ผลการดำเนินงานโรงเรียนพ่อแม่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพนครสวรรค์
นาง สุริยา ยังเจริญ
นางสาว สาวิตรี เชี่ยวชาญธนกิจ
นาง ศศิชล หงษ์ไทย
บทคัดย่อ
การศึกษาผลการดำเนิน งานโรงเรียนพ่อแม่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพนครสวรรค์เป็นการวิจัยเชิงทดลองมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พ่อแม่มีส่วนร่วมในการดูแลตนเอง ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเพื่อสร้างรูปแบบกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่ในสถานบริการสาธารณสุขรวมทั้งเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 0–5 ปีให้มีพัฒนาการสมวัย โดยกลุ่มตัวอย่างคือหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการฝากครรภ์และครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนพ่อแม่ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพนครสวรรค์ จำนวน 325 คน เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมิถุนายน 2547– ธันวาคม 2548 วิธีการดำเนินงานคือ กำหนดแนวทางในการให้ความรู้ในโรงเรียนพ่อแม่ ในหญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการ สามี หรือผู้ดูแลเด็ก โดยพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ครอบคลุมในเรื่องของการใช้ยา การดูแลสุขภาพฟัน การออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ การปฏิบัติตนเองในระหว่างตั้งครรภ์ ระหว่างคลอด และหลังคลอด รวมถึงโภชนาการที่เหมาะสมในหญิงตั้งครรภ์ และกำหนดองค์ประกอบในการให้ความรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลคือแบบทดสอบประเมินความรู้ก่อน – หลังเข้ารับการอบรมและแบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้เป็นสถิติเชิงพรรณาและ ร้อยละ
ผลการดำเนินงาน : จากการดำเนินการให้บริการโรงเรียนพ่อแม่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพนครสวรรค์ ได้มีการพัฒนาหลักสูตรให้ครอบคลุมและกำหนดแผนการสอนและกิจกรรมในการให้บริการตั้งแต่ มิถุนายน 2547 – ธันวาคม 2548 ผลการศึกษาได้รูปแบบการให้บริการโรงเรียนพ่อแม่ 1 รูปแบบ ซึ่งประกอบด้วย หลักสูตรการเรียนจำนวน 4 หลักสูตรได้แก่ หลักสูตรที่ 1 ระยะฝากครรภ์ – คลอด , หลักสูตรที่ 2 ระยะเด็กอายุ 0–1 ปี , หลักสูตรที่ 3 ระยะเด็กอายุ 1 – 2 ปี , หลักสูตรที่ 4 ระยะเด็กอายุ 2–5 ปี และแผนการสอน 31 แผนการสอนโดยรูปแบบการให้บริการเป็นหลักสูตรปกติ และขยายผลเป็นการบริการหลักสูตรพิเศษ
ผลการศึกษา : จากการประเมินผลความรู้เนื้อหาวิชาของผู้รับบริการตามผลการบันทึกสมุดประจำตัวของผู้รับบริการโดยแบ่งกลุ่มหลักสูตรและแบ่งการประเมินเป็น ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ผลการศึกษาพบว่าการประเมินความรู้ในแต่ละหลักสูตรทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ส่วนใหญ่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ สามีและผู้เลี้ยงดูเด็กมีความรู้ผ่านเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 90–100 โดยมีความรู้ที่ได้คะแนนต่ำคือ การส่งเสริมทันตสุขภาพในหญิงตั้งครรภ์ มีความรู้เพียงร้อยละ 66.7 ซึ่งมีการสอนซ้ำให้ในกรณีที่ไม่ผ่านการประเมิน
ผลการประเมินความพึงพอใจ ของผู้รับบริการในโรงเรียนพ่อแม่ พบว่าระดับความพึงพอใจมากกว่าร้อยละ83 ในด้านสถานที่ให้บริการ ความรู้ที่ได้ เนื้อหาของข้อมูลของแต่ละกิจกรรมเหมาะสมมาก มีประโยชน์ในการที่จะนำไปใช้และพึงพอใจต่อภาพรวมของบริการมากถึงร้อยละ 95.9 ส่วนระดับความพึงพอใจที่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ประเด็นสำคัญคือ เรื่องระยะเวลาที่ให้บริการที่เหมาะสม พบระดับความพึงพอใจเพียงร้อยละ 73.5
สวัสดีคะ แวะมาเยี่ยม สบายดีนะคะ
อยากได้เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูล แบบสอบถาม วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
เป็นงานวิจัยที่น่าสนใจครับ
สวัสดีค่ะ
- ตามมาเรียนด้วยคนค่ะ
พี่กบ คราวหลังเรามาทำเป็นวิจัย ระยะยาว 5ปี แต่ว่า เราวางแผนต่อเนื่อง ว่า
วิจัย 1 เป็นการเก็บข้อมูล
วิจัย2 เป็นการลงimplement
วิจัย3 เป็นการติดตาม อะไรทำนองนี้ ดีไหม
จะได้ดูว่ามันตอเนื่อง แบบว่าไม่ต้องมานั่งคิดทีละปี หรือ พอหมดโครงนึง ก็ ต้องมาตั้งหลัก ที่กิโลเมตรที่1 ใหม่ มันไม่ค่อยต่อเนื่อง