แด่ผองเพื่อน


เธอฝันในฟากฝัน                                                สร้างโลกใหม่สร้างคืนวันอันสดใส

จะพลิกฟ้าพลิกผืนดินด้วยแรงใจ                                     จะสร้างฝันแห่งโลกใหม่ในโลกเดิม

เออใช่ฉันก้อฝัน                                                   จะเก็บกอบทุกคืนวันมาก่อเสริม

จะสรรค์สร้างย่างก้าวจักก่อเติม                                        พลิกสังคมริเริ่มโลก - หนึ่งเดียว

เราต่าง...ล้วนต่างฝัน                                          ต่างก้าวย่างฝ่าฟันสู่โลกใหม่

ต่างร่วงหล่นรวดร้าวบนทางไกล                                     เพราะเราต่างใช้เพียงใจชี้นำทาง

และเราต่างเจ็บปวด                                             หล่นน้ำตาบนธารกรวดกลางโลกกว้าง

ต่างเหน็บหนาวต่างร้าวร้อนและเปราะบาง                  ต่างร่วงหล่นลงอ้างว้างเพียงเดียวดาย

เพราะฝันเช่นนั้นหรือ                                        เพราะเราต่างยึดถือโลก-ความหมาย

เราเพียรสร้างโลกใหม่เพียงเดียวดาย                              และหล่นร่วงลงซบกายโดยลำพัง

                หรือเราควรหยุดฝัน                                            หยุดสรรค์สร้างโถมพลัง – หยุดไขว่คว้า

หยุดโลกใหม่ก้มหน้า..ต่อโลกชรา                                  เมื่อสังคมไร้ปัญญาเริ่มผุพัง

          หรือเรายังควรฝัน                                                หากเพียงปลดความหวังอันหน่วงหนัก

เข้าใจโลก เข้าใจ.........ด้วยความรัก                                ปลดปล่อยโลก – เรา สานถักโดยผอง “เรา”

กุมมือเถิดบนหนทาง                                          ผ่อนพัก ปลดวาง หยุดทวงถาม

หยุดนิ่งมองสังคมสดับความ                                            รับรู้สามัญนามแห่งความจริง

                สานใจเถิดที่รัก                                                     เรียงร้อย สานถัก – สงบนิ่ง

เริงร่ายในโลกร้าว เรา – พักพิง                                       เพื่อก่อเติม สรรพสิ่ง - ศรัทธาเรา

                หยดสุดท้ายหยาดน้ำตา                                      เราหลั่งเพื่อ ดับอ่อนล้าปลุกปลอบหวัง

ทิ้งหยาดหยดยังชุ่มชื้น คืนพลัง                              แก่ผองเพื่อนผู้สร้างสรรค์สังคมงาม

               

                หยาดสุดท้ายหยดน้ำตา                                      มิใช่หลั่งจากอ่อนล้าหรือแพ้พ่าย

หากกลั่นออกจากแรงรัก จากแรงกาย                             เพื่อกอบก่อ “สังคมทราย” เป็นเมืองงาม

 

“กลั่นเลือดหยาดสุดท้ายจากเรือนกาย                            เพื่อปลุกปลอบทุกเรือนกาย อันร้าวราน”     

                                                                                               

 

อับดุลฮามิด

 

คำสำคัญ (Tags): #อับดุลฮามิด
หมายเลขบันทึก: 311765เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2009 23:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท