เติมเต็มคนรอบข้าง


ฉันรู้สึกยินดี และภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ได้ต่อเติมกำลังใจ ลดความแห้งแล้งให้จิตใจของคนไข้ ให้ได้รับความชุ่มชื่น และปรารถนาที่จะทำในหน้าที่นี้ตลอดเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่
        ท่ามกลางการทำงานกับผู้ป่วยและญาติ  วันแล้ว  วันเล่า  ในงานบริการผู้ป่วยนอก   หลาย ๆ  ชีวิตที่ได้สัมผัส ทำให้เราได้เรียนรู้ชีวิตผู้คนที่มารับบริการ  ทั้งในส่วนของการเจ็บป่วย ความทุกข์ และความเป็นมนุษย์ ไปพร้อม ๆ  กัน  และนี่เป็นหนึ่งเรื่องเล่าของผู้ป่วยที่อยากถ่ายทอดสู่กันฟัง
         เช้าวันนี้  ก็เหมือนกับทุก ๆ เช้า  ที่ฉันได้ก้าวย่างเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาล  ผู้คนมากมายที่นั่งรอ ยืนรอรับบริการ ทุกเพศ  ทุกวัย  งานที่นี่ได้เริ่มแล้ว  ณ ที่นี่  แผนกผู้ป่วยนอก  ฉันตรวจตรา ความเรียบร้อย ของหน่วยงาน  พูดคุยกับน้อง ๆ  แล้วมานั่งยังจุดซักประวัติ  เพื่อรีบมาดูแลผู้ป่วยที่งดน้ำและอาหาร  ประมาณ  20-30  ราย  ที่มารอรับบริการ  ใบหน้าท่าทางผู้ป่วยแต่ละรายบ่งบอกถึงความกังวลใจ  เพราะต่างก็อดอาหารมา  หน่วยงานเราเข้าใจดีจึงได้จัดบริการให้ผู้ป่วยเหล่านี้ก่อน  แต่คนไข้โรคเรื้อรังนับวันทวีมากขึ้น  ทำให้คนไข้ที่งดน้ำอาหารมิได้น้อยลงกลุ่มคนเหล่านี้  จึงต้องมีการเข้าคิวเพื่อการตรวจเช่นกัน
        ในเช้าวันหนึ่ง  มีผู้ป่วยเป็นคุณลุงวัย 70 ปีเศษ  ได้มารับบริการในแผนกผู้ป่วยนอก  ด้วยสถาพอ่อนแรงนั่งรถเข็น  หน้าชีด เซียว  รับประทานอาหารไม่ได้ ระดับความดันโลหิตปกติ   มีประวัติ โรคหัวใจ  ไม่ขาดยา   เมื่อข้าพเจ้าซักประวัติแล้ว ได้ส่งพบแพทย์  เพื่อตรวจรักษาแพทย์ส่งตรวจห้องปฏิบัติการ  โดยเจาะเลือดหา  FBS,  BUN,  Creatinine,  Electrolyte,  EKG   ผลเลือดพบว่า มีค่าบางอย่างผิดปกติ   ต้องได้รับการรักษาโดยนอนพักในโรงพยาบาล  ในขณะที่ผู้ป่วยผ่านพยาบาลหลังตรวจ   ฉัน ได้ให้บริการหลังตรวจ
        ฉัน ถามถึงญาติว่ามาหรือไม่  คุณลุงตอบมาด้วยเสียงเรียบเฉย ว่า มาส่งแล้ว  และได้ไปทำงานที่โรงงานแล้ว  ซึ่ง จะมารับกลับภายหลัง  ฉันถามต่อไปอีกว่าแล้วมีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับไปหาญาติไหม จะติดต่อให้  คุณลุงบอกว่าไม่มี  ในเวลานั้นรู้สึกว่าคุณลุงเขาอยู่กับตัวเองจริง ๆ  ไม่มีแม้ญาติที่จะมาดูแลเพียงแค่เดือนละครั้งก็ยังไม่มีเวลาให้   กับการมาเป็นเพื่อน  ซึ่งยังมีหลายต่อหลายชีวิตที่เป็นเช่นนี้ ในสภาพสังคมที่ผู้สูงอายุต้องโดดเดี่ยว  ในสภาพเศรษฐกิจที่ลูกหลานต้องดิ้นรน และบ่อยครั้งที่เรายังพบว่าญาติหลายๆรายนำผู้ป่วยมาส่งไว้ที่โรงพยาบาล โดยที่และไม่มีเวลาแม้แต่จะมาเยี่ยมเยียน    ฉันทราบว่าคุณลุงงดน้ำ อาหารตั้งแต่หลังเที่ยงคืน และเวลานั้นก็ใกล้เที่ยงวันของวันใหม่ เนื่องจากโรงพยาบาลแก่งคอยมีผู้ป่วยค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ป่วยต้องรอกันนาน ฉันรู้ดีว่าผู้ป่วยส่วนมากมีสีหน้า หงุดหงิด  กังวลกับการรอคอย ก็มิได้นิ่งนอนใจ  ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ป่วยและญาติ เข้าใจถึงเหตุผลที่ต้องรอคอย  ซึ่งกว่าผลเลือดของคุณลุงจะออก    คุณลุงจึงต้องคอยนานจนเกือบเที่ยง    และคุณลุงยังไม่ได้รับประทานอาหารเช้าเลย   เพราะไม่มีญาติมาอยู่เป็นเพื่อน ที่จะหาซื้ออาหารให้  ฟังแล้วเกิดความรู้สึกเห็นใจ เป็นกังวล จึงรีบประสานงานไปยังตึกผู้ป่วยในชาย และเรียกเวรเปลให้นำผู้ป่วยไปส่งยังตึก ได้เดินไปส่งถึงหน้าร้านค้าสหกรณ์โรงพยาบาล ให้เวรเปลแวะที่ร้านค้า  เพื่อซื้อนมกล่องให้คุณลุง 1 กล่อง   ได้เจาะกล่องนม ยื่นให้คุณลุงด้วยความรู้สึกเห็นใจ  สงสาร  และปรารถนาดี   คิดเสมอว่าคนไข้ก็เหมือนญาติของเรา ยิ่งเป็นคนแก่หรือคนสูงอายุ  ยิ่งสงสารยิ่งนักกับการที่ต้องอยู่คนเดียว  ไม่มีญาติเหลียวแล    คุณลุงยกมือไหว้ พร้อมกล่าวคำขอบคุณในความเอื้ออาทรที่ฉันหยิบยื่นให้       ขณะเดียวกันฉันก็ซื้อนมกล่องเผื่อให้พนักงานเปลด้วย 1 กล่องเช่นกัน   ซึ่งน้องพนักงานเวรเปลก็กล่าวขอบคุณทำให้ฉันรู้สึกชื่นใจ    และดีใจที่ได้ทำเช่นนี้  ในวันนี้
        ในภาพที่ชินตา ที่ฉันสัมผัสเป็นสิ่งที่เรากำลังหยิบยื่นความเมตตา กรุณาแก่ผู้ป่วยบางทีเมื่อพูดถึงความเมตตากรุณา เรามักจะนึกถึงคนแก่ใจดีมีธรรมะ เราไม่ได้นึกว่าเป็นเรื่องของคนธรรมดาทุกเพศทุกวัย  พอฟังว่าเมตตากรุณาก็นึกว่ากำลังถูกเกณฑ์ให้ฟังเทศน์ ซึ่งมันไม่ใช่เพียงนั้น แต่   เป็นสิ่งที่เหล่าพยาบาลถูกปลูกฝังในสายเลือดของความเป็นวิชาชีพ  เรามิได้ให้เพียงความเมตตาแต่เรายังให้ ความอ่อนโยน   ความอ่อนโยนเกิดในจิตใจที่ดีงาม และความเย็นของมันแผ่ซ่านไปยังผู้คนรอบข้าง
        วันนี้คุณลุงหายหิว ด้วย อิ่มในเครื่องดื่ม ที่ฉันตั้งใจให้  เวรเปลอิ่มใจที่ได้รับน้ำใจจากพยาบาล และตัวฉันนั้นอิ่มในบุญที่ได้ทำด้วยความเต็มใจ ทั้งก่อน ขณะ และหลังทำ  เวรเปลนำพาคุณลุงไปยังตึกผู้ป่วยในชายด้วยใบหน้ากระปรี้กระเปร่า ในขณะที่คุณลุงก็รู้สึกอิ่มท้องไปอีกมื้อ   แบบไม่คาดหวัง
        เรื่องราวชีวิตของคนไข้ ที่เราเห็นและสัมผัส ความทุกข์ยาก จากการเจ็บป่วย ความทุกข์ยากจากการขาดที่พึ่ง  บนเส้นทางของการทำงานช่วยชีวิตคน  บนถนนสายนี้ยังไปอีกไกล วิถีแห่งการทำความดียังมีให้เราได้สร้างตลอดทุกลมหายใจของชีวิต   การก้าวมาทำงานแต่ละวัน คือการเรียนรู้   ฉันได้เรียนรู้ที่จะให้การเยียวยา  แบ่งปัน  อันเป็นสิ่งมีคุณค่ายิ่ง
        ฉันรู้สึกยินดี  และภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่ได้ต่อเติมกำลังใจ ลดความแห้งแล้งให้จิตใจของคนไข้ ให้ได้รับความชุ่มชื่น  และปรารถนาที่จะทำในหน้าที่นี้ตลอดเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ ด้วยรู้ซึ้งถึงสิ่งที่ทำ คุณค่าแห่งชีวิต เพราะทุกก้าวย่างของชีวิตในทุกวัย ตั้งแต่ เกิด จน ตาย คือการพยาบาล  และการพยาบาล คือ การทำความดี ทำด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ เพื่อหล่อลี้ยงชีวิตมนุษย์ และเพื่อนมนุษย์ในโลกใบนี้ ให้สวยงาม
 งานผู้ป่วยนอก รพ.แก่งคอย
หมายเลขบันทึก: 317414เขียนเมื่อ 1 ธันวาคม 2009 14:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับคุณ sha รพ.แก่งคอย

(เรื่องราวชีวิตของคนไข้ ที่เราเห็นและสัมผัส ความทุกข์ยาก จากการเจ็บป่วย ความทุกข์ยากจากการขาดที่พึ่ง บนเส้นทางของการทำงานช่วยชีวิตคน บนถนนสายนี้ยังไปอีกไกล วิถีแห่งการทำความดียังมีให้เราได้สร้างตลอดทุกลมหายใจของชีวิต การก้าวมาทำงานแต่ละวัน คือการเรียนรู้ ฉันได้เรียนรู้ที่จะให้การเยียวยา แบ่งปัน อันเป็นสิ่งมีคุณค่ายิ่ง)ความงาม คงวามดี การแบ่งปัน มันหอมหวานได้ไกล ถึงคนอยู่ไกล ยามดึกดื่น ชุ่มชื่นหัวใจ เหมือนคุณลุงนั้น หรือพนักงานเปล คนนี้ที่ทำงานไปด้วยความสุขทั้งวัน จากการแบ่งปันสิ่งดีๆให้กัน แม้นน้อยนิด แต่พลังจิตรกำลังใจมหาศาล มาเชียร์ ชื่นชม ชื่นชอบ ด้วยความขอบคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ ทีมงาน Sha โรงพยาบาลแก่งคอย ทุก ๆ ท่านค่ะ
  • เรา ๆ ในฐานผู้ให้บริการไม่ว่าจะหน้าที่อะไร การแสดงออกทางใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ถูกถ่ายทอดออกจากหัวใจ มาสู่ปลายนิ้วสัมผัส เสียงทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล สายตาที่ทอดมองให้กำลังใจและสิ่งที่สำคัญที่สุดเราต้องช่วยเหลือมากกว่าโรคที่เขาเป็นปัญหาอยู่ ณ.ขณะนั้นใครจะรู้บ้างว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย  ๆ สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของไข้ ที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถเรียกกำลังใจให้กลับคืนมาต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้อย่างไม่หน้าเชื่อ เป็นการสร้างมิติทางจิตใจที่สำคัญ ที่จะช่วยเยียวยาโรคที่เป็นอยู่  ดีกว่าตัวยาขนานเอกด้วยซ้ำไป   
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันค่ะ

ขอบคุณบันทึกอันประทับใจที่นำมาแบ่งปันฝันงามกันนะคะ

ชอบมากคะ

สวัสดีค่ะ อ่านไปยิ้มไปด้วยความชื่นชมและมีความสุขจริงๆค่ะ

หากเราช่วยกันมองเพื่อช่วยกันคนละไม้คนละมือ คนละคนสองคน คนไข้อื่นๆ ที่คล้ายๆกับคุณลุงคงจะได้รับการช่วยเหลือด้วยหัวใจมากขึ้นนะคะ ขอบคุณเรื่องเล่าดีงามค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท