ราคายา......


ราคายา กรมบัญชีกลาง

สวัสดีค่ะ...เพื่อนๆชาว KM

วันนี้มีเรื่องมาเม้าท์ให้ฟังเกี่ยวกันการตั้งราคายา ของโรงพยาบาลค่ะ

ไม่รู้ที่อื่นมีปัญหากันรึเปล่า...

คือว่า สืบเนื่องจากงานสิทธิบัตรได้ไปประชุมเกี่ยวกับการคิดค่ารักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์ของกรมบัญชีกลาง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องการตั้งราคาขายของยาใน รพ.ด้วย

และมี Comment มาว่ายาบางรายการราคาขายไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคิดค่าเวชภัณฑ์ หมวด3 และหมวด 4 ของกรมบัญชีกลาง เช่น

Lactate Ringer ต้องขายไม่เกินขวดละ 53 บาท ตามต้นทุน เป็นต้น (แต่ก่อนหน้านี้ รพ. เราคิดราคาขาย 10 - 20 % ของต้นทุน และเบิกเงินจากกรมบัญชีกลางตาม DRG อยู่แล้ว   ไม่จำเป็นต้องเข้มงวด คิดตามเกณฑ์ทุกรายการขนาดนี้ )

แต่เมื่อมีข้อ Comment มา ทาง รพ. เราก็เรียกผู้เกี่ยวข้องแต่ละงานมาหารือ

สรุปคือห้องยาต้องรับผิดชอบไปทำราคาขายมาใหม่ทุกรายการให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยรับผิดชอบหมวด 3 ,4 และเวชภัณฑ์มิใช่ยาบางรายการ  แต่พอคิดออกมารู้สึกว่ารายได้ค่ายาจะลดลงไปเหมือนกันนะเนี่ย แต่เราทำงานราชการเพื่อประชาชน ก็ต้องไม่หวังกำไร (ใช่มั้ยคะ?)

เดี๋ยวนำเสนอในที่ประชุม รพ. แล้วคงจะได้ข้อสรุปในการปรับราคาใหม่กันค่ะ

ว่าแต่ว่าที่ รพ.อื่น คิดราคาขายกันยังงัยน้า เล่าสู่กันฟังบ้างสิคะ

อยากรู้มากเลย...ค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ราคายา
หมายเลขบันทึก: 310876เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2009 15:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

รับทราบไว้เป็นคลังข้อมูลสมองครับผม คงต้องรอฟังการพิจารณาจากที่ประชุมสินะครับ

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาให้กำลังใจ....

ข้อสรุปก็คือ ราคายาต้องคิดตามหลักของกรมบัญชีกลาง

แม้ว่ารายได้จะลดลงก็ตามค่ะ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท