ถ้าติดตามอ่านบันทึกของหนูช่วงนี้ก็จะเห็นว่าเป็นการลุยงานเก็บตัวอย่างในที่ต่าง ๆ ซึ่งในแต่ละที่ หนูก็เจอปัญหาอุปสรรคที่แตกต่างกันออกไป แล้วหนูก็ค่อย ๆ ปรับแก้ตามสถานการณ์
หนูทำงานนนี้ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ก่อนหน้านี้หนูเคยตรวจสอบไปที่ใจตนเอง หนูทำตัวความยืดมั่นถือมั่นในตนเองหรือไม่ หรือต้องการเอาชนะใครหรือไม่ คำตอบที่ได้ตอบนั้นคือ
“ใช่ ฉันต้องการทำเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า การทำงานมันอยู่ที่ใจ อยู่ที่ความตั้งใจ ไม่ใช้ผลประโยชน์หรือเงิน”
หนูเห็นความรู้สึกนี้ของตนเองก็รู้สึกชะงัก เพราะหนูไม่ได้เริ่มต้นคิดดี เหมือนที่อยากเป็น เห็นไหมค่ะ หนูอยากดูดีแค่ไหน จิตมันเร็วมาก ๆ ค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน หนูอาจจะวางงานลง แล้วก็ทำตัวเรื่อยเปื่อยไม่ทำต่อ
แต่ครั้งนี้หนูตั้งใจกับตนเองว่า
“ลองดูซิ ในเมื่อเราเห็นใจตนเองที่มัน ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนและอยากเอาชนะอยู่ ลองทำงาน แบบที่เห็นมันอยู่ การทำงานจะเป็นเช่นใด ก็ให้เรียนรู้ตามเส้นทาง”
เป็นความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในใจ ยิ่งหนูทำงานนี้ หนูยิ่งมีพลัง ยิ่งเจอปัญหาอุปสรรค หนูยิ่งกล้าหาญ หนูทบทวนในตนเองเป็นการกล้าร้าวหรือไม่
มองเข้ามาที่ใจตนเองสบาย ๆ พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เพราะตอนที่หนูก้าวร้าว ทำเสร็จแล้วใจจะเป็นอาการร้อนรนเหมือนทำผิด
สังเกตไปที่คนแวดล้อม ณ ตอนนี้ ก็รู้สึกว่าท่านเป็นสุข และเหมือนเชียร์หรือ เป็นกำลังใจให้เราอยู่ห่าง ๆ คอยช่วยตอนจังหวะที่ท่านพอมีโอกาส สิ่งเหล่านี้ทำให้หนูรู้สึกว่า ห้องอบอวนไปด้วย ความตั้งใจในการทำงาน เหมือนเป็นการดึงดูดคนอื่น ๆ ให้ลุกขึ้นมาลุยงานโดยอัตโนมัติอีกด้วย
ในเรื่องของการเก็บตัวอย่าง หนูรู้สึกว่า ไม่ใช่ปัญหาแล้ว ลงตัว แต่ก็ไม่ได้หมายถึงจบหรือพอนะคะ แต่เหมือนหนูได้คำตอบแล้วว่า ต้องทำเช่นใด ต้องจัดการแบบไหนต่างหาก ทำให้หนูระลึกถึงคำที่ครูท่านเคยเอ่ยว่า
“เสร็จละ เหตุเก่าเสร็จหมดละ เหลือแต่เหตุใหม่ ไม่ใช่เสร็จที่การกระทำ แต่เสร็จที่ข้างในของเรา”
พอระลึกถึงคำนี้ของครูใจหนูโล่งสบายซาบซึ้งเหมือนมีไออุ่นแผ่ซ่านในใจแล้วใจก็อิ่มเอม
กราบขอบพระคุณครูค่ะที่เมตตาสอนสั่งบ่มเพาะความดีงามและกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาให้อย่างเมตตาไม่มีปิดบัง หนูจะตั้งใจทำงานนี้อย่างมุ่งมั่นอดทนเจ้าค่ะ ความมุ่งมันและตั้งใจมันงดงามเช่นนี้เองค่ะ
ไม่มีความเห็น