nobita
นาย ชัยพร รัตนดิลก ณ ภูเก็ต

ความรักของพ่อแห่งแผ่นดิน


ขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศและชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือ ชาติ บ้านเมืองอันเป็นที่อยู่ ที่ทำกินของเรา มีความเจริญมั่นคงยั่งยืนไป

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ทุกคนมีโอกาสเห็นพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และคนอีกจำนวนมากมายในโลกนี้  ท่านเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระบรมมหาราชวัง ทำให้คนไทยทุกคนปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่เห็นพระองค์ แข็งแรง และพระพักตร์ที่ยังแจ่มใส ในโอกาสนี้พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำรัสว่า

“...ความสุข ความสวัสดีของข้าพเจ้าจะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มั่นคง เป็นปกติสุข  ความเจริญ มั่นคงทั้งนั้นจะสำเร็จผลเป็นจริงใดได้ ก็ด้วยทุกคน ทุกฝ่ายในชาติ มุ่งที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เต็มกำลัง ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด และด้วยความสุจริตจริงใจโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น

จึงขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศและชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่า ทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิต ตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือ ชาติ บ้านเมืองอันเป็นที่อยู่ ที่ทำกินของเรา มีความเจริญมั่นคงยั่งยืนไป ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัยและอำนวยสุข สิริสวัสดิวัฒนมงคล ให้สำเร็จผลขึ้นแก่กันทั่วหน้ากัน”

ได้ฟังพระราชดำรัสของในหลวงแล้ว ยิ่งรู้สึกปลื้มใจมากยิ่งขึ้น พระองค์รักประชาชนของพระองค์ทุกลมหายใจ หากเรายังไม่มีความสุข หากเรายังคงทะเลาะกัน หากเรายังแตกแยกกัน แล้วพระองค์จะมีความสุขได้อย่างไร ....

อยากให้ทุกคนร่วมใจกันนำพาบ้านเมืองของเราให้มีความสงบร่มเย็นเพื่อเป็นของขวัญแก่พ่อหลวงของเราตลอดไป ทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที เพื่อให้ “พ่อ” ของเราทุกคนมีความสุขตลอดไปนะครับ

ก่อนปิดบันทึกนี้ ผมขอนำ โอวาทของ หลวงพ่อพุทธทาส ฝากให้อ่าน คือ เรื่อง สมาธิ

“สมาธิ ได้แก่ การที่ผู้นั้นสามารถบังคับจิตใจของตัวเองไว้ได้ ในสภาพที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุดตามที่ตนต้องการ เมื่อเห็นโทษของการยึดมั่น ถือมั่นเมื่อใด... จิตก็จะคลายความยืดมั่นถือมั่น

จิตที่ว่างจากความยืดมั่นถือมั่นว่าตน ว่าของตนเท่านั้นที่จะมั่นคง เป็นสมาธิได้อย่างแท้จริงและสมบูรณ์ เมื่อเราหวังว่าจะเป็นผู้พ้นทุกข์ เราก็ควรฝึกฝนตัว การที่จะทำอะไรลงไปให้ทำด้วยอำนาจของสติปัญญา อย่างทำด้วยอำนาจกิเลส...ตัณหา (สยามรัฐ : 20677)

ขอให้ทุกคนตั้งสมาธิจิต และกระทำสิ่งใด ๆ ด้วยปัญญาที่พิจารณาให้ถี่ถ้วน เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง และสร้างความสุขความเจริญมอบแด่ พ่อหลวงของเรานะครับ

หมายเลขบันทึก: 318617เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2009 10:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท