ครูตี๋
นาย สมรรถ ครูตี๋ เอี่ยมพานิชกุล

ไขปมปัญหา เด็กขายบริการ (เล่าสู่กันฟัง ตอนที่ 2)


เด็กขายบริการ

 ไขปมปัญหา เด็กขายบริการ (จบ)

เรื่องของความสัมพันธ์ทางเพศก็เริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในสังคมไทย จะเห็นได้ว่าเด็กจะถูกเร้าและรู้จักเรื่องราวทางเพศได้ง่าย รวมทั้งความสนใจและอารมณ์ทางเพศก็ยังเกิดเร็วและมากขึ้นด้วย เพราะในช่วงวัยรุ่นแรงสนใจเหล่านี้มีสิ่งเชิญชวนอยู่รอบตัว กระตุ้นเพียงเล็กน้อยก็หวั่นไหวแล้ว ฉะนั้นโอกาสที่จะเกิดขึ้นก็มีมาก
   
ประกอบกับแรงสกัดกั้นที่เคยมีมาในอดีต แรงต้านด้านคุณธรรม จริยธรรม ความเชื่อในเรื่องคุณงามความดี ความเชื่อในเรื่องการรักนวลสงวนตัว รักในพรหมจารีของความเป็นหญิง เจือจางหายไป ความใกล้ชิด ความอบอุ่นของพ่อ แม่ ในการห้ามปรามก็น้อยลง ต้นแบบที่ดีงามของผู้ใหญ่ก็หดหายไป ในขณะที่มีข่าวอยู่เสมอว่า คนมีชื่อเสียงในสังคมก็ไม่ได้ยึดมั่นจริงจังในวิถีทางเพศแบบในอดีตแล้ว ข่าวเรื่องเตียงหัก บ้านแตก แม่เลี้ยงลูกคนเดียว ชอบกินเด็ก มีกิ๊ก เป็นเรื่องขำ ๆ เป็นเรื่องธรรมดา เด็กจึงเห็นเรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมดา
   
“ภาพที่ปรากฏเป็นการมองในแง่บวก บางคนที่เป็นดาราเมื่อเป็นข่าวเหล่านี้กลับดังขึ้นไปอีก หรือมีงานเข้ามามากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำไป สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นว่าต้นแบบที่ดีงามเริ่มจางหายไป เหลือแต่ต้นแบบที่ท้าทาย กล้าที่จะทำ กลายเป็นสิ่งใหม่ที่เด็กต้องการและทำตาม”
   
ในขณะที่แรงผลักต่าง ๆ ก็ทยอยไหลบ่าเข้ามาเรื่อย ๆ อยู่ในสังคมที่มีความเชื่อ ความคิดที่ว่า ใครไม่มีแฟนเป็นเรื่องน่าอับอาย ใครไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องเฉิ่ม เชย การมีความสัมพันธ์ คือ การที่ตนเองถูกรัก รวมทั้งเรื่องของการมีข้าวของเงินทองใช้จ่ายได้อย่างฟุ่มเฟือย ถือเป็นหน้าเป็นตา สิ่งเหล่านี้ คือแรงที่ผลักให้เด็กไหลไปข้างหน้าเข้าสู่วงจรของเพศพาณิชย์มากขึ้น
   
สำหรับสาเหตุในปัจจุบันที่เด็กหันมาขายบริการทางเพศเร็วขึ้นโดยที่อายุยังน้อย ไม่ใช่เด็กมีฐานะยากจน ที่บ้านอดอยาก หรือทำไปเพราะไม่มีทางเลือก แต่กลายเป็นเพราะว่า เธอไม่มีมือถือรุ่นใหม่ ไม่มีกระเป๋าราคาแพง ๆ ไม่มีนาฬิกายี่ห้อดัง ไม่มีรถหรูมารับ เด็กจึงกลายเป็นหญิงบริการขณะที่อายุยังน้อยในคราบของนักศึกษา ซึ่งในขณะนี้รวมถึงนักเรียนแล้ว
   
ปัญหาหลัก ๆ มีอยู่ 2 ปัจจัย คือ ปัจจัยในตัวเด็กกับปัจจัยภายนอก ด้านตัวเด็กจะโทษค่านิยมอย่างเดียวก็ไม่ได้ แต่ว่าสิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือ ปัจจัยพื้นฐานในครอบครัว ต้นแบบที่ดี ๆ ที่ห่างหายไปจากจอโทรทัศน์ ปล่อยให้ต้นแบบที่ไม่ดีมาปรากฏแทนบนจอทีวี ในหน้าหนังสือพิมพ์ ให้ต้นแบบเหล่านี้มาเลี้ยงลูกแทน ความภาคภูมิใจในพ่อ แม่ที่หาเช้ากินค่ำไม่มีอีก แล้ว แต่กลับกลายมาปลาบปลื้มในตัวบุคคลที่เป็นไฮโซ แต่งตัวหรูหรา แล้วก็มีข่าวอื้อฉาว นำมาเป็นต้นแบบ รวมทั้งความกดดันในเรื่องของการแข่งขันทางด้านวัตถุ
   
ตลอดจนสภาพการศึกษาที่ให้ทางเลือกกับเด็กได้ไม่มาก เด็กบ้านเรากว่าที่เขาจะรู้ว่า ถึงแม้จะเรียนไม่เก่งแต่ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ เขาก็เลือกเดินเส้นทางอื่นที่ผิด ๆ ไปแล้ว ฉะนั้น การศึกษาที่ดี เด็กควรจะมีความภาคภูมิใจในตนเองได้จากคุณสมบัติพื้นฐานที่ต่อยอดให้กับเด็กได้ เช่น เด็กบางคนเล่นกีฬาเก่ง แต่ไม่ได้เก่งขนาดติดทีมชาติ หรือเป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่เขาต้องเห็นหนทาง     ในชีวิต โดยมีพื้นที่ในโรงเรียนให้กับเด็ก
   
“ในเรื่องที่เด็กมีความคิดว่าไม่ต้องลงทุนแต่ได้ค่าตอบแทนสูง เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า เด็กทุกวันนี้มีภูมิคุ้มกันต่อความลำบากไม่สูง ไม่ค่อยมีความพยายาม ไม่อยากเจอกับความล้มเหลวใด ๆ ใจเร็ว ด่วนได้ รักสบาย ชอบของที่ได้มาง่าย ๆ ทำงานที่ง่าย ๆ แต่ได้ค่าตอบแทนมาก รวมทั้งคิดไกล ๆ ไม่เป็น เด็กจะลืมนึกไปว่า เมื่อถึงวันหนึ่งที่เขามีชีวิตครอบครัว เขาจะอยู่อย่างไรกับอดีตที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”
   
จึงอยากให้เด็กยุคนี้ รู้จักคิดให้ไกล รู้จักเผชิญกับความลำบากและอดทนฝ่าฟันให้เป็น เพราะเบื้องหลังจากการเสร็จสิ้นความลำบากไปแล้ว ความสำเร็จที่เกิดขึ้นสวยงามมากกว่าสิ่งที่ได้มาอย่างฉาบฉวย มองเห็นเป้าหมายของความลำบากและชื่นชมความสำเร็จให้เป็น
   
รวมทั้ง รู้จักที่จะรอคอย มองไปไกล ๆ ให้ได้ จะเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กเข้าใจได้ว่าไม่       จำเป็นต้องลงทุนอะไรแบบนี้ การลงทุนด้วยวิธีการแบบนี้ อาจจะไม่ได้ลงทุนด้วยรูปธรรมของเงินทอง แต่เป็นการลงทุนเชิงนามธรรมและการสูญเสียในเชิงนามธรรมนี้ คนในช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นอาจจะยังไม่ตระหนักถึง แต่เมื่อเขาเติบโตไปกว่านั้นแล้ว หลายคนที่อยู่ในวิถีนี้ อายุ 30 ปีขึ้นไปจะเริ่มเศร้า เริ่มมองเห็นความล้มเหลวของชีวิต ถึงแม้จะหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนม มีเสื้อผ้าดี ๆ สวมใส่ ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเป็นแค่เปลือกที่ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น จะเหลือแต่แก่นที่แหว่งวิ่น เต็มไปด้วยบาดแผล บางคนเยียวยาทั้งชีวิตก็ไม่หาย
   
หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ มีโอกาสสื่อให้เด็กและเยาวชน รวมทั้ง คนในสังคม โดยสะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ ความเจ็บปวด หรือผลกรรมที่เกิดขึ้นในระยะยาว จากคนที่เข้าใจผิด เดินทางผิดเข้าสู่เส้นทางนี้ได้ จะเป็นการช่วยชะลอหรือเตือนใจเด็กได้ในระดับหนึ่ง
   
พญ.อัมพร กล่าวทิ้งท้ายว่า “เรื่องเพศเป็นเรื่องสวยงามที่ทำให้มนุษยชาติดำรงต่อไป ฉะนั้นเรื่องสวยงามอย่างนี้ ควรอยู่กับสิ่งดี ๆ เช่น ความมั่นคงทางอารมณ์ ความรัก ความผูกพันที่ลึกซึ้ง การมีสติ มีวิจารณญาณที่ดี เมื่อไรก็ตามที่เรื่องดี ๆ มา อยู่ด้วยกันมักจะเกิดเรื่องดี ๆ ตามมาด้วยเสมอ
   
แต่ถ้าปล่อยให้เรื่องเพศกลายเป็นเพียงอารมณ์สนุกอย่างฉาบฉวย หรือเป็นเครื่องแสวงหาข้าวของเงินทองเป็นครั้งคราว เท่ากับว่ากำลังทำร้ายสิ่งดี ๆ ไปพร้อมกันมากมาย บางครั้งยังเป็นการตัดโอกาสที่จะได้รับสิ่งดี ๆ ที่เหลือเหล่านั้นอีกด้วย” 
   
จงพอใจในสิ่งที่มี จงพอใจในสิ่งที่เป็น แล้วชีวิตจะมีความสุข.

 

ขอขอบคุณเว็บไซด์ http://news.impaqmsn.com/articles_hn.aspx?id=297438&ch=hn (25 ธันวาคม 2552)

คำสำคัญ (Tags): #เด็กขายบริการ
หมายเลขบันทึก: 322771เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2009 06:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 12:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท