จากอัมพวา .. ถึงเพลินวาน ^___^ ภาค 3


ตื่นเช้ามาเล่าต่อจากเมื่อคืนนะคะ อิอิ ยังไปไม่ถึงตลาดน้ำอัมพวาเลย ผ่านไปถึง 2 ภาคซะแล้วววว 555 สงสัยงานนี้คงเป็นซีรี่ย์แน่ๆๆ 555

เมื่อคืนหนึ่งทิ้งคำถามไว้ที่รูปสลักบนเพดานทางเข้าโบสถ์วัดบางแคน้อยค่ะ ที่ ภาค 2  อิอิ

วัดบางแคน้อยตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง คุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์ เป็นผู้สร้างเมือ พ.ศ.2441 เดิมอุโบสถของวัดสร้างบนแพไม้ไผ่ผูกไว้กับต้นโพธิ์ ต่อมาพระอธิการรอด เจ้าอาวาสองค์ที่ 2 ได้สร้างอุโบสถบนพื้นดิน ในปี พ.ศ.2418 ต่อมาอุโบสถหลังเดิมได้ชำรุดทรุดโทรม พระอธิการเขียว เจ้าอาวาสองค์ที่ 6 ได้สร้างอุโบสถขึ้นใหม่ ใรปี พ.ศ.2492 จนกระทั่งปี พ.ศ.2540 อุโบสถหลังเดิมเกิดชำรุดอีก เนื่องจากขาดแคลนวัสดุและคุณภาพเพราะตอนสร้างอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พระครูสมุทรนันทคุณ (แพร) จึงได้ดำเนินการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น

การแกะสลักน่าสนใจ และหาดูได้ยาก เนื่องจากต้องใช้งบประมาณ เวลาและฝีมือการแกะสลักที่ปราณีต บรรจง โดยใช้ช่างที่มีความชำนาญ ไม้มะค่าโมงซึ่งใช้เป็นแท่นรองพระประธานมีขนาดใหญ่มาก คือกว้าง 2 เมตรครึ่ง ยาว 3 เมตร หนา 4 นิ้ว...ชุกชี (ฐานปูนสำหรับประดิษฐาน) พระประธาน เป็นไม้แกะสลักในทรงจอมแห....พื้นอุโบสถปูด้วยไม้ตะเคียนทอง หนา 2 นิ้ว กว้าง 40-44 นิ้ว....ฝาผนังพื้นเป็นไม้แกะสลัก หนา 3 นิ้ว แกะสลักเป็นรูปคน สัตว์ ต้นไม้ และแกะเสริม รวมหนาถึง 6 นิ้ว....ฝาผนังด้านตรงข้ามพระประธานเป็นไม้แกะสลักรูปปางชนะมาร....ฝาผนังด้านซ้าย ขวา ของพระประธานเป็นไม้แกะสลักรูปพระเจ้าสิบชาติ...ฝาผนังด้านหลังพระประธานเป็นไม้แกะสลัก การประสูติ ตรัสรู้ นิพพาน...ฝาผนังใต้ธรณีหน้าต่าง 2 ข้าง แกะสลักฝังด้วยไม้โมกมันรูปพระเวสสันดร.... จั่วด้านหน้าและหลังเป็นไม้แกะสลัก.... ด้านข้างทั้งสองเป็นคูหาหลงรักปิดทอง.... คันทวยเป็นไม้ลงรักปิดทอง

เดินออกมาจากโบสถ์มีเสียงตามสายเรียกให้ขึ้นไปที่ศาลาใกล้ๆกัน เป็นศาลาไม้ที่มีความงดงามมากเช่นกันค่ะ

ขึ้นไปพบว่ามีหุ่นขี้ผึ้งสมเด็จพระพุทธาจารย์ โต

และมีพระบรมสารีริกธาตุ

ซึ่งทุกคนที่มาจะขึ้นมากราบขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคลก่อนกลับค่ะ ที่นี่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างที่เราสังเกตเห็นคือ ตรงทางขึ้นนั้นจะมีกรวยแขวนอยู่และเขียนว่า "กรวดน้ำลอยฟ้า" ค่ะ เสียดายไม่ได้เก็บภาพมาให้ดู แหะๆ แต่เค้าเคยลงหนังสือพิมพ์ด้วยนะคะ ประมาณว่าเมื่อมาถวายสังฆทานเสร็จก็จะต้องมีกรวดน้ำ แต่ที่นี่ไม่ต้องลงไปกรวดน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ค่ะ ให้กรวดน้ำใส่ลงไปในกรวยที่เตรียมไว้ได้เลยเพราะเค้าต่อท่อลงไปถึงต้นไม้ใหญ่เรียบร้อยแล้วค่ะ

ต้นกฐินที่นี่ก็แปลกไม่เหมือนใครค่ะ เป็นรูปจรเข้ด้วยอ่ะ

ออกจากวัดบางแคน้อย เราไปกันต่อค่ะ แพลนไว้คือเป็นบ้านแมวไทย และอุทยาน ร.2 ระหว่างทางเจอสะพานแขวน สวยดี เลยขอแวะถ่ายรูปอีกแล้วค่ะ 555

ถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ

ไปแวะบ้านแมวไทย เป็นบ้านของคุณลุงกำนันปรีชาซึ่งมีแมวจำนวน 80 กว่าตัวเชียวค่ะ ที่นี่เป็นสถานที่อนุรักษ์พันธุ์แมวไทยโบราณเกิดจากการรวมตัวของเพื่อนที่นิยมเลี้ยงแมวไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์แมวไทยให้อยู่คู่กับประเทศไทยเป็นสมบัติของชาติตลอดไปและเพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องคุณสมบัติและลักษณะที่ถูกต้องของแมว สนับสนุนด้านการค้นคว้าวิจัย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมทั้งเพิ่มพูนความรู้ระหว่างสมาชิก แลกเปลี่ยนเรื่องและประสบการณ์การวิจัย การผสมพันธุ์กับองค์กรการเลี้ยงแมวที่เกี่ยวข้อง

คุณลุงปรีชาเล่าให้ฟังว่า แมวไทยแท้ๆสูญพันธุ์ไปตั้งแต่เสียกรุงครั้งที่ 2 เพราะเป็นแมวที่ประชาชนทั่วไปห้ามเลี้ยง จะเลี้ยงไว่เฉพาะในวังเท่านั้น เมื่อพม่าตีกรุงศรีอยธยาแตก ได้พาแมวไทยกลับไปด้วย ฝรั่งมาเห็นลักษณดี ฉลาด จึงนำมาผสมพันธุ์ ปัจจุบันจึงได้เป็นแมวลูกผสมค่ะ ไม่มีแมวไทยแท้ๆแล้ว

น้องแมวตัวนี้น่ารักมั้ยคะ ตาสองสีค่ะ

 แต่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ ซะแล้ว ฝนเร่มลงปรอยๆ พอมาถึงอุทยาน ร.2 ก็ตกหนักลงมาเลยค่ะ เลยไม่ได้แวะที่นี่เลย ค้างไว้ก่อน อิอิ จากนั้นเราเลยแวะทานข้าวและเข้าที่พักค่ะ เราเลือกที่พักคือบ้านนวลจันทร์โฮมสเตย์ค่ะ บ้านเป็นรูปสามเหลี่ยมน่ารักมากกกกกกกก เจ้าของบ้านก็น่ารักค่ะ

ถ่ายจากภายนอกบ้านค่ะ บ้านน่ารักอ่ะ ถูกใจมั่กๆ

รูปนี้เป็นห้องใต้หลังคาค่ะ ถ่ายย้อนแสงเนอะ

 

ห้องชั้นล่างค่ะ มี 2 เตียงใหญ่ๆ

จริงๆบ้านหลังนี้เค้าบอกว่านอนได้ 6 คน แต่เรามากันแค่ 3 คน ก็ยึดครองกันคนละเตียง อิอิ

น้องเจ้าของบ้านนวลจันทร์น่ารักมากๆค่ะ จะมีบริการรับส่งจากบ้านพักไปตลาดน้ำอัมพวา แล้วเมื่อเราต้องการจะกลับเมื่อไหร่โทรบอกเค้าจะมารับกลับบ้านพักค่ะ

พวกเราพักผ่อนกัน 2 ชั่วโมงค่ะ ก็ถึงเวลาเย็นพอดีตลาดน้ำอัมพวาเปิดแล้ว ออกไปกันเล้ย!!!

ผ้าใบบังแดดหน้าร้านเค้าเป็นแบบนี้เหมือนกันทุกร้านเลยค่ะ ชอบๆๆ อิอิ

เดินมาถึงบริเวณสถานีตำรวจพบรถคันนี้ ของใครมะรู้ อิอิ แต่น่ารักดี ขอถ่ายรูปด้วยซะเลย

เวลาเดินเที่ยวที่นี่รู้สึกปลอดภัยดีค่ะ อิอิ เพราะจะมีคุณตำรวจคอยเดินอยู่ทั่วๆไปด้วยค่ะ

วันนี้คนค่อนข้างเยอะค่ะ แต่ก็ยังคงพอเดินไหว บริเวณริมน้ำก็มีร้านค้าเยอะแยะมากมาย แต่ร้านที่เราต้องการไปคือร้านที่มีไอศครีมโรยพริกกะเกลือค่ะ หุหุหุ ดูในรายการตลาดสดสนามเป้าแล้วอยากพิสูจน์ว่ามันจะอร่อยจริงป่าว 555 จำชื่อร้านไม่ได้ แต่รู้ว่าอยู่ที่อัมพวานี่ล่ะ เราก็เข้ากันทุกร้านค่ะ มาเจอร้านนึงเป็นร้านขายน้ำมะเน็ดไทย อิอิ คิดถึงอดีตขึ้นมาทีเดียว

สีสวยๆงี้ไม่ถ่ายรูปไม่ได้แล้วค่ะ น้องคนขายน่ารักมากนอกจากจะให้พวกเราเข้าไปแอ๊คชั่นถ่ายรูปข้างในร้านได้แล้ว ยังให้น้องที่เรียนจบถ่ายภาพมา 4 ปี (น้องเค้าโฆษณามาว่างั้นนะคะ อิอิ) มาถ่ายรูปให้เราอีกต่างหากนะคะเนี่ย 555

เดินกันต่อค่ะ

ตุ๊กตาสลักชื่อน่ารักๆๆค่ะ

เดินมาอีกหน่อยที่ร้านขายเสื้อที่ระลึก เจอคนนี้ค่ะ

คุณทงทง น่ารักมากๆค่ะ

เดินกันจนหิว งั้นเราแวะทานข้าวก่อนค่ะ เจอร้านน่ารักๆร้านนึง เป็นร้านที่อยู่ข้างในร้านขายน้ำมะเน็ดน่ะค่ะ

และแล้วเราก็ค้นพบร้านไอศครีมที่ตามหาค่ะ อยู่ที่ร้านนี้นี่เอง มีตั้งหลายแบบนะคะ ดูเมนูด้านหลังได้เลยค่ะ

เมื่อมีหลายเมนูเราเลยเลือกชิมกันคนละเมนูค่ะ ของสามเป็นไอศครีมรสมะม่วง(เปรี้ยว)ราดน้ำปลาหวาน หนึ่งเป็นไอศครีมรสฝรั่ง โรยผงบ๊วย ส่วนรินทร์เป็นไอศครีมรสมะยม โรยพริกกะเกลือ รสชาดเป็นไง อร่อยมากค่ะ ไม่คิดว่ามันจะกินได้อ่ะค่า อิอิ คนทำเค้าช่างคิดเนอะ สุดยอดเลยค่ะ

นี่ค่ะ ร้านชื่อ "กำปั่น"

ทุกรูปที่ร้านนี้ถ่ายโดยน้องคนขายไอศครีมโรยพริกกะเกลือค่า ขอบคุณน้องนะคะที่ถ่ายรูปสวยๆให้พวกพี่ อิอิ

เมื่อเราอิ่มกันแล้วก็ไปลงเรือชมหิ่งห้อยกันเล้ย..

โชคดีมากที่วันนั้นมีหิ่งห้อยจำนวนมากมายเลยค่ะ สวยงามโรแมนติก อิอิ ส่วนใหญ่เค้าก็มากันเป็นคู่ๆเนอะ ทำให้พวกเราอิจฉาตาร้อนกันจนขนตาไหม้เลยเชียวค่า 555

ใช้เวลานั่งเรือชมหิ่งห้อยประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ กลับมาขึ้นฝั่งอีกทีก็สองทุ่มกว่าแล้ว ร้านค้าต่างๆเริ่มจะปิดลงแล้วค่ะ แต่เรายังคงบ้าพลังถ่ายรูปกันต่อไป อิอิ

หุหุหุ ดูเป็นหญิงไทยป่ะค้า

เดินมาหน่อยได้ยินเสียงเพลงเก่าๆสมัยสาวๆค่ะ ต้นเสียงคือที่ร้านนี้ค่ะ

อัมพวาฮาเฮ ชื่อร้านน่ารัก คนในร้านก็น่ารักค่ะ ^___^

แล้วเราก็เจอน้องอาราเร่ที่คิดถึงค่ะ อิอิ

เดินมาจนเกือบสุดทางแล้ว ตอนเรานั่งเรือเห็นร้านนี้ค่ะ น่ารักมากๆๆ ริมระเบียง (ไม่รู้เป็นร้าน หรือเป็นบ้าน แหะๆ เพราะตอนเรามาเค้าก็ปิดไปซะแล้วค่ะ)

กลายเป็นจิ้งจกกันไปซะงั้น 555

ร้านค้าเริ่มปิดกันเยอะแล้ว พวกเราเลยคิดว่าถึงเวลาต้องพักผ่อนซะแล้วเพราะพรุ่งนี้ยังมีโปรแกรมใส่บาตรทางน้ำอีกค่ะ จึงโทรเรียกน้องที่บ้านนวลจันทร์ รอไม่นานน้องเค้าก็มารับกลับที่พักค่ะ

บันทึกนี้ขอเล่าไว้แค่นี้ก่อนนะคะ เด๋วกลับมาเล่าต่อค่ะ ยังไม่จบแค่นี้นะคะ อิอิ

 

หมายเลขบันทึก: 308395เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2009 10:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อ้าววววววววววววว เลยบ้านพอลล่าไปแย้วววววววววววค่า อิอิ

อ้าว......ววววว

บ้านน้องพอลล่าอยู่ไหนอ่ะค้า

ไม่บอกกันเยยย พี่จะได้แวะบ้านน้องพอลล่าด้วยอ่ะค่า อิอิ

  • ว้าว...เห็นภาพแล้วอิจฉาสาวๆ
  • ท่าก็เก๋...หน้าก็ใส...ปิ๊งๆๆๆ
  • อุทยาน ร.2 อยู่ติดกับตลาดน้ำอัมพวาเลย  คุณพี่เคยไปเที่ยวมาแล้วค่ะ
  • ภาคนี้ชอบหลายภาพอ่ะ

นี่เลย...น้องหนึ่งกับน้องสาม...อ้าว..แล้วน้องสองหายไปไหนล่ะคะ

โห...ภาพนี้คิดท่าออกได้ไงคะ...เท่สุดๆ...ไว้พี่ลองเอาไปทำดูบ้าง อิอิ

ภาพนี้...สวยหวาน..เหมือนเจ้าสาว...อ้าว..แล้วเจ้าบ่าวไปไหน

เย้...ได้เจอธงธงด้วย...พี่น่ะเห่อดารามากกกก

ส่วนภาพนี้...น่ารักที่สุดค่ะน้องหนึ่ง

 

อุ๊ย!!! พี่ครูอรวรรณเล่นชมกันแบบนี้หนึ่งเขินแย่เลยค่า อิอิ ขอบคุณค่า หนึ่งลอยไปชนเพดานแล้วค่า ^____^

มีหนึ่งก็ต้องมีสองค่ะพี่ครูอรวรรณ ถึงจะมีสามตามมาได้ แต่ในทริปนี้สองไม่ได้ไปด้วยค่ะ สองทำงานที่หาดใหญ่ค่ะ

ภาพที่สะพานแขวนพี่ครูอรวรรณยืมท่าไปใช่ได้ค่า ไม่สงวนลิขสิทธิ์ อิอิ

ว่าแต่ภาพที่พี่ครูอรวรรณบอกว่าเหมือนเจ้าสาวเนี่ย แบบว่ายังหาเจ้าบ่าวไม่เจอค่า 555

ทริปนี้เจอทงทง ที่อัมพวา และเจอแพง ด้วยค่ะ (รินทร์บอกว่าแพงคนที่เคยเป็นแฟนฟลุค อ่ะค่ะ แต่หนึ่งไม่รู้จัก เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วย 555) พอมาที่เพลินวานก็เจอคุณหมอพรทิพย์อีกด้วยนะคะพี่ครูอรวรรณ

ภาพสุดท้ายดูเป็นหญิงไท๊ย ไทย ค่ะ อิอิ

ดีค่ะพี่

อัมพวา เคยไปแล้วค่ะแต่ยังม่ไปพัก ช่วยแนะนำที่พักดัๆๆๆให้หน้อยค่ะ จะถามต่อค่ะ อยู่สตูลไปเลินวานยังไงดีค่ะ ไม่ได้พารถไปค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพลอย

พี่ก็เพิ่งไปเที่ยวอัมพวาครั้งแรกค่ะ แหะๆ

ถ้าจะแนะนำที่พัก คงแนะนำที่ที่พี่ไปพักนี่ล่ะค่ะ

บ้านสามเหลี่ยมอย่างที่เห็นในรูปน่ารักมั่กๆค่ะ

แต่ว่าเป็นหลังใหญ่ พกได้ประมาณ 6 คนค่ะ

เจ้าของที่พักก็น่ารักมั่กๆ บริการดีเยี่มเลยค่ะ

ติดตรงที่อยู่ไกลนิดนึง แต่น้องเจ้าของที่พักก็มีรถมาส่งที่ตลาดอัมพวานะคะ

พอเราเดินกันจนเหนื่อย ก็โทรตามเค้ากจะมารับค่ะ สะดวกดีนะคะ

ส่วนเรื่องสตูลมาเพลินวาน ก็นั่งรถมาลงหัวหินได้เลยค่ะ

รถทัวร์ หรือรถไฟก็ได้ค่ะ แล้วมาเช่ามอ-ไซค์ขับเที่ยวในหัวหินค่ะ

ปล.อย่าลืมจองที่พักล่วงหน้านะคะ เผื่อมาแล้วไม่มีที่พักจะลำบากอ่ะค่า

เดินทางปลอดภัย มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะคะ น้องพลอย ^___^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท