เมื่ออ่านชื่อเรื่องแล้ว อาจจะเกิดข้อสงสัยขึ้นในใจนะครับว่าดอกสร้อยย่อเป็นอย่างไรแล้วทำไมต้องรอคำตอบด้วย ผู้เขียนขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ดอกสร้อยย่อนี้เป็นลักษณะคำประพันธ์ที่ผู้เขียนกำหนดขึ้นมาเอง โดยนำกลอนดอกสร้อย ซึ่งประกอบด้วยกลอนแปดสองบทมาย่นย่อให้เหลือเพียงบทเดียวทั้งนี้ เพื่อให้สั้น จำได้ง่าย เหมาะสำหรับตั้งเป็นคำถามให้ตอบ ผู้ตอบจะต้องใช้ความคิดอย่างฉับพลันในการตอบ โดยฟังอย่างเข้าใจเสียก่อน รับรองว่าตอบได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ เพราะคนไทยมีนิสัยเจ้าบทเจ้ากลอนมาตั้งแต่เกิด เพียงแต่ผู้ประพันธ์ดอกสร้อยย่อใช้คำให้เหมาะสมกับระดับอายุเท่านั้นเอง โอกาสในการใช้ดอกสร้อยย่อรอคำตอบ ได้แก่ ถามตอบปัญหาเพื่อฝึกสมาธิการฟัง กิจกรรมยามว่าง กิจกรรมเสริมบทเรียน กิจกรรมสลับบทเรียน การประกวดแข่งขัน เป็นต้น หวังว่า ดอกสร้อยย่อรอคำตอบ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้อ่านทุกท่าน แล้วอย่าลืมเตรียมพร้อมเพื่อฝึกสมอง ลองปัญญา พัฒนาต่อมความคิดกันนะครับ
๑๖๕. ชักเอ๋ยชักนี้
เป็นชักที่เล่นได้สนุกสนาน
เชือกหนึ่งเส้นเล่นสองข้างดึงกลางลาน
ร่วมประสานแรงเป็นหลักชักใดเอย. (ไชยญาณ : ชักเย่อ)
๑๖๔. ชักเอ๋ยชักนี้
เป็นชักที่มีอยู่ในห้องสุขา
มีที่เปิดน้ำล้างได้มิให้คา
เมื่อเวลาถ่ายเบาหนักชักใดเอย. (ไชยญาณ : ชักโครก)
๑๖๓. ชักเอ๋ยชักนี้
เป็นชักที่สู้ต่อไปต้องตายแหง
ใครจะว่าให้อายก็ไม่แคร์
ขอยอมแพ้ขอเว้นวรรคชักใดเอย. (ไชยญาณ : ชักธงขาว)
๑๖๒. ชักเอ๋ยชักนี้
เป็นวจีเอ่ยเพื่อขอสิ่งประสงค์
พูดหว่านล้อมยกยอไม่ขอตรง
เพียรบรรจงด้วยฝีปากชักใดเอย. (ไชยญาณ : ชักแม่น้ำทั้งห้า)
๑๖๑. ชักเอ๋ยชักนี้
เป็นชักที่น่าเป็นห่วงช่วงขัดสน
ได้ไม่พอใช้จ่ายใจกังวล
อาจส่งผลเป็นหนี้หนักชักใดเอย. (ไชยญาณ : ชักหน้าไม่ถึงหลัง)
๑๖๐. ชักเอ๋ยชักนี้
เป็นชักที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง
กำหนดขวาหรือว่าซ้ายก็ต้องฟัง
เพราะคำสั่งแน่นหนักชักใดเอย. (ไชยญาณ : ชักใย)
น้ำเอ๋ยน้ำนี้
วาจาดีเสียงดีไพเราะหนา
ฟังคราวใดชื่นใจชื่นอุรา
ฟังอีกครั้งเถิดหนามีสุขเอย
สวัสดียามเช้าคะ
อ่านกลอนแบบนี้ก็สนุกและมีความสุขดีนะคะ