรู้เรื่องเอดส์ เขาก็เริ่มเรียนรู้ที่จะป้องกัน หากผู้มารับบริการคนไหนไม่ยอมใส่ถุงยางอนามัย เขาก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพราะไม่อยากเอาชีวิตมาเสี่ยงกับค่าตอบแทนเพียง 50 – 100 บาท แล้วในทุกๆ ปีก็จะมีการตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ หากใครมีอาการรุนแรงมาก ก็จะประสานงานกับศูนย์บริการสาธารณสุข 9 ประชาธิปไตย

เมื่อย้อนถามถึงปัญหาโดยรวมที่เกิดขึ้น ปัญหาอย่างหนึ่งของคนเร่ร่อนคือ ภาวะปัญหาที่แต่ละคนเผชิญมานั้นมีความแตกต่างกัน บางคนเคยมีกินแต่วันหนึ่งต้องล้มละลาย บางคนถูกทำร้ายจากสังคมจนชีวิตไม่เหลืออะไร ณ เวลานั้นถ้าเป็นตัวเราเองจะสามารถตั้งสติได้มากน้อยแค่ไหน เมื่อเขามาอยู่ที่นี่ เราก็ต้องพยายามรู้ชื่อและที่อยู่จริงของเขา เพื่อจะพาเขากลับบ้าน หรือหากใครเสียชีวิตที่นี่ เราก็จะสามารถตามหาญาติเขาได้ ในอีกมุมหนึ่งคือบ้านที่อยู่นั้นไม่เป็นบ้าน เป็นแค่สถานที่ที่หนึ่งเท่านั้น มีบางคนที่มาอยู่ที่นี่ แต่เป็นคนมีฐานะร่ำรวย มีบ้านอยู่ต่างจังหวัด มีวัวเนื้อสองร้อยตัว ยกกิจการทุกอย่างให้น้อง แล้วตัวเองก็มาอยู่ที่นี่ เพราะเขาอยู่บ้านแล้วไม่สบายใจ ออกมาอยู่กับเพื่อน มาอยู่กับคนที่สบายใจดีกว่า

สนามหลวงเป็นพื้นที่หลาย ๆ คนคิดว่ามันอันตรายไม่มีใครอยากทำงานด้วย ตอนแรกที่ข้าพเจ้าลงทำงานในพื้นแห่งนี้ มีความรู้สึกว่า ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถึงแม้ว่าในพื้นที่แห่งนี้จะมีอันตราย แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่เราไปทำงานด้วยเขาคอยปกป้องดูแลเราอยู่แล้ว วันแรกที่ลงทำงานประทับใจที่เขาให้การต้อนรับเราอย่างดีเท่าที่คนสนามหลวงจะทำได้ เปรียบเสมือนเราไปเยี่ยมญาติของเราคนหนึ่ง พอเราเริ่มทำงานกับคนกลุ่มนี้ไปเรื่อย ๆ เริ่มผูกพัน เป็นห่วง ซึ่งกันและกัน

จากการทำงานการได้พูดคุยกับหลาย ๆ Caes โดยใช้หลักการ Counseling การสังเกต การเรียนรู้จากพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เราได้เรียนมานี้ ทำให้เห็นมุมมองหลาย ๆ อย่าง
จากการพูดคุย คำถามที่เกิดขึ้นในใจของข้าพเจ้า คือ ทำไม คนเหล่านี้ จึงไม่คิดว่าชีวิตเขาข้างหน้าในอนาคต จะเป็นอย่างไร เมื่อเขาไม่มีบ้านที่จะอยู่ อะไร คือสิทธิที่เขาควรรู้ควรได้ ในฐานะคนไทยหนึ่งคน เมื่อเขาเจ็บป่วย ต้องการความช่วยเหลือ เขาควรไปหาใคร การลงไปทำงานในฐานะของชาวอิสรชน ครั้งนี้ ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้คำตอบว่า บางครั้งเราเองกลับเป็นคนที่รู้สึกหดหู่และรันทดแทนเขา ที่เห็นเขาไม่มีบ้านอยู่ เรารู้สึกไปเองว่าเขาจะต้องอยากมี อยากได้ เหมือนกับที่เราอยาก แต่ความเป็นจริงเขาพอใจในสิ่งที่เขามีและเป็น การลงไปแล้วพยามบอกว่าคุณต้องเป็นอย่างนั้น คุณต้องทำอย่างนี้ หรือต้องคิดอย่างนี้ เป็นการบุกรุกทางความรู้สึกของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขาอึดอัดและไม่มีความสุขเมื่อได้เข้าใกล้และพูดคุยกับเรา คำตอบข้อที่สองคือ สิ่งที่เราทำได้และทำให้เขาไม่ให้เขารู้สึกอึดอัดก็คือ คอยดูว่าเขาขาดเหลืออะไร(ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงเงิน) ต้องการความช่วยเหลือพิเศษด้านไหน สิทธิอะไรที่จะต้องบอกให้เขารู้ เมื่อเขาต้องการใช้สิทธินั้นเขาจะต้องทำอย่างไร สุดท้ายก็ชี้ให้เห็นข้อดีข้อเสียงของการอยู่ไปวันๆของเขา แล้วให้เขาตัดสินใจในทางเดินชีวิตของเขาเอง โดยมีเราคอยช่วยเหลือ ด้วยพื้นฐานการทำงานที่ให้ความสำคัญกับคำว่า “เพื่อนมนุษย์” ที่ควรจะมีสิทธิและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน โดยอยู่ภายใต้นิยามของคำว่า “อิสรชน”เช่นกัน

สุดท้ายอยากชวนมาเรียนรู้ร่วมกัน หรือสามารถสนับสนุนการทำงานให้กับเราได้นะค่ะ เพราะช่วงนี้เกิดวิกฤตในเรื่องทุนการทำงาน อยากขอรบกวนช่วย ๆ กันหน่อยนะค่ะ ได้ที่คุณอัจฉรา 086-6282817 หรือร่วมบริจาคได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เลขบัญชี 031-0-03432-9 หรือ ธ.กรุงเทพ สาขามีนบุรี เลขบัญชี 145-5-24762-5 ชื่อบัญชีสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน

หมายเลขบันทึก: 332617เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2010 00:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ติดตามข่าวเรื่อง กลุ่มคนสนามหลวงอยู่ค่ะ ขอบคุณที่นำเรื่องราวมานำเสนอค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท