๐ บุหรงรำแพน...๐


ยูง

 

๐ คล้ายว่าแดดทอดสู่..ไม่สู้ร้อน
เมื่อเนตรคล้ายชายค้อน..เหลือบย้อนหา
นิ่ง, เงียบงัน - แฝงเร้นความเย็นชา
หากเหมือนว่าลอบเร้น..บีบเค้นใจ

๐ ค่อยค่อยเยื้อง..ค่อยค่อยย่าง..อยู่กลางแถว
เนตรผ่องแผ้วลอบชาย..ก็คล้ายไหว-
ตามการเพ่งพิศโลม..รูปโฉมใคร
งามแจ่มใส..ยิ่งนักรูปพักตร์นั้น

๐ นุ่งห่มดำ..ทองลออ-รอบคอระหง
จำหลักวงรอบแขน-ห้อมแหนขวัญ-
ด้วยตุ้มหูแต่งประดับ..แบบรับกัน
แล้วค่อยผันพักตร์พริ้มมาพิมพ์ใจ

๐ อ่อนหวานถึงปานนั้น..เจ้าขวัญน้อย
เมื่อชม้อยเนตรพลัน-ที่สั่นไหว-
ย่อมเป็นอกวาบหวามด้วยความนัย
อกของใครคนหนึ่ง..ที่อึงอล

๐ ใต้ท่วงทีงำเงียบ..พักตร์เรียบเฉย
คล้ายเอื้อนเอ่ยต่อกัน..นับพันหน
ความรู้สึกในอก..พลอยวก-วน
สุดฝ่าพ้นรูปลักษณ์..ที่ดักทาง

๐ หรือ..ผ่านล่วงลงมาจากฟ้าสูง
จึงเหมือนยูงอกแอ่นรำแพนหาง
เหลื่อมลายขนงดงามอยู่ท่ามกลาง-
เงียบงันอ้างว้างในห้วงใจชาย

๐ สะท้อนความอาลัย..ที่ในทรวง
พร้อมร่างรุ้งแสงสรวง..แผ่ช่วง-ฉาย
สะท้อนเพียงวูบวับ..ก่อนลับ-วาย
คือเนตรผายปริศนา..ให้คา-คง

๐ อ่อนไหวถึงปานนั้น..ดวงขวัญเอ๋ย
หวั่นลับเลยรูปยูง อันสูงส่ง
หลัง-พระลบบำราศ..ค่อยหยาดลง
หยาดรูปรอย..ลุ่มหลงสู่ดวงใจ

๐ มีความหมายปรากฏ..ในบทบาท-
เรื้องลีลาศแววระยับ..ออกขับไข
แปรอบอุ่นลามล่วงเป็นห่วงใย
ก็โดยนัยน์อาวรณ์..เจ้าอ่อนน้อย

๐ ลมแผ่วโผยอ่อนพลิ้ว..โลมริ้วแก้ว
อ่อนเอนตามเจ้าแล้ว..จากแผ่วค่อย-
จนรอบความทดท้อเคยรอคอย
คล้ายอ่อนเอนเงียบหงอย..ด้วยน้อยใจ

๐ สะท้อนรูปฝ่าแดด..ผ่านแวดล้อม
พักตร์ละม่อมแววตา..คล้าย-ปราศรัย
สะท้อนผ่านท่วงทีอันมีนัย
ผูกคล้องไว้ยึดมั่น..เป็นพันธนา

๐ เช้าชื่นนั้นน้ำค้าง..เคยวางหยาด
จนโอภาสเรื้องลออทอดทอหา
บริสุทธิ์และสะอาด..บำราศลา-
เพื่อแฝงฝังคุณค่าให้อาวรณ์

๐ เรื่อรุ้งของดวงโคม..เมื่อโลมหล้า
ก็งามเต็มคุณค่าเกินกว่า-ซ่อน
จึงโชติช่วงดวงอุทัย..เหมือนไฟฟอน
ลงแทรกซ้อนทับทรวงด้วยห่วงใย

๐ รอคอยมานับนาน..แต่ผ่านพลบ
จึงบรรจบบริบท..งาม, สดใส
ดูเอาเถิดตระการตา..ยิ่งกว่าใด
ประชุมรูป-นามให้..หัวใจยอม

๐ แต่รับทราบ-งามล้ำแห่งลำแสง
อุ่นก็แฝงกำลังเข้าหลั่งหลอม
ที่ว่าหวานมธุรส..ยาก-อดออม
เหมือนรายล้อมมธุรส..เกินอดใจ

๐ ล่องลอยผ่านฟ้าคราม..สู่งามรูป
ลมแผ่วผ่านโลมลูบ..จิตวูบไหว
สบชม้อยชม้ายมา...ครั้งคราใด
ก็อาวรณ์อาลัยเฝ้าไขว่คว้า

๐ คล้ายว่าร้อนสรวงบนจะพ้นผ่าน
เมื่อเนตรคราญเหมือนคอย-ชม้อยหา
นิ่ง, เงียบงัน - แฝงเร้นความเย็นชา
หากแววตามุ่งหมาย..นั้นฉายทอ

๐ หรือว่าเหล่าทิพแถนทั้งแดนสรวง
จะรับรู้ความปวง..เคยบวงขอ
จึงเมตตาอำนวย..จนช่วยยอ-
รูปลออหยั่งร่างลงกลางใจ

๐ หรือว่า..ปวงทิพแถนทั้งแดนฟ้า
รับพรรณนาสื่อผ่าน..สุดต้านไหว
มาร่วมพร้องคุณค่าความอาลัย
ร่วมจารบทพิสมัย..พิมพ์ใจคน

๐ รูปพักตร์เอยเผยแล้ว..หากแล้วล่วง-
ถ้อยคำที่บำบวงฝากห้วงหน
จะผูกล่ามเจตจินต์..ให้ดิ้นรน
เกินกว่าใจจะหลุดพ้นแล้ว...คนดี

๐ ต่อแต่นี้คือวาระ..เฝ้าละห้อย
ของดวงใจดวงน้อยเฝ้าคอยพี่
ขอ...อาวรณ์อาลัย..เงื่อนไมตรี
อย่าได้ลี้เลือนกัน..ตราบวันวาย !

คำสำคัญ (Tags): #คำประพันธ์
หมายเลขบันทึก: 331955เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2010 07:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท