เคยติดตามดูประวัติของเจงกิสข่าน เจงกิสข่านเป็นนักการทหารที่เก่งและโหดเหี้ยมที่สุดในโลก ดินแดนของอาณาจักรมงโกลกว้างใหญ่ไพศาลจากทะเลญี่ปุ่นจนจรดเยอรมันตะวันออกครับ ตามมุมมองของผู้เขียนนั้นถ้าเจงกิสข่านไม่ตายก่อน คงจะเหลือแค่นกเพนกวินที่ขั้วโลกเท่านั้น ที่จะไม่ถูกพิชิต ครับหากเราดูหนังประวัติศาสตร์ก็จะเห็นแต่ภาพความกล้าหาญ และการล้างแค้นครับ แต่ดูให้ดีครับก่อนที่เจงกิสข่านจะขึ้นมาเป็นใหญ่ ท่านปฏิวัติอะไรหลายอย่างครับ อย่างแรกๆที่ทำเลยคือ การปฏิวัติธรรมเนียมประพณีครับ ประเพณีของมงโกลนั้น คนที่จะเป็นแม่ทัพได้นั้น จะจำกัดอยู่แค่ชนชั้นสูงเท่านั้นครับ ต้องเป็นลูกหลานเชื้อพระวงศ์เท่านั้น แต่เจงกิสข่านกลับคิดใหม่ทำใหม่ครับ ด้วยการมองที่สติปัญญาและความสามารถ ทำให้คนมงโกลเห็นกับตาเลยครับว่าแม่ทัพคู่ใจของท่านนั้น เดิมเป็นแค่เด็กในคอกม้าเท่านั้นครับ แม่ทัพคนนี้กลายเป็นผู้มีบทบาทในการขยายอาณาจักรของท่านจนถึงรุ่นลูกเลยครับ การใช้คนตามสติปัญญาความสามารถนั้นกลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดของอาณาจักรมงโกลครับ
ตัดภาพแค่ตรงนี้นะครับยังไม่ต้องพูดถึงการปฏิวัติด้านอื่นๆ เช่นการทหารซึ่งผมจะพูดต่อในด้านนวัตกรรมภายหลัง เราคงเคยได้ยินคำว่า "วุฒิ" ใช่ไหมครับ คำนี้ถ้าไล่ดูให้ดีเราจะเห็นว่า "วุฒิ" ปรากฏอยู่ในคำหลายคำเช่น วุฒิการศึกษา ส่วนผม ผมได้ยินอยู่สี่คำครับคือ
ชาติวุฒิ หมายถึงชาติกำเนิด
คุณวุฒิ หมายถึง ยศ วุฒิการศึกษา
วัยวุฒิ หมายถึง อายุมากกว่า
ปัญญาวุฒิ หมายถึง การรู้จักคุณ โทษ และทางออก อะไรดีไม่ดี (ทำนองว่า EQ+IQ)
อาณาจักรมงโกลกลายเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะผู้นำปฏิวัติธรรมเนียมประเพณี ด้วยการยกเอาปัญญาวุฒิให้เหนือกวาสิ่งอื่นใดครับ ทำให้คนในอาณาจักรตื่นตัว ค้นพบความเป็นไปได้ เลยอยากเรียนรู้ (Learning) เพราะโอกาสเติบโต (Growth) เปิดแล้ว
องค์กรอมตะอย่างพุทธศาสนา ก็ทำเรื่องนี้ตั้งแต่โบราณกาลแล้วครับ คุณจะเห็นว่าพระพุทธเจ้าแต่งตั้งเอกทัคคะตั้ง 80 รูป ผู้เป็นเลิศด้านต่างๆ เช่นพระสาลีบุตรเป็นเลิศด้านปัญญา เพราะฉะนั้นผู้เขียนมองว่า ใครถูกจริตกับะอกทัคคะด้านใด ก็จะเข้าไปสำนักนั้น เช่นพวกชอบสายปัญญาก็จะเข้าสำนักพระสาลีบุตร ชอบอิทธิฤทธิ์ก็จะเข้าสำนักของพระโมคคัลลา ด้วยเหตุนี้พระพุทธศาสนาจึงไปได้กับคนที่มีจริตหลายหลายประเภท เข้าข่ายเป็นองค์กรสำหรับพหุปัญญา (Multiple Inteligence) ครับ คนไม่ว่าจะในกรอบ นอกกรอบปานใดก็จะรู้สึกอยากเรียนรู้ในศาสนา และเข้ามามีส่วนร่วม (Learning) เพื่อเติบโต ไปสู่การบรรลุธรรม (Growth) ในที่สุด ทำให้ศาสนาพุทธเผยแพรไปในชนทุกหมู่เหล่า เติบโตมาถึงทุกวันนี้ครับ (เป็นทัศนะส่วนตัวของผู้เขียนครับ ถูกไม่ถูกน้อมรับคำชี้แนะครับ)
องค์กรสมัยใหม่เช่น 3M ก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้ครับ จึงกลายเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม
ใช่ว่า "วุฒิ" ด้านอื่นไม่สำคัญครับ แต่ต้องใช้ให้ถูก จะเป็นประโยชน์ยิ่งครับ แล้วผมจะเขียนมาเล่าต่อไปครับ
ขอบคุณค่ะ ไว้มาอ่านต่อนะคะ
เจงกิสข่านเก่งจริงๆค่ะ เคยไปเที่ยวที่ Inner mongolia มีแต่ทะเลทรายกับทุ่งหญ้า ม้าแล้วก็อูฐ หนาวก็หนาว แต่คนที่โน่นเค้าก็ดูเป็นมิตรดีนะคะ สนุกสนานเฮฮาดี ถึงจะแห้งแล้งแต่คนมองโกลก็เอาตัวรอดมาได้แถมยังสู้รบขยายอณาเขตุไปกว้างใหญ่ไพศาล อย่าง ก๋วยเจ๋ง ในเรื่องมังกรหยกก็เป็นลูกหลานชาวมองโกลเหมือนกัน ( เกี่ยวกันไหม๊เนี่ย )
สงสัยต้องหาเจงกิสข่านมาดูแล้วครับอาจารย์
อ่านแล้วน่าสนใจดีครับ ผลว่าสังคมไทยแปลกครับ
ยังคงยึดติดกับอะไรเดิมๆ เรื่องวุฒิเนี่ย
โดยเฉพาะวัยวุฒิ และคุณวุฒิ
เรื่องวัยวุฒิ
บางทีผมมองว่ามันกลายเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมครับ เพราะคนหนุ่มๆไฟแรงบางคนมีความสามารถพร้อมกว่าคนมีอายุ
แต่ด้วยข้อจำกัด และความเชื่อของสังคมว่า คนแก่ต้องได้ขึ้นก่อน ทำให้หลายๆองค์กรก้าวหน้าได้ช้าครับ
เรื่องคุณวุฒิ
สังคมไทยเป็นพวกที่แปลกครับ ถ้าวิทยากรไม่ขึ้นชื่อว่า ดร. จะไม่ค่อยฟังกัน ไม่รู้เพราะอะไร
ผมมองว่าบางทีผู้รู้อาจจะไม่ต้องจบอะไรสูง อย่างเช่น เทคนิคการปลูกกล้วยอะไรแบบนี้ ผมว่าชาวนา ชาวไร้น่าจะมีความรู้
ความชำนาญที่ดีกว่า ดร. นำหน้าด้วยซ้ำ แต่ด้วยค่านิยมละครับ ทำให้คนไทยกลับมองเรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆครับอาจารย์ การปกครองคนแบบเจงกิสข่านก็ไม่เลวนะครับ ^^
แวะมาครับ
ติดตามตอนต่อไปอยู่ครับ
เห็นด้วยกับไพรัชช์ค่ะ
คนบางคนแม้มีคุณวุฒิ คือมีการศึกษามากกว่า
ในหลายๆ ครั้งยังต้องศึกษาประสบการณ์จากผู้มีวัยวุฒิ
อันนี้เด่นชัดค่ะ
แต่ว่า เอตทัคคะ (ผู้เป็นเลิศ) ของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาล
จะเหมือนกันกับ การเข้าห้องแช๊ท แต่ละห้องของพันทิพย์รึเปล่าคะอาจารย์
แต่หนูว่าอย่างหลังเนี่ย สาระจะแตกต่างออกไปค่ะ
j
ถ้าเป็นจุดมุ่งหมาย เพื่อพ้นทุกข์อย่างถอนรากถอนโคนก็คล้าย ถ้าไม่ใช่ก็ต่าง
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่ม AI THAILAND ได้ที่
ได้คำตอบเพิ่มเติมกับชีวิตแล้วครับ อ.โย
ยินดีด้วยนะครับ สำหรับ ป.เอก ของอาจารย์
อ.โยครับ
เขียนเรื่องนี้มา ทำให้ผมนึกสะท้อนวงการศึกษาครับ
ในวงการศึกษา แม่ทัพการศึกษา มักจะมาจาก ชาติวุฒิ คุณวุฒิ วัยวุฒิ
คนเก่ง มักถูกสกัดดาวรุ่ง
ขอบคุณครับ
small man
ขอบคุณมากที่แวะมาให้กำลังใจครับ