สุขใจเมื่อไปขึ้นเตียงผ่าตัด (๖) : ผลข้างเคียงจากการบล็อกหลังในห้องสังเกตอาการหลังผ่าตัด


"อยู่กันมาเกือบ ๓๐ ปีมีเรื่องจำนวนมากที่แค่มองตากันก็สื่อความหมายกันได้โดยไม่ต้องพูด"

บุรุษพยาบาลเข็นผมออกจากห้องผ่าตัดมายังห้องสังเกตอาการหลังผ่าตัด โดยผมสั่นกระตุกเป็นจังหวะๆ มาตลอดทาง

เมื่อมาถึงพยาบาลวิสัญญีประจำห้องนี้ก็ติดตั้งระบบการติดตามสภาวะในร่างกายผม เช่น เครื่องวัดความดัน วัดคลื่นหัวใจ วัดระดับออกซิเจน แล้วก็นำผ้าห่มไฟฟ้ามาห่มให้ เอาหน้ากากออกซิเจนมาครอบปากและจมูก

พอเขาเริ่มปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าไปในผ้าห่ม ผมก็รู้สึกอุ่นขึ้นๆ สบายขึ้นๆ ผมหันไปบอกพยาบาลที่นั่งเฝ้าดูอาการผมอยู่ว่า “ชอบผ้าห่มไฟฟ้านี้จังเลย ห่มแล้วรู้สึกดี มีขายที่ไหนหรือเปล่า?” เธอทราบแต่เพียงว่าน่าจะมีขายแต่ไม่รู้ที่ไหน

ผมถามเธอว่า หมอใช้เวลาผ่าตัดผมนานเท่าไร? เธอตอบว่า หนึ่งชั่วโมงสิบห้านาที

ผมถามต่อว่า แล้วตอนนี้ผมเป็นอย่างไรบ้าง? เธอบอกว่าอาการกระตุกดีขึ้นแล้ว

เธอถามผมบ้างว่าผมกระดิกนิ้วเท้าได้หรือยัง? ผมลองทำดูพร้อมกับมองไปที่นิ้วเท้าตนเอง ปรากฏว่ามันไม่ยอมกระดิกตามที่หัวผมสั่ง เธอบอกว่า ฤทธิ์ยาบล็อกหลังจะยังคงอยู่ต่อไประยะหนึ่ง

ผมเห็นเธอมองจอมอนิเตอร์ที่อยู่เหนือศีรษะผมเป็นระยะๆ จึงถามว่าความดันและหัวใจผมเป็นอย่างไรบ้าง?  เธอบอกว่าหัวใจดี ความดันก็ดีขึ้น

ผมนอนอยู่ใต้ผ้าห่มไฟฟ้าพักเดียวอาการสั่นกระตุกก็ค่อยๆ ห่างขึ้นๆ ตามลำดับ จนกระทั่งผมผลอยหลับไปอย่างสบายภายใต้ผ้าห่มไฟฟ้าผืนนั้น

ผมตื่นขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอมาถอดหน้ากากออกซิเจนและเครื่องวัดอะไรต่อมิอะไรออก บอกว่าจะส่งตัวผมกลับไปหอผู้ป่วย

16.30 น.พอถูกเข็นออกพ้นประตูห้องดูอาการมาถึงห้องโถงใหญ่ที่เขาจัดไว้สำหรับให้ญาติรอ เป็นห้องสีขาวตัดกับเทาที่สวยงามมาก ผมมองไปด้านตรงข้ามเห็นมีป้ายใหญ่ๆ เขียนว่าห้องทำคลอด ก็เลยได้รู้ว่าชั้นนี้นอกจากศัลยกรรมธรรมดาแล้วการคลอดและผ่าตัดทำคลอด ก็อยู่ชั้นเดียวกัน

ภรรยาผมซึ่งรออยู่ก่อนแล้วรี่เข้ามาทักทาย เราจับมือและสบตากัน ยิ้มให้กัน ไม่มีใครพูดอะไร ผมส่งสัญญาณผ่านสายตาไปว่าทุกอย่างโอเค

อยู่กันมาเกือบ ๓๐ ปีมีเรื่องจำนวนมากที่แค่มองตากันก็สื่อความหมายกันได้โดยไม่ต้องพูด

เธอจูงมือผมเดินไปพร้อมกับเตียงที่เขาเข็นผมกลับหอผู้ป่วย พยาบาลจากแผนกวิสัญญีที่ไปใส่เสื้อกาวน์สีฟ้าทับชุดผ่าตัดก็เดินมาส่งถึงห้องพักด้วย

ที่ห้องพัก ทีมพยาบาลประจำหอผู้ป่วยที่รออยู่ก่อนแล้ว ช่วยกันยกลอยผมจากเตียงเข็นขึ้นไปนอนบนเตียง โดยเขาเอาอุปกรณ์อย่างหนึ่งรองหลังผมก่อน อุปกรณ์นั้นทำด้วยวัสดุคล้ายๆ พลาสติกสีฟ้า รูปทรงคล้ายๆ กระดานโต้คลื่น แต่มีที่สำหรับจับยก

ผมรู้สึกสบายๆ แต่เพลียนิดหน่อย จึงบอกภรรยาว่า ขอนอนสักหน่อยก่อนนะ ตื่นขึ้นมาแล้วจะค่อยเล่าให้ฟัง เธอก็พยักหน้า แล้วก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างเตียง ส่วนผมก็หลับปุ๋ยไปโดยไม่รู้สึกปวดตรงไหนเลย

------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านบันทึกทั้ง ๙ ตอนในชุดผ่าตัดไส้เลื่อนของผมได้โดยคลิกลิงก์ข้างล่างนี้ครับ

  1. รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นไส้เลื่อน (http://gotoknow.org/blog/inspiring/321431)
  2. เมื่อวันนัดผ่ามาถึง (http://gotoknow.org/blog/inspiring/321469)
  3. ผ่อนคลายในห้องเตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัด (http://gotoknow.org/blog/inspiring/321489)
  4. ความสุขที่เกิดขึ้นภายในใจระหว่างทางสู่ห้องผ่าตัด (http://gotoknow.org/blog/inspiring/321619)
  5. ในห้องผ่าตัด (http://gotoknow.org/blog/inspiring/321793)
  6. ผลข้างเคียงจากการบล็อกหลังในห้องสังเกตอาการหลังผ่าตัด (http://gotoknow.org/blog/inspiring/322526)
  7. พักฟื้นในหอผู้ป่วย (http://gotoknow.org/blog/inspiring/322581)
  8. กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน (http://gotoknow.org/blog/inspiring/322678)
  9. หมอที่มีหัวใจมนุษย์ (http://gotoknow.org/blog/inspiring/322779)
หมายเลขบันทึก: 322526เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2009 05:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เพิ่งจะเข้ามาทราบว่าผ่าตัด แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด เดี่ยวจะย้อนไปอ่าน

ขอให้ทุกอย่างดีขึ้นนะครับ แข็งแรงทุกวันคืน กลับมาลุยงานต่อไป ส่งกำลังใจมาให้ครับ

ผมได้รับเอกสารที่ส่งไปให้ด้วยความขอบคุณเป็นอย่างสูง ถูกใจครับ

ฝากความระลึกถึงครอบครัวด้วยนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท