4. เทคนิคและขั้นตอนในการสอนเกม
วีระ มนัสวานิช (2539 : 27-30) เทคนิคของการสอนเกม คือ กระบวนการที่จะทำให้จุดมุ่งหมายของการสอนบรรลุจุดมุ่งหมายปลายทางตามที่วางไว้ กระบวนการสอนซึ่งมีเทคนิคขั้นตอนที่สำคัญ ที่ครูหรือผู้นำควรจะถือเป็นแนวทางปฏิบัติเป็นขั้น ๆ ดังนี้
เทคนิคการอบอุ่นร่างกาย
การอบอุ่นร่างกายเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายได้ปรับตัว เช่น ระบบกล้ามเนื้อเพิ่มอุณหภูมิหดตัวได้ประสิทธิภาพสูง มีการประสานงานระบบไหลเวียนโลหิตและระบบการหายใจให้มีการเคลื่อนตัวในระยะคงที่ พร้อมที่จะเคลื่อนไหว หลักในการอบอุ่นร่างกายที่สำคัญ มีดังนี้
1. การอบอุ่นร่างกายแต่ละครั้งควรใช้เวลาให้น้อยที่สุดเพื่อให้ผู้เล่นมีเวลาในการเล่น หรือทำกิจกรรมให้มากที่สุด
2. ท่าบริหารกายที่ใช้ในการอบอุ่นร่างกาย ควรเป็นท่าบริหารทั่วไปเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวโดยทั่ว ๆ ไป หรือการบริหารที่ต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆสำหรับกิจกรรมเฉพาะอย่าง เช่น แขน ขา ลำตัว ทำให้ร่างกายพร้อมที่จะทำงานหรือเคลื่อนไหวได้ในเวลาอันรวดเร็ว
3. การอบอุ่นร่างกายควรจะเริ่มด้วยท่าที่ช้า ๆ ง่าย ๆ เบา ๆ ก่อนแล้วจึงเร่งความเร็ว ความยาก ความหนักขึ้นตามลำดับ อาจจะเริ่มต้นจากศีรษะลงไปเรื่อย ๆ จนถึงข้อเท้า
4. อบอุ่นร่างกายแต่ละครั้งควรให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้รับการบริหารอย่างทั่วถึงโดยเริ่มต้นจากการบริหารคอลงไปเรื่อยจนถึงข้อเท้า จากท่ายืนไปสู่ท่านั่ง บริหารคนเดียวหรือบริหารคู่
5. เพื่อให้ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมและเป็นการส่งเสริมคุณลักษณะในการเป็นผู้นำในตัว ผู้เล่นครูผู้นำควรจะจัดให้ผู้เล่นมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมานำการอบอุ่นร่างกายเป็นประจำวันๆ หนึ่งหรือหลายคนก็ได้ โดยมีการตกลงกันและมอบหมายให้นักเรียนเหล่านั้นได้ทราบและเตรียมตัวล่วงหน้า
6. เพื่อความพร้อมเพียงกันและทำให้การอบอุ่นร่างกายเป็นไปด้วยความสนุกสนาน ครูผู้นำอาจจะให้ผู้เล่นออกเสียงพร้อม ๆ กันตามการจังหวะการบริหารกายนั้น ๆ ด้วย เช่น ให้ผู้เล่นออกเสียงดัง ๆ คำว่า “ซ้าย” ในขณะที่นักเรียนวิ่งเหยาะ ๆ ลงด้วยเท้าซ้ายพร้อม ๆ กัน หรือให้ผู้เล่นออกเสียงคำว่า หนึ่ง-สอง เป็นจังหวะในขณะที่ผู้เล่นกระโดยตบมือเหนือศีรษะ เป็นต้น
7. การอบอุ่นร่างกายแต่ละครั้ง ควรจะให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเหนื่อยกว่าปกติจริงๆ เช่น ให้ผู้เล่นหายใจถี่ขึ้นชีพจรเร็วหรือมีเหงื่อออกมาก ไม่เช่นนั้นการอบอุ่นร่างกายจะไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควร
8. เพื่อเป็นการเสริมสร้างสมรรถภาพทางด้านร่างกายควบคู่กันไปด้วย ท่าบริหารกายบางอย่าง เช่น การดันพื้น การลุก-นั่ง อาจจะนำมาใช้เพื่อเปิดรายการอบอุ่นร่างกายในแต่ละครั้งด้วย
เทคนิคการอธิบายและการสาธิต
การอธิบายและการสาธิตเป็นวิธีการสอนที่จะให้ผู้เล่นได้มีความรู้ ความเข้าใจในสิ่งที่เล่นเพื่อจะได้นำไปเป็นแนวทางในการที่จะฝึกหัดและเล่นต่อไป เพื่อจะได้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้วางไว้ เพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับแนวการสอนแบบใหม่ ครูหรือผู้นำควรใช้หลักที่สำคัญเพื่อเป็นแนวทางดังต่อไปนี้ คือ
1. ผู้นำบอกชื่อเกมให้ผู้เล่นและจัดให้ผู้เล่นจัดรูปแถวในการเล่น
2. อธิบายวิชาการเล่นสั้น ๆ เข้าใจง่ายจนผู้เล่นเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
3. อธิบายกฎกติกาการเล่น การฟาวล์ การแพ้ชนะกัน
4. ผู้นำทดสอบความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง โดยให้ผู้เล่นถามหรือผู้นำถามเองก็ได้แล้วสาธิตหรือให้ผู้เล่นทดลองอย่างช้า ๆ จนทุกคนเข้าใจ
5. ก่อนเล่นผู้นำต้องย้ำความปลอดภัยให้ผู้เล่นทราบทุกครั้ง
เทคนิคการเล่นเพื่อความสนุกสนานหรือการแข่งขันกัน
เมื่อทุกคนเข้าใจใน กฎ กติกาและขั้นตอนการเล่นอย่างชัดเจนแล้วครูหรือผู้นำก็ลงมือให้เล่นทันทีโดยไม่ชักช้าเพราะเวลามีค่าต่อผู้เล่นมาก ผู้เล่นได้นำความรู้ความเข้าใจ ข้อบังคับของการเล่นมาปฏิบัติในสภารพการณ์ของการเล่นจริง ครูหรือผู้นำมีโอกาสที่จะปลูกฝังคุณธรรม ระเบียบวินัย การเป็นผู้เล่น การรวมหมู่ ความสามัคคี การรู้จักแพ้ชนะ การอภัย ตลอดจนพฤติกรรมอื่น ๆ ในตัวผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ครูผู้นำได้รู้จักนิสัยใจคอของผู้เล่นอย่างแท้จริงว่าผู้เล่นคนไหนมีพฤติกรรมที่พึงปรารถนาหรือควรจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไร สำคัญอยู่ที่ครูหรือผู้นำจะสามารถฉวยโอกาสนี้เพื่อนำมาใช้ให้มีประโยชน์และมีความหมายต่อผู้เล่นมากน้อยแค่ไหน โดยนำหลักการและเทคนิคการจัดการแข่งขันหรือการเล่นมาปฏิบัติดังนี้
1. จำนวนผู้เล่นในแต่ละหมู่ให้มีจำนวนเท่า ๆ กัน
2. ผู้เล่นที่มีส่วนเกินก็จัดให้มีส่วนร่วมโดยการเป็นกรรมการช่วยครูในการตัดสิน
3. จัดให้มีหัวหน้าหมู่ สีประจำในแต่ละหมู่ หรือสี
4. เส้นเริ่ม เส้นกลับตัว หรือเส้นชัดควรเขียนให้ชัดเจนไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง
5. การตัดสินควรจะเป็นไปอย่างยุติธรรม
6. ให้ผู้เล่นได้ปฏิบัติตามกติกาและระเบียบการเล่น
7. ถ้าหมู่ใดคนใดชนะ ให้หมู่คนอื่น ๆ ปรบมือให้เกียรติ และหมู่ชนะควรจะได้แสดงความขอบคุณโดยการคำนับ โค้งให้เกียรติเพื่อเป็นการปลูกฝังการแพ้ชนะในตัวผู้เล่น
8. ครูผู้นำควรบอกข้อดีและข้อเสียของกลุ่มชนะและกลุ่มแพ้เพื่อจะปรับปรุงต่อไป
9. ครูผู้นำอาจจะจัดให้มีการเล่นหรือแข่งขันกันใหม่ก็ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น
การสรุปและสุขปฏิบัติ
การสอนในขั้นนี้นับว่ามีความสำคัญที่จะทำให้การสอนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นตามหลักขอการสอนเกมหรือการสอนพลศึกษา วัตถุประสงค์ของการสอนในขั้นนี้ที่สำคัญมี 2 ประการคือ
1. เพื่อสรุปผลและประเมินผลที่เกี่ยวกับการเรียนการเล่นในชั่วโมง
2. เพื่อผลทางด้านการปลูกฝังสุขนิสัยให้แก่สมาชิกหรือผู้เล่น
ก่อนหมดเวลา 5-8 นาที ครูหรือผู้นำควรหยุดการเล่น การแข่งขัน ให้ผู้เล่นทั้งหมดรวมกัน ครูหรือผู้นำทำการสรุปผลและประเมินผลการเรียนการเล่นของผู้เล่น โดยการสังเกตพฤติกรรมของผู้เล่นที่แสดงออก ระเบียบวินัย การปฏิบัติในการเล่น การเอารัดเอาเปรียบ น้ำใจนักกีฬา การใช้คำพูด ครูหรือผู้นำสรุปให้ผู้เล่นทราบนำไปปรับปรุงและปฏิบัติในโอกาสต่อไปเพื่อเป็นแนวทางในการเรียนการสอนและการเล่น
จิราภรณ์ ศิริประเสริฐ (2545 : 60-64) ได้ให้ความสำคัญในการสอนหรือการนำเกมว่าผู้สอนหรือผู้นำเกม ควรมีการเอาใจใส่ดูแลควบคุมให้การเรียนการสอนหรือการเล่นดำเนินต่อไปอย่างมีระบบ ผู้สอนหรือผู้นำเกมพึงได้เตรียมในเรื่องดังต่อไปนี้
1. การเตรียมตัว
1.1 วางแผนว่าในแต่ละเกมที่จะสอนหรือนำมีจำนวนผู้เล่นจำนวนสูงสุดได้เท่าใด เพื่อให้ทุกคนได้มีกิจกรรมทำตลอดเวลา โดยพยายามหลีกเลี่ยงเกมที่มีผู้เล่นเพียงหนึ่งหรือสองคนปฏิบัติกิจกรรมขณะที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ คอยดูเท่านั้น และพยายามหลีกเลี่ยงเกมที่มีการจำกัดผู้เล่นออกไป นอกเสียจากว่าผู้สอนสามารถเปลี่ยนกฎการจำกัดผู้เล่นให้อยู่ในรูปแบบที่ผู้เล่นทุกคนมีกิจกรรมทำตลอดเวลา
1.2 มีการพัฒนาปรับปรุงเกมที่นำมาใช้อยู่เสมอ ให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการสอนหรือการเล่นในด้านของการเพิ่มทักษะและสมรรถภาพของผู้เล่น
1.3 มีการวิเคราะห์เกมที่จะนำมาสอน ว่าเหมาะสมกับระดับความสามารถและความสนใจของผู้เล่นหรือไม่ เพื่อให้ได้เกมที่เหมาะสมและให้เกิดความปลอดภัยในการเล่น
1.4 เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับแต่ละเกมไว้ให้พร้อมเพียงพอและสะดวกต่อการนำมาใช้ก่อนถึงเวลา อาจแบ่งงานให้ผู้เล่นรับผิดชอบดูแลอุปกรณ์
1.5 เลือกสถานที่เล่นให้เหมาะสม ถ้าต้องมีการตีเส้นด้วยต้องเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มเล่น ใช้กระดาษกาวหรือชอล์กตีเส้นถ้าเล่นในร่ม กรณีที่เล่นในสนามกลางแจ้งให้ใช้เชือกหรือเสา เป็นต้น เป็นตัวกำหนดอย่างให้ผู้เล่นใช้จินตนาการในการกำหนดขอบเขต
1.6 ปรับและเปลี่ยนวิธีการเล่น กฎกติกา ทักษะ อุปกรณ์ และสนามที่ใช้เล่นให้มากขึ้นหรือลดลงตามความ
1.7 เกมที่กำหนดผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย ให้กำหนดสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความแตกต่างของผู้เล่นทั้ง 2 ทีม เช่น อาจให้ใส่เสื้อคนละสีหรือใช้แถบสีติด เพื่อช่วยให้ควบคุมเกมได้ง่ายขึ้น
1.8 เกมที่ใช้สอนในแต่ละครั้งควรมีหลายรูปแบบ แต่ไม่แตกต่างกันมาก เพราะจะทำให้เสียเวลาในการเคลื่อนย้ายปรับเปลี่ยนรูปแบบ
1.9 ควรมีทั้งเกมหนักสลับเกมเบาตลอดช่วงของการเรียนหรือการเล่น
1.10 ทำความคุ้นเคยกับเกมที่จะสอนหรือจะนำและเตรียมพร้อมในแต่ละเกมเป็นอย่างดี เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมในการวางแผน
2. วิธีการในการสอนหรือการนำเกม
ในการสอนหรือการนำเกม มีวิธีการในการปฏิบัติเช่นเดียวกับเมื่อเวลาสอนกิจกรรมพลศึกษาอื่น ๆ ซึ่งประกอบด้วยวิธีการที่เป็นที่นิยมใช้กันมากตามลำดับขั้นตอน ดังนี้ (สงวน มีระหงษ์. 2510 : 1-3)
2.1 ขั้นอธิบาย ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้เล่นในวัยต่าง ๆ พูดสั้น ชัดเจน และตรงจุดมุ่งหมายที่ต้องการ
2.2 ขั้นการสาธิต หลังจากอธิบายแล้วให้เริ่มการสาธิตหรือการทำให้ดู ระหว่างที่ทำการสาธิตให้อธิบายประกอบไปด้วย วิธีการสาธิตทำได้ 2 แบบคือ
2.2.1 สาธิตตั้งแต่ต้นจนจบเกม
2.2.2 สาธิตเป็นตอน ๆ แล้วจึงลงมือปฏิบัติทั้งหมด
การที่จะเลือกวิธีสาธิตแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับความยากง่ายและความเหมาะสมของเกมนั้นๆ หรืออาจใช้ทั้งสองแบบรวมกันก็ได้ วิธีการใดใช้ได้ผลดีและใช้เวลาน้อยให้เลือกใช้วิธีดังกล่าว ในขณะที่ทำการอธิบายและสาธิตควรให้ผู้เล่นนั่งเป็นรูปครึ่งวงกลม ผู้สอนหรือผู้นำควรยืนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่ผู้เล่นสามารถมองเห็นและได้ยินคำอธิบายอย่างชัดเจน ควรถามผู้เล่นว่าเข้าใจหรือไม่ มีคำถามอะไรที่จะถาม
2.3 ขั้นการร่วมเล่น เมื่อทุกคนเข้าใจในการอธิบายและสาธิตแล้ว หลังจากนั้นให้ลงมือทันที ควรให้ผู้เล่นทุกคนได้ร่วมเล่นมากที่สุดอย่างทั่วถึงพอเพียง ไม่ควรให้รอที่จะเล่นนานเกินไป ซึ่งมีวิธีการดังนี้คือ
2.3.1 แบ่งผู้เล่นออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ หรือแบ่งกิจกรรมให้ทุกคนได้มีโอกาสปฏิบัติ โดยไม่ต้องรอคอยรอบของตนนานเกินไป
2.3.2 จัดเตรียมอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่เล่นไว้ให้เรียบร้อยก่อนทำการเล่น รวมทั้งการทำเครื่องหมาย ขอบเขตหรือเส้นต่าง ๆ เช่น เส้นเริ่มต้น เส้นกลับตัว วงกลม ฯลฯ
2.4 ขั้นการประเมินผล ให้ใช้เวลาสั้น ๆ เพื่อวัดความก้าวหน้าของทักษะที่ต้องการกฎกติกาของการเล่นนั้น ๆ และพฤติกรรมที่แสดงออกในการเล่นในเรื่องของความมีน้ำใจนักกีฬา ความร่วมมือและความรับผิดชอบ อาจประเมินผลทุกครั้งที่ทำการเล่นหรือประเมินผลบางครั้ง แล้วแต่ดุลยพินิจว่ามีความจำเป็นเพียงใด ผลจากการประเมินยังทำให้ทราบถึงข้อดีและข้อที่ควรแก้ไข เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงในการเรียนการสอนหรือการเล่นต่อไป การประเมินผลควรครอบคลุมไปถึงรายละเอียดต่อไปนี้ด้วย ได้แก่
2.4.1 ให้ผู้เล่นได้แสดงความคิดเห็นว่าควรมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเกมนั้น ๆ อย่างไร เพื่อให้เพิ่มความสนุกสนานไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะส่วนต่าง ๆ การประเมินผลสามารถทำได้ตลอดเวลาที่เหมาะสม หรือในขณะพักหรือขณะที่ผู้เล่นเปลี่ยนตำแหน่ง ไม่จำเป็นต้องประเมินผลในตอนสุดท้ายของการเล่น
2.4.2 ประเมินผลทุกเกม
2.4.3 รายการตรวจสอบเพื่อใช้เป็นแนวทางในการประเมินผล (Evaluation Check List) ตัวอย่าง เช่น
1) ผู้เล่นวิ่งออกจากเส้นเริ่มก่อนที่สัญญาณได้ดังขึ้นหรือไม่
2) ผู้เล่นได้ปฏิบัติถูกต้องตามข้อตกลงก่อนการเล่นหรือไม่
3) ผู้เล่นวิ่งครบระยะทางที่กำหนดไว้หรือไม่
4) ผู้เล่นเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วว่องไวหรือไม่
5) ผู้เล่นสนใจฟังคำอธิบายหรือคำถามหรือไม่
6) ผู้เล่นมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างใด
7) ผู้เล่นเข้าใจวิธีการเล่นมากน้อยเพียงใด
8) ผู้เล่นทำหน้าที่ผู้นำและผู้ตามได้มีประสิทธิภาพเพียงใด
9) ผู้เล่นมีการสนับสนุนช่วยเหลือผู้เล่นคนอื่น ๆ ภายในกลุ่มหรือไม่
10) ผู้เล่นมีการร้องเพลงต่อเนื่องหรือไม่
11) ผู้เล่นมีการรักษารูปแบบของการเล่นเป็นอย่างไร
2.5 ขั้นการสรุป ควรมีการสรุปสั้น ๆ การเล่นรวมทั้งประกาศผู้ชนะพร้อมด้วยเหตุผลในการนี้ควรเน้นความสำคัญในเรื่องของความมีน้ำใจนักกีฬา และความร่วมมือกันที่แสดงออกในการเล่นของแต่ละคนมากกว่าที่จะเน้นในเรื่องการเป็นผู้ชนะแต่เพียงอย่างเดียว ชมเชย ผู้เล่นที่เก่งและมีน้ำใจนักกีฬา
3. กิจกรรมการเรียนการสอน
ในการสอนหรือการนำเกม หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความสนุกสนานเพียงอย่างเดียวแต่ต้องดูว่าการเล่นบรรลุจุดมุ่งหมายที่ต้องการหรือไม่ ดังนั้นการจัดกิจกรรการเรียนการสอนหรือการเตรียมกิจกรรมในการเล่น เพื่อให้การเล่นดำเนินไปด้วยความสนุกสนานบรรลุจุดมุ่งหมายและเป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้สอนหรือผู้นำเกมพึงระลึกถึงข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้
3.1 ก่อนเริ่มสอนหรือนำเกมจะต้องบอกให้ผู้เล่นเคารพในสัญญาณและกฎกติกาที่กำหนดไว้ เช่น กระตุ้นให้ผู้เล่นยอมรับในเกมที่ต้องถูกแตะตัวเมื่อตนเองถูกแตะตัวมีการยกมือ เมื่อผู้เล่นทำผิดหรือสงสัยว่าตนเองทำผิดกติกา หรือเมื่อมีกาดรเล่นที่รุนแรงเกิดขึ้น
3.2 ปฏิบัติตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ไม่อนุญาตให้มีการถกเถียงหลังคำตัดสินของกรรมการ แต่ถ้าเมื่อมีการหยุดเล่นบ่อยครั้งเนื่องจากกฎกติกาก็ให้ปรับเปลี่ยนกฎกติกาที่ยากให้ง่ายขึ้นให้เหมาะสมกับความสามารถของกลุ่มผู้เล่น ผู้สอนหรือผู้นำเกมควรแม่นยำในกฎกติกาการเล่น
3.3 ตรวจดูว่าแต่ละทีมต้องมีจำนวนผู้เล่นเท่ากันก่อนเริ่มเล่น
3.4 ถ้าสังเกตเห็นผู้เล่นคนใดคนหนึ่งไม่เข้าใจกฎกติกาการเล่นหรือทำไม่ได้ การเล่นเป็นไปอย่างขลุกขลัก หรือผู้เล่นขาดความสนใจ ให้ยุติการเล่นทันทีเพื่อคนหาสาเหตุและจัดการแก้ไข เช่น ถ้าผู้เล่นไม่เข้าใจให้เริ่มต้นอธิบายวิธีการเล่นหรือกฎกติกาอีกครั้งหนึ่ง
3.5 ผู้สอนหรือผู้นำเกมอาจต้องร่วมเล่นด้วยในบางโอกาส แต่อย่าให้ตนเองเป็นจุดเด่น เมื่อเกมดำเนินไปด้วยดีอาจถอนตัวออกมาโดยที่ผู้เล่นไม่ทันสังเกตเห็น ผู้เล่นมักรู้สึกสนุก ถ้าผู้สอนหรือผู้นำเกมร่วมเล่นด้วย
3.6 พยายามให้ผู้เล่นแต่ละคนได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเล่นหรือผลัดเปลี่ยนกันเล่นในตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เล่นในตำแหน่งที่ตนเองชื่นชอบ ระวังไม่ให้ผู้เล่นบางคนเป็นจุดเด่น หรือควบคุมการเล่นทั้งหมด
3.7 การสอนสอดแทรกระหว่างเกมเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อเกมเริ่มแล้วให้ผู้สอนหรือผู้นำเกมสำรวจดูว่า มีผู้เล่นคนใดต้องการการกระตุ้น การให้กำลังใจ ดูการใช้ทักษะและที่ว่างของผู้เล่นแต่ละคน หาโอกาสที่จะสอนสอดแทรกทุกขณะเมื่อมีโอกาส โดยสอดแทรกทีละนิดให้หยุดกิจกรรมทันทีเมื่อจำเป็นต้องให้คำแนะนำ
3.8 เมื่อผู้เล่นเริ่มเบื่อให้ยุติการเล่นทันที
3.9 เมื่อเวลาในการสอนหรือการเล่นใกล้หมด ไม่ควรเริ่มเกมใหม่ นอกจากว่ามีเวลาเพียงพอในการเล่น
3.10 การเล่นควรดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว ควรเริ่มเล่นทันทีเมื่อเกมนั้นผู้เล่นเคยเล่นมาก่อน
3.11 รักษาบรรยากาศของการเรียนการสอนไว้ ผู้เล่นส่งเสียงดังได้ขณะที่เล่นอย่างตั้งใจ แต่ถ้าส่งเสียงดังเพื่อเป็นการก่อกวน ให้ส่งสัญญาณให้ผู้เล่นเงียบและสนใจในเกมโดยใช้สัญญาณ นกหวีด หรือยุติการเล่นเมื่อมองเห็นว่าผู้เล่นไม่สนใจการเล่นเท่าที่ควร
3.12 ให้ความยุติธรรมในการเลือกผู้เล่นที่จะเป็นผู้นำกลุ่ม เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกหัวหน้ากันเอง มีการหมุนเวียนกันเป็นผู้นำกลุ่มเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนาการเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี
3.13 ให้ผู้เล่นทุกคนได้รับความสนุกสนานไม่คำนึงถึงการเป็นผู้แพ้ผู้ชนะ แต่มุ่งไปที่การร่วมมือและการเข้าร่วมเล่นเป็นสำคัญ ผู้เล่นทุกคนควนจะร่วมเล่นเกมจนจบเกม อีกประการหนึ่งทีสำคัญควรส่งเสริมให้เล่นด้วยท่าทีและมีน้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จริง เช่น แสดงออกอย่างสุภาพ ควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง เคารพสิทธิของผู้อื่น เคารพในกฎกติกาและคำตัดสิน เล่นด้วยความยุติธรรมและถูกต้อง เป็นต้น
3.14 ภายหลังจากที่ได้สอนหรือนำเกมไปจำนวนหนึ่งแล้ว ให้ถามผู้เล่นว่ามีเกมใดที่ต้องการเล่น โดยเปิดโอกาสถามผู้เล่นหนึ่งหรือสองคนทุกครั้ง
3.15 ทบทวนเกมทั้งหลายที่ได้เล่นไปแล้ว เพื่อพัฒนาทักษะและกลวิธีในการเล่นให้ดีขึ้น แต่ระวังผู้เล่นอาจเกิดความเบื่อหน่าย แนะนำเกมใหม่เพียง 1-2 เกมต่อหนึ่งบทเรียนหรือต่อการเล่นครั้งหนึ่ง ๆ
3.16 หากว่าเกมใดมีการกำหนดผู้เล่นไว้น้อยคน ให้มีการเล่นหลาย ๆกลุ่มในเวลาเดียวกัน ผู้ที่เริ่มเปิดเกมอาจเป็นผู้สอนหรือผู้นำเกมหรือผู้เล่นก็ได้
3.17 ใช้โสตทัศนูปกรณ์ในการแนะนำเกม เพื่อให้ผู้เล่นเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่น ใช้กระดาน
งง มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่อยากเล่นครับ ถ้าสอนง่าย ๆแเละเข้าใจแบบไม่ยากก็จะได้เล่นเป็นแบบไม่ยากครับ