มาช้าแต่มาค่ะ ตอนต่อ**
สมัยที่ดิฉันเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นมแม่อย่างเดียวร้อยเปอร์เซ็นต์ในห้า-หกเดือนแรก
แทรกด้วยนมขวดหลังนั้น แต่ นมแม่ยังเป็นหลัก จนเกือบครบหนึ่งปี (เมื่อมั่นใจว่าเขาแยกวิธีออกแล้วว่า การดูดนมแม่ และนมขวดนั้นต้องใช้ทักษะต่างกัน จึงเริ่มแทรกมื้อกลางวันด้วยนมขวด-ซึ่งเขาไม่ชอบนัก)
จำได้ว่า กว่าจะผ่านหนึ่งและสองเดือนแรกลำบากนิดหน่อยค่ะ เพราะลูกเป็นเด็ก เลี้ยงง่าย และช อ บ น อ น ม า ก ก....บางวันนอนอย่างเดียวสี่-ห้าชั่วโมงในวันอากาศดี
ต้องไปคอยแอบดู ว่าหนูหลับสบายอย่างนั้นเชียวหรือ !!!
เขาเกิดปลายเดือนเจ็ด พอเดือนแปดและเก้าในปีนั้น จำได้ว่าอากาศเย็นสบาย ลูกนอนตลอด
ตื่นมาดูดนมน้อย น้ำนมจึงมาน้อย ต้องปั๊มน้ำนมช่วยป้องกันน้ำนมหยุดไหล..
การปั๊มนมในบางคน ไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับเรา ทำไมมันจึงเจ็บ ก็ไม่รู้ คงไม่ค่อยถูกวิธี จึงเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยชอบเลย
แต่เมื่อเข้าเดือนที่สาม อายุลูกน่ะค่ะ ทีนี้สบายเลยค่ะ น้ำนมมีมาพอทั้งสองข้างค่ะเพราะลูกตื่นเป็นเวลา
จึงเล่าประสบการณ์เผื่อใคร ๆ หลาย ๆ คน
<3 <3 <3 <3 <3
ถ้าวางแผนว่าจะเลี้ยงนมแม่
ไม่ต้องซื้อขวดนมเลย
*จนกว่าเขาโตพอจะดูด โดยวิธีที่แตกต่างกัน และนมแม่มาคงที่แล้ว จึงเสริมด้วยนมขวด ถ้าคุณแม่มีความจำเป็นต้องห่างจากลูกบ้าง
*ต้องหรือ ไม่ควรหัดให้กินนมชงสลับนะคะ (ถ้าไม่จำเป็น) กลไกการดูดน้ำนมจากขวดและอกแม่ไม่เหมือนกันค่ะ เด็กสับสนและเคยมีกรณีสำลักค่ะ
*นมขวดดูดง่ายกว่าเยอะ นมจากอกแม่ จะแพ้ตั้งแต่ยกแรก
และนี่คือปัญหาภาคปฎิบัติของคุณแม่มือใหม่ค่ะ
นมขวดไหลด้วยแรงโน้มถ่วง บวกแรงดูดของเด็ก จึงดูดง่ายกว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ฮอร์โมนสำคัญเหล่านี้จะช่วยกระตุ้น และร่วมกันทำงานกับฮอร์โมนตัวอื่น ๆ กระตุ้นท่อน้ำนมให้สร้าง เก็บกักน้ำนม และ(ขอใช้คำว่า)ผลักดันให้มีการหดตัวของท่อน้ำนม ทำให้น้ำนมแม่ พุ่งออกมาค่ะ
บางคนดูดข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งก็พุ่งด้วย
บางคนไม่ถึงกับพุ่ง แค่ซึมและผุดออกมาเรื่อย ๆ คาดว่าขึ้นกับ แรงดูดของลูกเราด้วย
แต่จะแบบไหนก็ตามแต่ น้ำนมของแม่แต่ละคน ปรับตัว ยืดหยุ่นตามการดูดของลูก และ ตามปริมาณที่ลูกต้องการ
และเหมือนมีสายใยผูกพัน แน่นอนเลยดีกว่า ว่ามีสิ่งผูกพันอันเหนียวแน่น...เพราะเพียง"แม่"ได้ยินเสียง"แอ๊ะ"เล็ก ๆ ค่อย ๆ ของลูก
ขบวน การของท่อน้ำนมในอกเเม่ ทำงานแล้วเลยค่ะ มันจะมีอาการพุ่งจี๊ด ๆ มีความรู้สึกซ่า ๆ เหมือนตาน้ำกำลังจะผุด หรือคงเหมือน ฝักบัว(น้ำนม)ที่แม่กำลังจะเปิด
เมื่อเวลานานเนิ่นไปอีกสักพัก เพียงถึงเวลาที่เราเคยนัดกัน หรือ เราพะวง คิดขึ้นมาว่า "เอ ลูกเราหิวนมแล้วยังหนอ"
ขบวนการที่ว่าก็มีมาเช่นกัน
<3 <3 <3
ทีนี้มาว่ากันถึงประโยชน์บ้างของ "การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่" บ้าง
1. แม่จะมีความสุข อย่างบอกไม่ถูก
ยามเรานั่งมองปากน้อย ๆ ของลูกที่แนบอกเรา หาอะไรมาเทียบความสุขนี้ไม่ได้ค่ะ
ปากลูกจะหอมมาก ๆ ค่ะ
ไม่มีกลิ่นนมเปรี้ยว ๆ คล้าย ๆ กลิ่นบูดเหมือนนมขวดค่ะ
2. ยามที่ลูกแสดงสีหน้า หรือบางคราวหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ยิ้ม เมื่อควานหาพบสิ่งสุดรัก สุดโปรด นั่นคือ "หัวนมแม่"
และเมื่อเขา พริ้มตานอนหลับแนบอก เมื่ออิ่มนมแม่
ดิฉันยังจำภาพดวงตาที่หลับพริ้มยิ้มได้ แม้ปิดเปลือกตาของลูกได้
เช่นกัน สารแห่งความสุขหลั่งไหลมามาก ๆ สุขทั้งลูกและแม่
บ่อยครั้งที่เราหลับไปด้วยกัน ด้วยความสุขทั้งแม่และลูก
3. เมื่อได้ยินเพียงเสียงร้อง เพียงแอ๊ะเล็ก ๆ เท่านั้น (ของลูกดิฉัน เหมือนเสียงตุ๊กตาไดโนเสาร์ "ไตรเซอราท็อบ"-ตุ๊กตาที่บีบแล้วมีเสียง "แอ๊ะ ๆเบา ๆ " ที่มีคนให้เป็นของขวัญ) น้ำนมแม่ก็ไหลแล้ว...
4. น้ำนมแม่มี "ชีวิต" อยู่ในนั้นค่ะ**
มีตอนต่อสำหรับ น้ำนมแม่มี "ชีวิต" อยู่ในนั้นค่ะ
มาช้าแต่มาค่ะ ตอนต่อ**
สวัสดีค่ะ นมแม่ดีจริงๆค่ะ
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๓
ขอให้คุณภูสุภาและครอบครัวมีความสุขดังบทบาลีที่ว่า เต อัตถลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธสาสเน อโรคา สุขิตา โหถะ สหสัพเพหิ ญาติภิ. ขอให้ครอบครัวของท่านพร้อมด้วยหมู่ญาติ จงประสบสุขในสิ่งที่ปรารถนา มีสุขภาวะที่สมบูรณ์ปราศจากโรคภัยและเจริญงอกงามไพบูลย์ในพุทธธรรมตลอดไป เทอญ.
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)
ขอกราบขอบพระคุณ พระคุณเจ้าค่ะ
และขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนวยพรแด่ ท่าน เช่นกันค่ะ