ระหว่างนั่งคุยกับ 2 สาว เรื่องหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัว "เออ วันก่อนนี้มีคนไข้ที่หมอแนน หมออายุรกรรมให้ข้อปรึกษาที่ตึกศัลยกรรมกระดูกนี่นา รายนั้นให้ยาฉีดด้วย จะเจออะไรอย่างที่น้องป้อมเจอมั่งมั๊ยนี่ น่าเอาไปขอให้ที่นั่นลองบ้างดีกว่า"
ผละจากสองสาวน้องป้อมและน้องหญิงแล้ว ฉันก็พาตัวเดินไปที่ตึกศัลยกรรมกระดูก ถามถึงจำนวนคนไข้เบาหวานที่กำลังนอนอยู่ ทราบจำนวนแล้วก็ถามถึงคนไข้ที่ขอปรึกษาหมอแนน แล้วถือโอกาสเอ่ยคำขอ
"น้องรมย์ ดูอะไรนี่หน่อยน้อง แบบบันทึกนี้ตึกอายุรกรรมหญิงเขาทำขึ้นใช้กับคนไข้เบาหวาน แล้วเขาได้รู้ว่าการให้ยาคนไข้คลาดเคลื่อนหรือเปล่า หมอเอามาให้ดูเพราะทางโน้นเขาว่าเขาทำแล้วได้ประโยชน์ น้องรมย์ลองดูไหม ลองทำเหมือนเขาดูไหม คนนี้หมอ Med ดูอยู่นี่นะ เผื่อว่าจะมีอะไรปรึกษาต่อ แล้วโภชนากรก็จะได้มีโอกาสมาช่วย ได้ง่ายๆไง"
น้องรมย์ อ่านดูที่เขียนๆไว้ในกระดาษ สังเกตเห็นว่า เธอตื่นตัวกับอะไรบางอย่าง เรียกว่ากระตุกต่อมเอ๊ะเธอเข้าแล้ว แต่เอ๊ะอะไรฉันไม่รู้หรอก ผลของเอ๊ะทำให้น้องรมย์ลงมือทำบันทึกให้ก็แล้วกัน
คุยกับน้องรมย์อยู่ฉันก็เอ๊ะกับอะไรบางอย่างขึ้นมาจากบันทึกในกระดาษ จึงแวะกลับไปหาน้องป้อมอีกครั้ง และถามว่า "ป้อม ติดต่อคนไข้ที่ให้กลับบ้านไปแล้วได้ไหม หมอไม่แน่ใจว่า เขากลับไปแล้วจะมีเรื่องการเป็นลมเกิดขึ้นบ้างไหม ถ้าติดต่อได้จะได้ตามถามดู"
"ไม่มีค่ะ ไม่ได้ถามไว้ คนไข้เพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ หมอค่ะตกลงป้อมจะใส่ใบบันทึกนี้และทำต่อไปนะหมอนะ" น้องป้อมตอบพร้อมบอกความตั้งใจ
"ดีแล้ว ถ้าเธอเห็นประโยชน์ ก็ทำเหอะ หมอว่างหมอจะแวะมา แล้วอย่าลืมเก็บใบนี้ออกมาไว้ดูกันละ จะได้แกะความรู้มาเรียนรู้จากคนไข้ด้วยกัน" ฉันตอบเธอแล้วผละมา แล้วก็นึกขึ้นได้ โทรไปตามหาตัวน้องเล็กมาที่วอร์ดน้องป้อม
น้องเล็กขึ้นมาแล้ว ฉันก็ชวนให้เธอดูว่ามีบันทึกที่ทำขึ้นมาลองใช้ ซึ่งเธอจะใช้ประโยชน์ในการขึ้นมาวางแผนการสอนคนไข้เรื่องการคำนวณอาหารได้ แล้วฉันก็ขอร้องให้น้องเล็กแวะไปดูคนไข้ที่วอร์ดน้องรมย์ให้ด้วย บอกด้วยว่าที่ตึกน้องรมย์เริ่มลองใช้บันทึกแล้วเช่นกัน น้องเล็กรับไม้ต่อ ผละไปดูคนไข้ให้
และแล้วบันทึกที่น้องรมย์ทำขึ้นตามคำชวนนี้ก็ได้ดึงให้หมอ Med ไปดูคนไข้ที่หอศัลยกรรมกระดูกโดยไม่ต้องย้ายคนไข้ไปคนไข้มาระหว่างวอร์ดเหมือนที่เคยทำกัน เมื่อการตามดูพบว่า คนไข้หมิ่นเหม่ต่อการกลับไปถึงบ้านแล้วจะมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกลับมาใหม่ได้
ในเวลาต่อมา ฉันทิ้งห่างการติดตามเรื่องนี้ไปราวๆสัปดาห์หนึ่งด้วยไม่มีเวลาให้ได้ไปเดินเยี่ยมน้องป้อมเพื่อให้กำลังใจ จนกระทั่งมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นผ่านไปแล้วราวๆสัปดาห์ จึงตัดสินใจแบ่งเวลาหวนกลับมาติดตามผลที่น้องป้อมต่อ ตามแล้วเจออะไรอีกจะเล่าให้ฟังต่อไปค่ะ
บทเรียนสอนใจ :
การทำงานเป็นทีมให้เข้าขากันไม่ง่ายนักหรอก ระยะที่มีช่องว่างของการเชื่อมจำเป็นต้องสานระบบให้มองภาพฝันเห็นก่อน เห็นแล้วก็ลุยให้การสานเล็กๆเกิดขึ้นก่อน
การหาโอกาสให้คนได้มาเจอกันก่อน คือ การตั้งต้นสานระบบแล้วหละ
ระบบจะเกิดขึ้นในรูปแบบอย่างไรขึ้นกับโอกาสที่จะคว้าเอาสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามาสาน ไม่มีอะไรที่แน่นอนตามที่คิด และถ้าติดอยู่ที่จะให้แน่นอนตามที่คิด รอไปเหอะ ชาติหน้าก็ไม่รู้จะสานระบบสำเร็จมั๊ย
ก่อนลงมือสานระบบ ก็ต้องมีภาพฝันอยู่ในหัวซะก่อน แล้วลงมือลองสาน ลงมือแล้วจะรู้ว่า จะหมุนมุม จะหมุนเหลี่ยม จะหมุนด้านไหนขึ้นมาสานโครงร่างก่อน เพื่อให้เป็นจริง
จุดเริ่มต้นของการทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่ๆ ดูดี มีคุณค่า แค่เรื่องเล็กๆนิดเดียวที่เกี่ยวอยู่บ้าง ก็ทำให้เกิดความเป็นไปได้ของความหวัง
สวัสดีค่ะพี่หมอ
- ทำงานหนักจังค่ะ
- รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
สวัสดีครับพี่หมอ
แวะมาเยี่ยมครับ
หลายวันก่อนไปเดินป่ากับท่านผู้เฒ่าวอญ่าและคุณเอกมาครับ สนุกมาก
เมื่อวานไปแจมกับทีมงานคุณเอก-จตุพร ถอดบทเรียนการทำงานของทันตแพทย์ผู้นำ ที่อยุธยา
ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เยอะเลย คุณหมอแต่ละคนน่ารักมาก
สวัสดีครับ พี่หมอเจ๊
กำลังจะเอาแนวคิดสิ่งส่งมอบ ไปใช้กับคนไข้ MI ครับ
ถ้าสำเร็จจะมาเล่าให้ฟังบ้าง
หมอเจ๊ คนสวย
แวะมาเรียนรู้ค่ะ ถ้ามีหมอช่วยกระตุ้น ประสานให้ พยาบาลพวกเราสู้ๆๆๆๆๆๆๆเพราะว่าเป็นโรงพยาบาล (ฮิๆๆมิใช่โรงแพทย์ )
ดีใจแทนผู้รับผลงานทุกๆๆท่านที่ได้ทำงานร่วมกับหมอเจ๊