เมื่อไปเยือนเมืองน่านในรอบ 7 ปี
ยามเช้าที่เป็นเสียงปลุกให้เราลุกขึ้นมาฟังเรื่องราวที่มาตามสาย ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปเดินตลาดยามเช้าของชาวบ้าน เมื่อได้เวลา แปดโมง เด็ก ๆ ประกาศเคารพธงชาติกัน ความน่ารักของกองดุริยางค์น้อย ที่มีเครื่องดนตรีเพียงชิ้น สองชิ้น บรรเลงเพลงชาติ พร้อมด้วยเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นความน่ารักของเด็ก ๆ
ในวันที่ 12-15 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา อิสรชนได้ไปจัดกิจกรรม “โรงหนังเร่” ภายใต้ “โครงการสื่อสร้างสานสุข” โดยออกเดินทางในคืนวันที่ 12 มกราคม 2553 หลังจากลง
เมื่อมาถึงโรงเรียนบ้านน้ำมวบ ซึ่งเป็นโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6ขณะที่รถโมบายคันสวยสีแดงตกแต่งด้วยลวดลายการ์ตูนได้แล่นเข้าสู่โรงเรียนบ้านน้ำมวบ เด็ก ๆ แตกตื่นและมองด้วยรอยยิ้ม (เพราะเขารู้ก่อนที่เราจะมาว่า เราจะมาทำกิจกรรมมีของเล่นและหนังมาฉายให้เขาดูกัน) เมื่อมาถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก ผอ.โรงเรียน และน้อง บอ.ที่มาลงสนามที่หมู่บ้านนี้และเชิญเรามาช่วยจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ เพราะ วันที่จัดกิจกรรมนั้น ทางโรงเรียนได้จัดวันเด็กให้กับเด็ก ๆ และถือโอกาสทำบุญโรงเรียนไปด้วย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมกับทางโรงเรียน
ทางทีมเมื่อมาถึง ทางครูที่โรงเรียนและน้องเก้า (น้องบอ. ซึ่งเป็นรุ่นน้องพี่นที) ได้พาไปทานข้าวและไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองของคนบ้านน้ำมวบ และมักผ่อนกัน เมื่อได้เวลา 16:00 น. ก็ได้เวลาที่ทีมอิสรชนออกปฏิบัติงาน คือการเตรียมโรงหนังเร่พร้อมฉายในเวลา 19:00 น. เพราะรอชาวบ้านที่ออกไปเก็บข้าวโพดกลับเข้ามา เมื่อได้เวลากัน เรื่องแรกที่ออกโรงฉายให้เด็ก ๆ ที่ชาวบ้านดู คือ “ปู่ซ่าส์บ้าพลัง(Up)” โดยเด็ก ๆ ให้ความสนใจเป็นพิเศษและตื่นเต้นกับหนังที่ฉาย รวมถึงคนเฒ่าคนแก่ ชาวบ้านทยอยออกมาดูหนังกันเรื่อย ๆ หนังจากประกาศว่ามีหนังมาฉายให้ดู และต่อด้วยเรื่องที่ สอง คือเรื่อง “อาคีล่าห์” ก่อนปิดโรงหนังลง
ในเช้าวันรุ่งขึ้น อากาศเย็นยามเช้าพัดผ่านหน้าต่างที่พักเข้ามากระทบผิวหนังทำให้รู้สึกหนาวมากเพราะในกรุงอากาศเย็นสบายแบบนี้ไม่ค่อยได้สัมผัสกันนัก เสียงตามสายในยามเช้าที่เป็นเสียงปลุกให้เราลุกขึ้นมาฟังเรื่องราวที่มาตามสาย ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปเดินตลาดยามเช้าของชาวบ้าน เมื่อได้เวลา แปดโมง เด็ก ๆ ประกาศเคารพธงชาติกัน ความน่ารักของกองดุริยางค์น้อย ที่มีเครื่องดนตรีเพียงชิ้น สองชิ้น บรรเลงเพลงชาติ พร้อมด้วยเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นความน่ารักของเด็ก ๆ จำนวน 204 คนทั้งโรงเรียน ไล่แต่อนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติกัน ก่อนที่คุณครูจะพากันนำขบวนไปใส่บาตรเพราะวันนี้ที่โรงเรียน จัดงานทำบุญโรงเรียน เด็ก ๆ หลายคนถือถุงอาหารกันมาจากบ้านเพื่อเตรียมใส่บาตร ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็เริ่มที่จะทยอยกันเดินเข้มาใส่บาตร เมื่อเด็ก ๆ ใส่บาตรกันเสร็จแล้ว คุณครูก็มอบให้ทางอิสรชนดูแลเด็ก ๆ ด้วยตัวกิจกรรมที่เรานำไปเล่นกับเด็ก เพราะระหว่างที่เด็ก ๆ มาทำกิจกรรมกับทางเรานั้น ขาวบ้านก็ทำบุญกันไป สวดพระ ใส่บาตร ทอดกฐินผ้าป่ากัน
โดยตัวกิจกรรมที่นำมาเล่นกับเด็ก ๆ นั้น ก็มีพี่หมาม่วง ที่น้ารักของเรา ที่ออกมาโบกมือ มาเล่นกับน้อง ๆ เด็กตัวเล็ก ๆ ก็เข้ามากอด มาโอบ เดินตาม ส่วนเด็กที่โตหน่อยก็มาแกล้งแย่พี่หมาม่วงของเราบ้าง มาดึงหู ต่าง ๆ พร้อมเสียงหัวเราะที่ไม่ขาดสาย และถัดมาก็มีตัวตลก ออกมาเป่าลูกโป่งให้เด็ก ๆ กันคนละลูก 2 ลูก จนลูกโป่งกว่า 250 ชิ้น หมดเกลี้ยง และมีเกมส์ต่าง ๆ ให้เด็ก พร้อมขนมและของรางวัลที่ผู้บริจาคบริจาคมา นำมามอบให้เด็ก ๆ กัน ส่วนในเรื่องของเสื้อผ้ามือสองนั้นเรามอบให้ทางโรงเรียนเป็นผู้มอบให้เด็ก ๆ เอง กิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ ผ่านพ้นไปจนเวลา 12:00 น.นั้น เด็ก ๆ ก็เข้ารับประทานอาหารเที่ยงที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ และ13:00 น. ก็เป็นกิจกรรมของเด็ก ๆ ที่มีการแสดงต่าง ๆ เนื่องในวันเด็กเข้ามาแสดงโชว์มากมาย ของที่ทางอิสรชนได้นำไปในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นขนม เสื้อผ้า ของเล่น ของที่ระลึก ได้มอบให้กับโก ๆ ได้ครบถ้วนทุกคน เมื่อกิจกรรมทางทีมอิสรชน เสร็จสิ้นลงแล้ว ก็เดินทางเข้ามาพักในเมืองน่าน ก่อนที่จะเดินทางกลับ ในเช้าวันที่ 15 มกราคม 2553 โดยเด็ก ๆ ก็ต่างยิ้มแย้มดีใจกับกิจกรรมและเชิญชวนให้เรามาอีก ในครั้งต่อ ๆ ไป ซึ่งในเดือนหน้า อาจจะมีอีกหมู่บ้านที่จะให้เราไปจัดกิจกรรมให้ ซึ่งเมื่อเข้ามาพักที่ตัว จ.น่าน นั้น เป็นบ้านพักพี่เจิด (รุ่นพี่บอ.พี่นทีที่เชิญชวนให้มาช่วยน้องเก้าจัดกิจกรรมในครั้งนี้) ทีมอิสรชนต่างหลงในเสน่ห์ของเมืองน่าน ที่เป็นเมืองสงบ และคงความอนุรักษ์ ความเป็นชาวนน่าน วัฒนธรรมที่ไม่ห่างหายไป ถึงแม้จะมีความเจริญเข้ามาบ้าง
ในการไปจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีสิ่งที่ได้เรียนรู้มากมาย พร้อม ๆ กับรอยยิ้มของเด็ก ๆ และน้ำใจของชาว จ.น่าน ความน่ารักและความเป็นกันเอง ความรักในความสงบของชาว จ.น่าน กิจกรรมครั้งนี้ได้สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และโอกาสให้เด็ก ๆ หลาย คนได้เล่น ได้เรียนรู้ ได้สัมผัสสื่อที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัส อย่างพี่หมาม่วง มาสคอท น้องหมาของเรา ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ให้การเดินทางไปทำกิจกรรมในครั้งนี้ได้เกิดขึ้น ครั้งหน้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสียงหัวเราะให้กับเด็ก ๆ กับอิสรชนอีกนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ในวันที่ 12-15 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา อิสรชนได้ไปจัดกิจกรรม “โรงหนังเร่” ภายใต้ “โครงการสื่อสร้างสานสุข” โดยออกเดินทางในคืนวันที่ 12 มกราคม 2553 หลังจากลงพื้นที่ ในเวลา 22:00 น. ออกเดินทางจากสนามหลวงมุ่งส ู่ โรงเรียนบ้านน้ำมวบ อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน การเดินทางเป็นไปแบบเรื่อย ๆ แวะพักตามทาง จึงทำให้ไปถึงที่โรงเรียนบ้านน้ำมวบ ประมาณ 10:00 น. เพราะระหว่างทางขึ้นลงเขาไปที่บ้านน้ำมวบนั้น กว่าหลายโค้ง บรรยากาศหนาวเย็นในยามเช้าพัดผ่าน ทำให้คนกรุงได้ไปสัมผัสอากาศหนาวในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการไปเยือนในรอบ 7 ปี ที่อิสรชนได้ไปจังหวัดน่าน หลังจากเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมาได้ไปจัดกิจกรรมให้เยาวชนในจังหวัดน่านหลายต่อหลายครั้ง
ด้วยบรรยากาศที่หนาวเย็นในยามเช้า พอใกล้ที่จะเข้าอำเภอเวียงสา ได้แวะพักทานอาหารเช้ากันที่ ร้านชาคริส ระหว่างทาง ที่มีบรรยากาศบ้านพักบนเขาร้านชาคริต อาหารอร่อย และตลอดการเดินทางจากร้านอาหารนี้เข้าสู่จุดหมายนั้นได้เปิดกระจกรถรับลมหนาวที่โชยมา และได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ของป่าเขาที่สวยสดงดงามตลอดการเดินทาง ระหว่างทางเข้าบ้านน้ำมวบที่ป่านหลายโค้งนั้น ได้เห็นวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านน้ำมวบ ที่เข้าสู่ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวข้าวโพด แล้วทึ่งกับภูมิปัญญาชาวบ้านที่เมื่อมาลำเปลี่ยนกับน้องที่เชิญอิสรชนมาจัดกิจกรรมว่า ชาวบ้านสามารถ ดัดแปลงรถไถให้เก็บเกี่ยวข้าวโพดบนเขาได้ การขับรถไถและบรรทุกข้าวโพดกว่าสิบกระสอบไต่ขึ้นเขา (แบบรถไตถัง) ชื่นชมในภูมิปัญญาของชาวบ้านที่อนุรักษ์หลาย ๆ อย่างให้คงอยู่
ด้วยบรรยากาศที่หนาวเย็นในยามเช้า พอใกล้ที่จะเข้าอำเภอเวียงสา ได้แวะพักทานอาหารเช้ากันที่ ร้านชาคริส ระหว่างทาง ที่มีบรรยากาศบ้านพักบนเขาร้านชาคริต อาหารอร่อย และตลอดการเดินทางจากร้านอาหารนี้เข้าสู่จุดหมายนั้นได้เปิดกระจกรถรับลมหนาวที่โชยมา และได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ของป่าเขาที่สวยสดงดงามตลอดการเดินทาง ระหว่างทางเข้าบ้านน้ำมวบที่ป่านหลายโค้งนั้น ได้เห็นวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านน้ำมวบ ที่เข้าสู่ฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวข้าวโพด แล้วทึ่งกับภูมิปัญญาชาวบ้านที่เมื่อมาลำเปลี่ยนกับน้องที่เชิญอิสรชนมาจัดกิจกรรมว่า ชาวบ้านสามารถ ดัดแปลงรถไถให้เก็บเกี่ยวข้าวโพดบนเขาได้ การขับรถไถและบรรทุกข้าวโพดกว่าสิบกระสอบไต่ขึ้นเขา (แบบรถไตถัง) ชื่นชมในภูมิปัญญาของชาวบ้านที่อนุรักษ์หลาย ๆ อย่างให้คงอยู่
เมื่อมาถึงโรงเรียนบ้านน้ำมวบ ซึ่งเป็นโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6ขณะที่รถโมบายคันสวยสีแดงตกแต่งด้วยลวดลายการ์ตูนได้แล่นเข้าสู่โรงเรียนบ้านน้ำมวบ เด็ก ๆ แตกตื่นและมองด้วยรอยยิ้ม (เพราะเขารู้ก่อนที่เราจะมาว่า เราจะมาทำกิจกรรมมีของเล่นและหนังมาฉายให้เขาดูกัน) เมื่อมาถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจาก ผอ.โรงเรียน และน้อง บอ.ที่มาลงสนามที่หมู่บ้านนี้และเชิญเรามาช่วยจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ เพราะ วันที่จัดกิจกรรมนั้น ทางโรงเรียนได้จัดวันเด็กให้กับเด็ก ๆ และถือโอกาสทำบุญโรงเรียนไปด้วย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมกับทางโรงเรียน
ทางทีมเมื่อมาถึง ทางครูที่โรงเรียนและน้องเก้า (น้องบอ. ซึ่งเป็นรุ่นน้องพี่นที) ได้พาไปทานข้าวและไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิคู่บ้านคู่เมืองของคนบ้านน้ำมวบ และมักผ่อนกัน เมื่อได้เวลา 16:00 น. ก็ได้เวลาที่ทีมอิสรชนออกปฏิบัติงาน คือการเตรียมโรงหนังเร่พร้อมฉายในเวลา 19:00 น. เพราะรอชาวบ้านที่ออกไปเก็บข้าวโพดกลับเข้ามา เมื่อได้เวลากัน เรื่องแรกที่ออกโรงฉายให้เด็ก ๆ ที่ชาวบ้านดู คือ “ปู่ซ่าส์บ้าพลัง(Up)” โดยเด็ก ๆ ให้ความสนใจเป็นพิเศษและตื่นเต้นกับหนังที่ฉาย รวมถึงคนเฒ่าคนแก่ ชาวบ้านทยอยออกมาดูหนังกันเรื่อย ๆ หนังจากประกาศว่ามีหนังมาฉายให้ดู และต่อด้วยเรื่องที่ สอง คือเรื่อง “อาคีล่าห์” ก่อนปิดโรงหนังลง
ในเช้าวันรุ่งขึ้น อากาศเย็นยามเช้าพัดผ่านหน้าต่างที่พักเข้ามากระทบผิวหนังทำให้รู้สึกหนาวมากเพราะในกรุงอากาศเย็นสบายแบบนี้ไม่ค่อยได้สัมผัสกันนัก เสียงตามสายในยามเช้าที่เป็นเสียงปลุกให้เราลุกขึ้นมาฟังเรื่องราวที่มาตามสาย ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปเดินตลาดยามเช้าของชาวบ้าน เมื่อได้เวลา แปดโมง เด็ก ๆ ประกาศเคารพธงชาติกัน ความน่ารักของกองดุริยางค์น้อย ที่มีเครื่องดนตรีเพียงชิ้น สองชิ้น บรรเลงเพลงชาติ พร้อมด้วยเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นความน่ารักของเด็ก ๆ จำนวน 204 คนทั้งโรงเรียน ไล่แต่อนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติกัน ก่อนที่คุณครูจะพากันนำขบวนไปใส่บาตรเพราะวันนี้ที่โรงเรียน จัดงานทำบุญโรงเรียน เด็ก ๆ หลายคนถือถุงอาหารกันมาจากบ้านเพื่อเตรียมใส่บาตร ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็เริ่มที่จะทยอยกันเดินเข้มาใส่บาตร เมื่อเด็ก ๆ ใส่บาตรกันเสร็จแล้ว คุณครูก็มอบให้ทางอิสรชนดูแลเด็ก ๆ ด้วยตัวกิจกรรมที่เรานำไปเล่นกับเด็ก เพราะระหว่างที่เด็ก ๆ มาทำกิจกรรมกับทางเรานั้น ขาวบ้านก็ทำบุญกันไป สวดพระ ใส่บาตร ทอดกฐินผ้าป่ากัน
โดยตัวกิจกรรมที่นำมาเล่นกับเด็ก ๆ นั้น ก็มีพี่หมาม่วง ที่น้ารักของเรา ที่ออกมาโบกมือ มาเล่นกับน้อง ๆ เด็กตัวเล็ก ๆ ก็เข้ามากอด มาโอบ เดินตาม ส่วนเด็กที่โตหน่อยก็มาแกล้งแย่พี่หมาม่วงของเราบ้าง มาดึงหู ต่าง ๆ พร้อมเสียงหัวเราะที่ไม่ขาดสาย และถัดมาก็มีตัวตลก ออกมาเป่าลูกโป่งให้เด็ก ๆ กันคนละลูก 2 ลูก จนลูกโป่งกว่า 250 ชิ้น หมดเกลี้ยง และมีเกมส์ต่าง ๆ ให้เด็ก พร้อมขนมและของรางวัลที่ผู้บริจาคบริจาคมา นำมามอบให้เด็ก ๆ กัน ส่วนในเรื่องของเสื้อผ้ามือสองนั้นเรามอบให้ทางโรงเรียนเป็นผู้มอบให้เด็ก ๆ เอง กิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างรอยยิ้มให้กับเด็ก ๆ ผ่านพ้นไปจนเวลา 12:00 น.นั้น เด็ก ๆ ก็เข้ารับประทานอาหารเที่ยงที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ และ13:00 น. ก็เป็นกิจกรรมของเด็ก ๆ ที่มีการแสดงต่าง ๆ เนื่องในวันเด็กเข้ามาแสดงโชว์มากมาย ของที่ทางอิสรชนได้นำไปในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นขนม เสื้อผ้า ของเล่น ของที่ระลึก ได้มอบให้กับโก ๆ ได้ครบถ้วนทุกคน เมื่อกิจกรรมทางทีมอิสรชน เสร็จสิ้นลงแล้ว ก็เดินทางเข้ามาพักในเมืองน่าน ก่อนที่จะเดินทางกลับ ในเช้าวันที่ 15 มกราคม 2553 โดยเด็ก ๆ ก็ต่างยิ้มแย้มดีใจกับกิจกรรมและเชิญชวนให้เรามาอีก ในครั้งต่อ ๆ ไป ซึ่งในเดือนหน้า อาจจะมีอีกหมู่บ้านที่จะให้เราไปจัดกิจกรรมให้ ซึ่งเมื่อเข้ามาพักที่ตัว จ.น่าน นั้น เป็นบ้านพักพี่เจิด (รุ่นพี่บอ.พี่นทีที่เชิญชวนให้มาช่วยน้องเก้าจัดกิจกรรมในครั้งนี้) ทีมอิสรชนต่างหลงในเสน่ห์ของเมืองน่าน ที่เป็นเมืองสงบ และคงความอนุรักษ์ ความเป็นชาวนน่าน วัฒนธรรมที่ไม่ห่างหายไป ถึงแม้จะมีความเจริญเข้ามาบ้าง
ในการไปจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีสิ่งที่ได้เรียนรู้มากมาย พร้อม ๆ กับรอยยิ้มของเด็ก ๆ และน้ำใจของชาว จ.น่าน ความน่ารักและความเป็นกันเอง ความรักในความสงบของชาว จ.น่าน กิจกรรมครั้งนี้ได้สร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และโอกาสให้เด็ก ๆ หลาย คนได้เล่น ได้เรียนรู้ ได้สัมผัสสื่อที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัส อย่างพี่หมาม่วง มาสคอท น้องหมาของเรา ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน ให้การเดินทางไปทำกิจกรรมในครั้งนี้ได้เกิดขึ้น ครั้งหน้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสียงหัวเราะให้กับเด็ก ๆ กับอิสรชนอีกนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
อัจฉรา อุดมศิลป์ : เขียน/เรียบเรียง
คำสำคัญ (Tags): #กิจกรรม#นที สรวารี#น่าน#บ้านน้ำมวบ#หนังเร่#อัจฉรา อุดมศิลป์#อาสาสมัคร#อิสรชน#เวียงสา
หมายเลขบันทึก: 328774เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2010 18:31 น. ()ความเห็น (1)
อิจฉาจังเลยครับ แต่ก่อนทำงานสื่อ ก็ไปแบบนี้ประจำ แต่พอปัจจุบัน ย้ายงานมาออกแบบการสื่อสาร ไม่ค่อยได้ไปไหนเลย เฮ้ออ
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก