เมื่อวันศุกร์เข้าไปสอนนักศึกษาชั้น ปวส.1 ในตอนเช้า 2 ชั่วโมง
ก่อนจะออกจากห้องได้สัญญากับนักศึกษาแผนกวิชาช่างยนต์ไว้ว่า
วันอาทิตย์หากครูกลับมาจาก กทม. และไม่เหนื่อยจนเกินไป
ก็จะมาลงบทความให้อ่าน กลับมาถึงยะลาตอนเช้าของวันนี้
ก็เผลอหลับไปตื่นอีกทีก็ใกล้เที่ยง เหนื่อยค่ะเหนื่อยมากกับการเดินทาง
และมีเรื่องที่เพิ่งจะทำให้เหนื่อยมาก ๆ
เมื่อสักครู่ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องแต่มันก็เป็นเรื่องขึ้นมา...
แต่ก็ยังไม่ลืมคำสัญญาที่ให้กับเด็กนักศึกษาค่ะ
ครูพยายามคัดเลือกบทความอยู่หลายสิบบทความ ที่จะนำมาเผยแพร่แต่ไม่ได้ต้องการให้นักศึกษาแข่งขันกันว่าของใครดีเลิศ หรือของใครแย่สุด เพราะทุกคนก็มีส่วนที่เป็นจุดเด่นของแต่ละคนที่แตกต่างกัน แต่จุดประสงค์หลักคือต้องการให้นักศึกษามุ่งมั่นสนใจ ใส่ใจกับการทำงาน กิจกรรมในชั้นเรียนให้มากขึ้น บทความที่คัดเลือกมามี 2 บทความ ในหัวข้อนักศึกษาใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์อย่างไรในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข ?
บทความที่
1 เป็นของนายรุสลี
มะแซะ นักศึกษาชั้น ปวส.1 แผนกวิชาเทคนิคการผลิต
เขียนไว้ว่า
“ใช้หลักการให้อภัย,
เกรงใจซึ่งกันและกัน, ไม่ถือตัว”
หากมีใครทำอะไรผิด ถ้าเขามาขอโทษก็ควรให้อภัย ไม่ควรยึดติดกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
อะไรที่ไม่ดีผ่านมาแล้วก็ขอให้ผ่านเลยไป เก็บเอาสิ่งที่ดี ๆ
ที่มีให้ต่อกันเอาไว้เท่านั้น
เพราะถ้าเรายึดติดกับเหตุการณ์ที่ไม่ดีเรากับเขาก็จะไม่เข้าใจกัน
การให้อภัยก็จะไม่เกิดขึ้นสุดท้ายเราเองก็จะเป็นฝ่ายที่ทุกข์ใจ
เพราะไม่ยอมปล่อยวางสิ่งที่ไม่ดี
บทความที่ 2
เป็นของ นายไพฑูรย์
แก้วทอน นักศึกษาชั้น ปวส.1 แผนกวิชาช่างยนต์
เขียนไว้ว่า
“ทักทายเมื่อเราพบเจอกับเพื่อน
และเราสามารถเป็นที่ปรึกษาและแนะนำเพื่อนได้”
เมื่อเพื่อนมีปัญหา
ไม่กล้าที่จะไปพูดหรือปรึกษากับใครเราก็สามารถยื่นมือเข้าไปขอเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่เพื่อน
ปลอบใจเพื่อน ชี้นำทางไปในทางที่ถูกที่ควร
เพราะหากถ้าเราซ้ำเติมเขาเขาก็อาจจะหลงทางและอาจทำให้มีหลายคนที่เสียใจ
ที่แน่ ๆ คือ พ่อแม่ นั่นเอง
เพราะฉะนั้นการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนและทุก ๆ
คนที่อยู่รอบข้างนั้นแหละคือสิ่งที่ถูกต้องเพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้
ครูขอชื่นชมในผลงานของนักศึกษาทุกคน
ถึงแม้จะไม่ได้นำมาลงในบทความหมดทุกคน
แต่ครูก็อ่านบันทึกของทุกคนแล้วและล้วนแต่เป็นการตอบที่ครูประทับใจมาก
ๆ เป็นกำลังใจให้สำหรับก้าวต่อไปค่ะ "เพราะเรามิได้อยู่บนโลกนี้เพียงลำพังคนเดียว
มนุษยสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคม...มองและเข้าใจคนอื่นอย่างที่มองและเข้าใจตนเอง
สังคมแห่งความสงบสุขก็จะเกิดขึ้น"
ดีครับ ถ้าเด็กเห็นชื่อเห็นเรื่องของเขา เป็นรางวัลที่เขาภูมิใจมากเลยครับ พี่บอกให้เขาดูซิครับ ผมว่าพฤติกรรมเขาเปลี่ยนแน่ เปิดคลินิคให้คำปรึกษาเด็กบน blog ซิครับ
เห็นด้วยคะ อาจารย์เก่งจังเลย สอนนักศึกษาช่างยนต์ ด้วย...ของนิวจะไม่ค่อยกล้าสอนเด็กช่างหรอกคะ กลัว !! (แต่ก็เข้าใจว่าเด็กช่างที่ดี ๆ ก็มี เหมือนกัน...อย่างที่นิวเคยเขียนไว้ว่าทำไมสังคมถึงต้องมองเด็กอาชีวะไม่ดี นั่นแหละ !! ทั้ง ๆ ที่นิวก็เป็นเด็กอาชีวะคนนึง)
คุณ "007"
เป็นความคิดที่ดีค่ะ พี่เคยได้ยินคำพูดนี้จากใครคนหนึ่งบอกให้พี่เปิดคลินิคให้คำปรึกษากับเด็กบน blog และพี่ก็เห็นด้วยอย่างมาก แต่ตอนนี้กำลังดูระบบข้อมูลนักศึกษานิดหน่อย แต่คาดว่าจะสำเร็จในไม่ช้าค่ะ
พี่เคยทดลองค่ะ พฤติกรรมเด็กเปลี่ยนไปมาก ห้องนึงไม่ได้บอกรายละเอียดว่าจะขึ้น blog ให้ ก็เห็นเขาเฉย ๆ ในกิจกรรมที่จัดให้ แต่อีกห้องคือช่างยนต์เมื่อวันศุกร์ที่แล้วได้แจ้งนักศึกษาไป ปรากฎว่าทุกคนดีใจและกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมครั้งนี้มาก เห็นแล้วก็รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลงไปจริง ๆ ในขณะที่ไม่เคยเห็นเด็กช่างจะกระตือรือร้นได้ขนาดนี้ ก็เป็นความภูมิใจของครูที่เห็นเด็กกระตือรือร้นได้ขนาดนี้ ยังบอกเขาว่าครั้งนี้ไม่ได้ลงไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวครั้งต่อไปตั้งใจให้มากกว่านี้ มีโอกาสแน่ เพราะครูเชื่อว่าทุกคนทำได้ และทำได้ดีด้วย "ดูเขามีความสุขกับการเรียนขึ้นเยอะเลยค่ะ"
น้องนิว...คนสวย
เด็กช่างไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะน้องนิว เขาเป็นเด็กน่ารักมาก หากแต่เราได้ใช้วาจาที่ไพเราะกับเขาเข้าใจเขา เขาก็จะพูดภาษาดอกไม้กับเราค่ะ ครูบางคนมองว่าเด็กช่างต้องใช้วาจาสื่อสารกับเขาแบบหยาบคาย แข็งกระด้าง เขาถึงจะเชื่อฟัง แต่เท่าที่สัมผัสมาไม่เป็นเช่นนั้นเลย หากแค่ครูได้ใช้กัลยาณมิตรกับเขาแน่นอนที่สุดเขาก็ย่อมต้องตอบด้วยกัลยาณมิตรที่ดีกลับมาเช่นกัน
อิอิ...นิวยังไม่ค่อยเก่งคะ วิธีการของนิวเวลาที่ต้องสอนนักศึกษาชาย ก็คือ จะเฉย ๆ และไม่พูดเล่นกับเค้า เหอ ๆ จะทำให้เค้ารู้สึกเกรงใจมั๊งคะ แล้วก็ไม่กล้าคุย+เล่น ในห้องกันมาก .. นิวก็ไม่รู้ว่าทำถูกหรือเปล่านะ แต่มันก็ได้ผลคะ (แต่จริง ๆ แล้วนิว ก็นึกขำอยู่เหมือนกันว่า..อืมมม ทำไมเราถึงทำมาดเข้มได้ขนาดนี้ อิอิ...) // คิดถึงอาจารย์วิจิตรา กับ อาจารย์ขจิต เสมอนะคะ ช่วงนี้นิวคงยังไม่มีบทความคะ แต่จะมีเร็ว ๆ นี้แน่นอน อย่าลืมเข้ามาอ่านแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันบ้างนะคะ ขอบคุณคะ
น้องนิว...คนสวย
คิดถึงเช่นกันจ๊ะสาวน้อยที่น่ารัก...แล้วจะรออ่านบทความของน้องนิวค่ะ "มองว่าอยู่ที่เทคนิคการสอนของแต่ละบุคคล บวกกับสภาพการณ์ในชั้นเรียนขณะนั้นที่ครูพบเจอด้วยว่าเป็นเช่นไร" ไม่มีผิดไม่มีถูกค่ะ...ส่งภาพมาให้ก็ค่อยคลายความคิดถึงไปนิดนึง...