ต่อจากนั้น


หลังจากกลับมาบ้าน

เมื่อส่งตาไปรักษาต่อในโรงพยาบาลจังหวัด  แพทย์ก็ทำการแสกนสมอง  ก็พบว่า  มีจุดฝ่าขาว บริเวณสมองซีกซ้าย  หากมาช้า  หรือไม่ได้ทำการรักษา  ตาอาจจะเป็นอัมพฤต  อัมพาตได้  จากนั้นอีก 5 วัน  ตาก็กลับบ้าน  อสม.คนเก่ง  ก็โทร.รายงานอาการให้ข้าพเจ้าฟังตลอด  เมื่อกลับมาบ้านข้าพเจ้าก็ได้ไปเยี่ยมบ้าน  และได้เจาะน้ำตาลในเลือด พบว่า  น้ำตาล 219  มิลลิกรัม เปอร์เซนต์ จึงรายงานแพทย์และจ่ายยาลดน้ำตาลให้ตาด้วย  ดังนั้น ตาจึงเป็นทั้งโรคความดันโลหิตสูง  ไขมันในเลือดสูงและเบาหวาน  แต่ก็ยังไงก็โชคดีที่ไม่ต้องนอนอยู่กับที่  ติดเตียง  แต่ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้  ยังพูดคุยรู้เรื่อง  จำข้าพเจ้าได้  แต่จำเหตุการณ์ทั้งหมดไม่ได้  ข้าพเจ้าจึงต้องย้ำให้ลูกสะใภ้ดูแลอย่างใกล้ชิด  หากมีปัญหาโทร.ได้  24  ชม. ญาติพี่น้อง ชาวบ้านในหมู่บ้าน  ทราบข่าวต่างมาเยี่ยมให้กำลังใจ  และข้าพเจ้ายังนำเอาเหตุการณ์นี้  ได้ไปพูดคุยเป็นกรณีตัวอย่างให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน  และทุกโอกาสที่ข้าพเจ้าได้ไปเป็นวิทยากร...เพราะข้าพเจ้าเชื่อเสมอว่า  ตัวอย่างที่ดีคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เห็นภาพชัดเจน  ชาวจึงได้เกิดความตระหนักรู้  เข้าใจและปฏิบัติตาม.....(แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด   ก็คือต้องสร้างสุขภาพ  ส่งเสริมให้มีความรู้  ดูแลตนเองได้  เพื่อให้ปลอดภัยจากโรค  ก่อนที่จะเกือบสาย  อย่างกรณีของตา...ที่ชะล้าใจไม่ยอมรักษา  ทั้งที่ข้าพเจ้าเคยตรวจพบว่าความดันสูง  แต่ก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล )   ....  ในทีมสุขภาพ  เราต้องช่วยกันนะค่ะช่วยกันสื่อสารให้ชาวบ้านเข้าใจให้มากที่สุด  เพื่อให้เข้าพึ่งตนเองได้ให้มากที่สุด  อย่างมีความรู้มากๆ...ผู้ช่วยที่ดี  คือ  อสม.  จะต้องให้มีความรู้ให้มากเหมือนเป็นหมอประจำบ้านเลยนะ....แล้วเขาจะเป็นผู้ช่วยที่ดีกับเรา...เพื่อเป็นหูเป็นตาให้กับเราก่อนที่จะสาย....

หมายเลขบันทึก: 322003เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2009 20:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท