เด็กหญิงเม็ดทราย สาวน้อยผู้ละเอียดอ่อนแต่คงทนกับความแปรผันของสายน้ำ สายลมและคลื่นแรงอยู่เสมอ เธอมองดาวในยามค่ำและนึกถึงใครบางคนอย่างจับใจ สายลมเย็นเอื่อยๆปะทะ แรงลมพัดให้น้ำกระเส็นแม้โดนเพียงนิดก็เย็นยิ่งนัก..ไม่แปลกกับการอยู่พร้อมกับความเหงาแบบนี้ที่จะไวยิ่งนักกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
เด็กชายสายลม ผู้พลิ้วไหวแต่พลังใจยิ่งใหญ่นัก มีหน้าที่พัดพาลมหนาว ไอเย็น และไออุ่นให้ได้สัมผัสกันอยู่เสมอ เม็ดทรายก็เช่นกันที่ได้รับความรู้สึกจากสายลมอยู่เป็นประจำ
ค่ำคืนที่ดาวเต็มฟ้าคืนนี้ เม็ดทรายยังคงไม่หลับไหล สายลมยังคงพัดไกว ให้ได้คิดถึงสายใยและความอบอุ่น
เม็ดทรายรู้และสัมผัสได้ในทุกค่ำคืน หากแต่คืนนี้ได้รับรู้เพียงความหนาวเย็นและความเหงา ว้าเหว่ ...ไม่ใช่เธอ..แต่เป็นของสายลมที่เอื้อนเอ่ยบอกกับเม็ดทราย
"ไม่รู้จะบอกว่ารู้สึกยังไง เพียงอยากเล่าให้ได้ฟังว่า คืนนี้รู้สึกเหงา ว้าเหว่ ท่ามกลางหมู่ดาวนับพัน ท่ามกลางสายน้ำอันกว้างใหญ่.."
เขาเอื้อนเอ่ย อยู่ไกลแสนไกลโดยไม่รู้ว่า เม็ดทรายจะได้ฟังสิ่งในสิ่งที่เขาบอกหรือไม่ เพราะหวังเพียงบอกผ่านฟ้า ผ่านน้ำ ผ่านดาว หยิบยกเอาความรู้สึกใจหายออกมาบอกเล่า เพียงเพื่อหวังว่าจะข้ามพ้นเวลาแห่งความเปลี่ยนผ่านไปได้
มันมหัศจรรย์ยิ่งนัก เม็ดทรายได้ยินได้ฟังแม้ไม่ครบถ้วนกระบวนความ แต่ก็สัมผัสถึงความเหงา เศร้า และอ้างว้างของสายลม..เธอเฝ้ามองระหว่างผืนฟ้าและผืนน้ำ..และบอกออกไปว่า..
"ฉันก็ไม่รู้จะบอกว่าฉันรู้สึกอย่างไร เพียงอยากเล่าให้ฟังว่า รอบกายเงียบงัน มีเพียงความเย็นกัดกร่อน สะท้อนใจทุกครั้งกับสิ่งที่ขาดหายไปจากความคุ้นเคย รู้สึกใจหาย..เมื่อเหลียวมองรอบข้าง..ไม่มีเธอ"
หลายครั้งที่ว้าเหว่ ทุกสิ่งอย่างกลับห่างหาย เหลือเพียงความทรงจำ เหลือเพียงคำเอื้อนเอ่ยของตัวเอง พร่ำเพ้อพรรณนาโดยไม่รู้ว่า...ใครจะรู้..ใครจะได้ยิน เฝ้าปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร..ได้แต่กอดตัวเองเพื่อคลายความเหน็บหนาว..ได้แต่ฟังตัวเองเพื่อการก้าวต่อในวันพรุ่งนี้
สายลมกับเม็ดทรายก็เช่นเดียวกัน แม้ต่างเฝ้าถาม เฝ้าบอกตัวเองเท่าไหร่ ใจลึกๆคือการรอคอย และอยากเล่าเรื่องราวด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านผืนฟ้า ผืนน้ำ ไม่ต้องฝ่ากระแสลมแรง และไม่ต้องร้องเพลงกล่อมดาวเพียงลำพัง..
ภิชา
(0.40 น. : วันพุธ ที่ 23 ธันวาคม 52)
อ่านแล้วรู้ว่า คุณคนเขียนบันทึกเป็นคนโรแมนติกครับ