วิธีระบบ ( System Approach)


ระบบ คือ ภาพส่วนรวมของโครงสร้างหรือของขบวนการอย่างหนึ่งที่มีการจัดระเบียบความสัมพันธ์

วิธีระบบ ( System Approach)

                   ระบบ คือ ภาพส่วนรวมของโครงสร้างหรือของขบวนการอย่างหนึ่งที่มีการจัดระเบียบความสัมพันธ์

ระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ ที่รวมกันอยู่ในโครงการหรือขบวนการนั้น

                   ระบบ  เป็นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทีใช้ในการวางแผนและดำเนินการต่าง ๆ  เพื่อให้บรรลุผล

ตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ วิธีการระบบมีองค์ประกอบที่สำคัญ 4 ประการ คือ 

                   1. ข้อมูลวัตถุดิบ ( Input )

                   2. กระบวนการ ( Process)

                   3. ผลผลิต ( Output )

                   4. การตรวจผลย้อนกลับ ( Feedback)

                องค์ประกอบทั้ง 4 ส่วนนี้ จะมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน

วิธีการระบบที่ดี  จะต้องเป็นการจัดสรรทรัพยากร  ที่มีอยู่มาใช้อย่างประหยัด  และเหมาะสมกับ

สภาพแวดล้อมและสถานการณ์ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุเป้าหมายที่วางไว้  ถ้าระบบใดมีผลผลิตทั้งในด้านปริมาณ และคุณภาพมากกว่าข้อมูล
วัตถุดิบที่ป้อนเข้าไป ก็ถือได้ว่าเป็นระบบ ที่มีคุณภาพในทางตรงข้ามถ้าระบบมีผลผลิต
ที่ต่ำกว่าข้อมูลวัตถุดิบที่ไปใช้ ก็ถือว่าระบบนั้นมีประสิทธิภาพต่ำ

ลักษณะสำคัญของวิธีระบบ 

                   1. เป็นการทำงานร่วมกันเป็นคณะของบุคคลที่เกี่ยวข้องในระบบนั้น ๆ

                   2. เป็นการแก้ปัญหาโดยการใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์

                   3. เป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหมาะสม

                   4. เป็นการแก้ปัญหาใหญ่ โดยแบ่งออกเป็นปัญหาย่อย ๆ เพื่อสะดวกในการแก้ปัญหาอันจะเป็นผลให้

แก้ปัญหาใหญ่ได้สำเร็จ

                   5. มุ่งใช้การทดลองให้เห็นจริง

                   6. เลือกแก้ปัญหาที่พอจะแก้ไขได้และเป็นปัญหาเร่งด่วนก่อน

องค์ประกอบของระบบ

1. สิ่งที่ป้อนเข้าไป ( Input )  หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการ หรือโครงการต่างๆ

เช่น ในระบบการเรียนการสอนในชั้นเรียน อาจได้แก่ ครู นักเรียน ชั้นเรียน หลักสูตร ตารางสอน วิธีการสอน

เป็นต้น

                   2. กระบวนการหรือการดำเนินงาน ( Process) หมายถึง การนำเอาสิ่งที่ป้อนเข้าไป  มาจัดกระทำให้

เกิดผล บรรลุตามวัตถุประสงค์  ที่ต้องการ  เช่น การสอนของครู หรือการให้นักเรียนทำกิจกรรม เป็นต้น

                   3. ผลผลิต หรือการประเมินผล (Output) หมายถึง ผลที่ได้จากการกระทำในขั้นที่สอง ได้แก่

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หรือผลงานของนักเรียน เป็นต้น 

                   ผลที่ได้จากการกระทำในขั้นที่สอง การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) การวิเคราะห์ระบบ เป็น

วิธีการนำเอาผลที่ได้ ซึ่งเรียกว่า ข้อมูลย้อนกลับ (Feed Back) จากผลผลิต หรือการประเมินผล  มาพิจารณา

ปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ระบบ ( System Analysis )

                   การกระทำหลังจากผลที่ได้ออกมาแล้ว เป็นการปรับปรุงระบบการทำงาน ให้มีประสิทธิภาพขึ้น

ข้อมูลที่ได้จากการประเมินผลและมาใช้แก้ไขข้อบกพร่องในส่วนต่าง ๆ หรือ การดูข้อมูลย้อนกับ ( Feedback )

ดังนั้นการนำข้อมูลย้อนกลับ มาใช้ในการวิเคราะห์ระบบ  จึงเป็นส่วนสำคัญของวิธีระบบ ( System Approach)

ซึ่งจะขาดองค์ประกอบนี้ไม่ได้  มิฉะนั้นจะไม่ก่อให้เกิดการแก้ปัญหาได้ตรงเป้าหมาย และการปรับปรุง ที่มี

ประสิทธิภาพ

ขั้นตอนของการวิเคราะห์ระบบ

                   1. ปัญหา (Identify Problem)

                    2.จุดมุ่งหมาย (Objectives)

                   3. ศึกษาข้อจำกัดต่าง ๆ (Constraints)

                   4. ทางเลือก (Alternatives)

                   5. การพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสม (Selection)

                   6. การทดลองปฏิบัติ (Implementation)

                   7. การประเมินผล (Evaluation)

                   8. การปรับปรุงแก้ไข (Modification)

ขั้นตอนของการวิเคราะห์ระบบ ( System Analysis) ประกอบด้วย 8 ขั้นตอน ดังนี้

                   ขั้นที่ 1 ขั้นตั้งปัญหาหรือกำหนดปัญหา ในขั้นนี้ต้องศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อนว่าอะไรคือปัญหา

ที่ควรแก้ไข

                   ขั้นที่ 2 ขั้นกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์เพื่อการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ว่าจะให้ได้ผลในทางใด  มี

ปริมาณและคุณภาพเพียงใด ซึ่งการกำหนดวัตถุประสงค์นี้ควรคำนึงถึงความสามารถในการปฏิบัติและออกมา

ในรูปการกระทำ

                   ขั้นที่ 3 ขั้นสร้างเครื่องมืดวัดผล การสร้างเครื่องมือนี้ จะสร้างหลังจากกำหนดวัตถุประสงค์แล้ว และ

ต้องสร้างก่อนการทดลองเพื่อจะได้ใช้เครื่องมือนี้ วัดผลได้ตรงตามเวลาและเป็นไปทุกระยะ

                   ขั้นที่ 4 ค้นหาและเลือกวิธีการต่างๆที่จะใช้ดำเนินการไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ควรมองด้วยใจกว้างขวาง

และเป็นธรรม หลาย ๆแง่ หลาย ๆ มุม พิจารณาข้อดีข้อเสียตอลดจนข้อจำกัดต่าง ๆ

                   ขั้นที่ 5 เลือกเอาวิธีที่ดีที่สุดจากขั้นที่ 4 เพื่อนำไปทดลองในขั้นต่อไป

                   ขั้นที่ 6 ขั้นปฏิบัติ เมื่อเลือกวิธีการใดแล้วก็ลงมือปฏิบัติตามวิธีการนั้น การทดลองนี้ควรกระทำกับ

กลุ่มเล็ก ๆ ก่อนถ้าได้ผลดีจึงค่อยขยายการปฏิบัติงาน ให้กว้างขวางออกไป จะได้ไม่เสียแรงงาน เวลาและเงิน

                   ขั้นที่ 7 ขั้นการวัดผลและประเมินผลเมื่อทำการทดลองแล้วก็นำเอาเครื่องมือวัดผลที่สร้างไว้ในขั้นที่ 3

มาวัดผลเพื่อนำผลไปประเมินดูว่า ปฏิบัติงานสำเร็จตามเป้าหมายเพียงใด  ยังมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง จะได้นำไป

ปรับปรุงแก้ไข

                   ขั้นที่ 8 ขั้นการปรับปรุงและขยายการปฏิบัติงาน จากการวัดผลและประเมินผลในขั้นที่ 7 ก็จะทำให้เรา

ทราบว่าการดำเนินงานตามวิธีการที่แล้วมานั้นได้ผลตามวัตถุประสงค์หรือไม่เพียงใดจะได้นำมาแก้ไข ปรับปรุง

จนกว่าจะได้ผลดี จึงจะขยายการปฏิบัติหรือยึดถือเป็นแบบอย่างต่อไป

ลักษณะของระบบที่ดี  ระบบที่ดีต้องสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ( Efficiency)  และมีความยั่งยืน

(sustainable) ต้องมีลักษณะ 4 ประการคือ 

                   1. มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ( interact with environment )

                   2. มีจุดหมายหรือเป้าประสงค์ ( purpose)

                   3. มีการรักษาสภาพตนเอง (self-regulation)

                   4. มีการแก้ไขตนเอง ( self-correction )

                   1. ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ( interact with environment )

                         ระบบทุก ๆ ระบบจะมีปฏิสัมพันธ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งกับโลกรอบ ๆตัว ของระบบโลกรอบ ๆ ตัว

นี้ เรียกว่า "สิ่งแวดล้อม" การที่ระบบมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมนี้เองทำให้ระบบดังกล่าวกลายเป็น ระบบเปิด

(Open system) กล่าวคือ ระบบจะรับปัจจัยนำเข้า (inputs ) จากสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจจะเป็นพลังงาน อาหาร ข้อมูล

ระบบจะจัดกระทำเปลี่ยนแปลงปัจจัยนำเข้านี้ให้เป็นผลผลิต (output) แล้วส่งกลับไปให้สิ่งแวดล้อมอีกที่หนึ่ง

                   2. จุดหมายหรือเป้าประสงค์ ( purpose) ระบบจะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน แน่นอนสำหรับตัวของ

มันเอง ระบบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ระบบการดำเนินชีวิตของมนุษย์นั้น ก็มีจุดมุ่งหมาย สำหรับตัวของระบบเอง อย่างชัดเจนว่า  "เพื่อรักษาสภาพการมีชีวิตไว้ให้ได้ให้ดีที่สุด"

3. การรักษาสภาพตนเอง (self-regulation) ระบบสามารถรักษาสภาพของตัวเอง ให้อยู่ในลักษณะที่

คงที่อยู่เสมอ การรักษาสภาพตนเองทำได้โดยการแลกเปลี่ยน Input และ Output กันระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ

ของระบบ หรือระบบย่อย  ตัวอย่าง ที่เห็นได้ชัดเจน คือ ระบบย่อยอาหารของร่างกายมนุษย์  ซึ่งประกอบด้วย

องค์ประกอบย่อย ๆ หรือระบบย่อยต่างๆ เช่น ปาก น้ำย่อย น้ำดี หลอก อาหาร กระเพาะอาหาร ฯลฯ 

                   4. มีการแก้ไขตนเอง ( self-correction ) ลักษณะที่ดีของระบบ คือ มีการแก้ไข และปรับตัวเองในการ

ที่ระบบมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมบางครั้งปฏิสัมพันธ์นั้นก็จะทำให้ระบบการรักษาสภาพตัวเอง ต้องย่ำแย่

ไป ระบบก็ต้องมีการแก้ไขและปรับตัวเองเสียใหม่ ตัวอย่างเช่น การปฏิสัมพันธ์ระหว่างร่างกายกับอากาศหนาว

(สภาพแวดล้อม) อาจจะทำให้เกิดอาการหวัดขึ้นได้ ในสถานการณ์นี้ ถ้าระบบร่างกายไม่สามารถ ที่จะรักษา

สภาพตัวเองได้อย่างดี  ร่างกายก็จะต้องสามารถที่จะปรับตัวเอง  เพื่อที่จะต่อสู้กับอาการหวัดนั้น  โดยการผลิต

ภูมิคุ้มกันออกมาต้านหวัด

ระบบเปิดและระบบปิด

                   1. ระบบเปิด (Open System) คือ ระบบที่รับปัจจัยนำเข้า จากสิ่งแวดล้อม และขณะเดียวกันก็ส่ง

ผลผลิตกลับไปให้สิ่งแวดล้อมอีกครั้งหนึ่ง ตัวอย่างระบบเปิดทั่ว ๆ ไป เช่น ระบบสังคม ระบบการศึกษา ระบบ

หายใจ ฯลฯ

                   2. ระบบปิด ( Close System ) คือ ระบบที่มิได้รับปัจจัยนำเข้าจากสิ่งแวดล้อม หรือรับปัจจัยนำเข้าจาก

สิ่งแวดล้อมน้อยมาก แต่ขณะเดียวกันระบบปิดจะผลิต Output ให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย เช่นระบบของถ่านไฟฉาย 

หรือระบบแบตเตอรี่ต่าง ๆ ตัวถ่านไฟฉายหรือแบตเตอรี่นั้นถูกสร้างขึ้นมาให้มีไฟฟ้าสะสมอยู่ในตัว ภายในก็มี

ระบบย่อยอีกหลายระบบ ที่ทำงานสัมพันธ์กันอย่างดี สามารถให้พลังงานไฟฟ้าออกมาได้  โดยที่ไม่ได้รับปัจจัย

ภายนอกเข้ามาเลย ระบบปิดจะมีอายุสั้นกว่าระบบเปิด เนื่องจากระบบปิดนั้นทำหน้าที่เพียงแต่เป็น"ผู้ให้"เท่านั้น

วิธีระบบที่นำมาใช้ในการสอน  ประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้

                   1. การประเมินความจำเป็น

                   2. การเลือกทางแก้ปัญหา

                   3. การตั้งจุดมุ่งหมายทางการสอน

                   4. การวิเคราะห์งานและเนื้อหาที่จำเป็นต่อผลสัมฤทธิ์ตามจุดมุ่งหมาย

                   5. การเลือกยุทธศาสตร์การสอน

                   6. การลำดับขั้นตอนของการสอน

                   7. การเลือกสื่อ

                   8. การจัดหรือกำหนดแหล่งทรัพยากรที่จำเป็น

                   9. การทดสอบ และ/หรือ ประเมินค่าประสิทธิภาพของแหล่งทรัพยากรเหล่านั้น

                   10. การปรับปรุงแก้ไขแหล่งทรัพยากรจนกว่าจะเกิดประสิทธิภาพ

                   11. การเดินตามวัฎจักรของกระบวนการทั้งหมดซ้ำอีก

ระบบการเรียนการสอน

                   ระบบการเรียนการสอน คือ การจัดองค์ประกอบของการเรียนการสอน ให้มีความสัมพันธ์กัน  เพื่อ

สะดวกต่อการนำไปสู่จุดหมายปลายทางของการเรียนการสอนที่ได้กำหนดไว้

องค์ประกอบของระบบการเรียนการสอน 

                   ระบบการเรียนการสอนประกอบด้วยส่วนย่อยๆ ต่าง ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวพันธ์กันและกัน ส่วนที่สำคัญ

คือ  กระบวนการเรียนการสอน ผู้สอนและผู้เรียน 

                   ยูเนสโก ( UNESCO ) ได้เสนอรูปแบบขององค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนไว้  โดยมี

องค์ประกอบ 6 ส่วน คือ

                   1. องค์ประกอบของการสอนจะประกอบด้วย ผู้สอน ผู้เรียน สื่อ การเรียนการสอน วิธีสอนซึ่งทำงาน

ประสานสัมพันธ์กัน อันจะเป็นพาหะหรือแนวทางผสมกลมกลืนกับเนื้อหาวิชา

                   2. กิจกรรมการเรียนการสอน จะต้องมีสื่อการเรียนการสอนและแหล่งที่มาของสื่อการเรียนการสอน

เหล่านั้น

                   3. ผู้สอนต้องหาแนวทาง แนะนำช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีที่สุด

                   4. การเสริมกำลังใจ การจูงใจแก่ผู้เรียน นับว่ามีอิทธิพลต่อการที่จะเสริมสร้างความสนใจ ให้การเรียน

การสอนมีคุณภาพ

                   5. การประเมินผล ผลที่ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพโดยการประเมินทั้งระบบ เพื่อดูว่าผลที่ได้นั้นเป็น

อย่างไร  เป็นการนำข้อมูล ข้อเท็จจริงมาเปรียบเทียบกับประสิทธิผลของระบบ เพื่อการแก้ไขปรับปรุงต่อไป

                   6. ผลที่ได้รับทั้งประเมินเพื่อประเมินผลในการปรับปรุง  และเปรียบเทียบกับการลงทุนในทาง

การศึกษาว่า   เป็นอย่างไร นอกจากนี้ บุญชม ศรีสะอาด ได้กล่าวถึงองค์ประกอบของระบบการเรียนการสอน

ได้แก่ ตัวป้อน กระบวนการ และผลิต

1. ตัวป้อน ( Input ) หรือ ปัจจัยนำเข้าระบบ  คือ ส่วนประกอบต่างๆ ที่นำเข้าสู่ระบบได้แก่ ผู้สอน

ผู้สอน ผู้เรียน หลักสูตร สิ่งอำนวยความสะดวก

                         1.1 ผู้สอน หรือครู เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้การเรียนการสอนบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ 

ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณลักษณะหลายประการได้แก่คุณลักษณะด้านพุทธิพิสัย เช่น ความรู้ ความสามารถ ความรู้จำแนก

เป็นความรู้ในเนื้อหาสาระที่สอน ความรู้ในเทคนิคการสอนต่าง ความตั้งใจในการสอน ฯลฯ

                         1.2 ผู้เรียน  ผู้เรียนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในระบบการเรียนการสอน ซึ่งจะบรรลุผลสำเร็จ

ได้ย่อมขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของผู้เรียนหลายประการ เช่น ความถนัด ความรู้พื้นฐานเดิม ความพร้อมความสนใจ

และความพากเพียรในการเรียน ทักษะในการเรียนรู้ ฯลฯ

                         1.3 หลักสูตร  หลักสูตรเป็นองค์ประกอบหลักทีจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ หลักสูตร

ประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน 4 ประการ คือ

                                - วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 

                                - เนื้อหาสาระที่เรียน 

                                - กิจกรรมการเรียนการสอน (รวมวิธีสอนและสื่อการเรียนการสอน)

                                - การประเมินผล

                         1.4 สิ่งอำนวยความสะดวก อาจเรียกอีกอย่างว่า "สิ่งแวดล้อมการเรียน" เช่น ห้องเรียน สถานที่

ซึ่งประกอบด้วยโต๊ะ เก้าอี้ แสดงสว่าง ฯลฯ

                   2. กระบวนการ ( Process ) 

                         2.1 ในระบบการเรียนการสอนก็คือ การดำเนินการสอนซึ่งเป็นการนำเอาตัวป้อนเป็นวัตถุดิบใน

ระบบมาดำเนินการเพื่อให้เกิดผลผลิตตามที่ต้องการ ในการดำเนินการสอน อาจมีกิจกรรมต่างๆ หลายกิจกรรม

ได้แก่ การตรวจสอบและเสริมพื้นฐาน การสร้างความพร้อมในการเรียน การใช้เทคนิคการสอนต่าง ๆ  และอาจ

ใช้กิจกรรมเสริม การตรวจสอบและเสริมพื้นฐาน เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้สอนรู้จักผู้เรียนและได้ข้อสนเทศที่มาใช้

ช่วยเหลือผู้เรียนที่ยังขาดพื้นฐานที่จำเป็นก่อนเรียนให้ได้มีพื้นฐานที่พร้อมที่จะเรียนโดยไม่มีปัญหาใด ๆ

                         2.2 การสร้างความพร้อมในการเรียน เมื่อเริ่มชั่วโมงเรียน โดยทั่วไปแล้ว จะมีผู้เรียนที่ยังไม่พร้อม

ที่จะเรียน เช่น พูดคุย  คิดถึงเรื่องอื่นๆ ฯลฯ ถ้าผู้สอนเริ่มบรรยายไปเรื่อยๆอาจไม่ได้ผลตามที่ต้องการโดยเฉพาะ

ในช่วงต้นชั่วโมงนั้น  จึงควรดึงความสนใจของผู้เรียนให้เข้าสู่การเรียนโดยเร็ว ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น ใช้คำถาม

ใช้สื่อ โสตทัศนูปกรณ์ ช่วยเร้าความสนใจ หรือยกเรื่องที่เกี่ยวข้องมาเล่าให้ นักเรียนฟัง ในการสร้างความพร้อม

ไม่ควรใช้เวลามากเกินไป น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที และทำทุกครั้งที่สอน เมื่อพบว่าผู้เรียนยังไม่พร้อม

                         2.3 การใช้เทคนิคการสอนต่างๆ ควรทำการสอนโดยใช้เทคนิค วิธีการ และกิจกรรมต่าง ๆ หลาย ๆ

วิธีการใช้กิจกรรมเสริม วิธีสอนแต่ละวิธีหรือรูปแบบการสอนแต่ละรูปแบบจะมีกิจกรรมแตกต่างกันไป  ผู้สอน

ควรพิจารณากิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเสริมกับวิธีสอน เช่น การให้ทำแบบฝึกหัด การให้การเสริมแรง การใช้คำถาม

ชนิดต่าง ๆ การทบทวนสรุป เป็นต้น

ระบบการเรียนการสอน

                   ระบบการเรียนการสอน คือ การจัดองค์ประกอบของการเรียนการสอน ให้มีความสัมพันธ์กัน  เพื่อ

สะดวกต่อการนำไปสู่จุดหมายปลายทางของการเรียนการสอนที่ได้กำหนดไว้

องค์ประกอบของระบบการเรียนการสอน 

                   ระบบการเรียนการสอนประกอบด้วยส่วนย่อยๆ ต่าง ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวพันธ์กันและกัน ส่วนที่สำคัญ

คือ  กระบวนการเรียนการสอน ผู้สอนและผู้เรียน 

                   ยูเนสโก ( UNESCO ) ได้เสนอรูปแบบขององค์ประกอบของระบบการเรียนการสอนไว้  โดยมี

องค์ประกอบ 6 ส่วน คือ

                   1. องค์ประกอบของการสอนจะประกอบด้วย ผู้สอน ผู้เรียน สื่อ การเรียนการสอน วิธีสอนซึ่งทำงาน

ประสานสัมพันธ์กัน อันจะเป็นพาหะหรือแนวทางผสมกลมกลืนกับเนื้อหาวิชา

                   2. กิจกรรมการเรียนการสอน จะต้องมีสื่อการเรียนการสอนและแหล่งที่มาของสื่อการเรียนการสอน

เหล่านั้น

                   3. ผู้สอนต้องหาแนวทาง แนะนำช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ที่ดีที่สุด

                   4. การเสริมกำลังใจ การจูงใจแก่ผู้เรียน นับว่ามีอิทธิพลต่อการที่จะเสริมสร้างความสนใจ ให้การเรียน

การสอนมีคุณภาพ

                   5. การประเมินผล ผลที่ออกมาอย่างมีประสิทธิภาพโดยการประเมินทั้งระบบ เพื่อดูว่าผลที่ได้นั้นเป็น

อย่างไร  เป็นการนำข้อมูล ข้อเท็จจริงมาเปรียบเทียบกับประสิทธิผลของระบบ เพื่อการแก้ไขปรับปรุงต่อไป

                   6. ผลที่ได้รับทั้งประเมินเพื่อประเมินผลในการปรับปรุง  และเปรียบเทียบกับการลงทุนในทาง

การศึกษาว่า   เป็นอย่างไร นอกจากนี้ บุญชม ศรีสะอาด ได้กล่าวถึงองค์ประกอบของระบบการเรียนการสอน

ได้แก่ ตัวป้อน กระบวนการ และผลิต

1. ตัวป้อน ( Input ) หรือ ปัจจัยนำเข้าระบบ  คือ ส่วนประกอบต่างๆ ที่นำเข้าสู่ระบบได้แก่ ผู้สอน

ผู้สอน ผู้เรียน หลักสูตร สิ่งอำนวยความสะดวก

                         1.1 ผู้สอน หรือครู เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้การเรียนการสอนบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ 

ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณลักษณะหลายประการได้แก่คุณลักษณะด้านพุทธิพิสัย เช่น ความรู้ ความสามารถ ความรู้จำแนก

เป็นความรู้ในเนื้อหาสาระที่สอน ความรู้ในเทคนิคการสอนต่าง ความตั้งใจในการสอน ฯลฯ

                         1.2 ผู้เรียน  ผู้เรียนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในระบบการเรียนการสอน ซึ่งจะบรรลุผลสำเร็จ

ได้ย่อมขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของผู้เรียนหลายประการ เช่น ความถนัด ความรู้พื้นฐานเดิม ความพร้อมความสนใจ

และความพากเพียรในการเรียน ทักษะในการเรียนรู้ ฯลฯ

                         1.3 หลักสูตร  หลักสูตรเป็นองค์ประกอบหลักทีจะทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ หลักสูตร

ประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน 4 ประการ คือ

                                - วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 

                                - เนื้อหาสาระที่เรียน 

                                - กิจกรรมการเรียนการสอน (รวมวิธีสอนและสื่อการเรียนการสอน)

                                - การประเมินผล

                         1.4 สิ่งอำนวยความสะดวก อาจเรียกอีกอย่างว่า "สิ่งแวดล้อมการเรียน" เช่น ห้องเรียน สถานที่

ซึ่งประกอบด้วยโต๊ะ เก้าอี้ แสดงสว่าง ฯลฯ

                   2. กระบวนการ ( Process ) 

                         2.1 ในระบบการเรียนการสอนก็คือ การดำเนินการสอนซึ่งเป็นการนำเอาตัวป้อนเป็นวัตถุดิบใน

ระบบมาดำเนินการเพื่อให้เกิดผลผลิตตามที่ต้องการ ในการดำเนินการสอน อาจมีกิจกรรมต่างๆ หลายกิจกรรม

ได้แก่ การตรวจสอบและเสริมพื้นฐาน การสร้างความพร้อมในการเรียน การใช้เทคนิคการสอนต่าง ๆ  และอาจ

ใช้กิจกรรมเสริม การตรวจสอบและเสริมพื้นฐาน เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้สอนรู้จักผู้เรียนและได้ข้อสนเทศที่มาใช้

ช่วยเหลือผู้เรียนที่ยังขาดพื้นฐานที่จำเป็นก่อนเรียนให้ได้มีพื้นฐานที่พร้อมที่จะเรียนโดยไม่มีปัญหาใด ๆ

                         2.2 การสร้างความพร้อมในการเรียน เมื่อเริ่มชั่วโมงเรียน โดยทั่วไปแล้ว จะมีผู้เรียนที่ยังไม่พร้อม

ที่จะเรียน เช่น พูดคุย  คิดถึงเรื่องอื่นๆ ฯลฯ ถ้าผู้สอนเริ่มบรรยายไปเรื่อยๆอาจไม่ได้ผลตามที่ต้องการโดยเฉพาะ

ในช่วงต้นชั่วโมงนั้น  จึงควรดึงความสนใจของผู้เรียนให้เข้าสู่การเรียนโดยเร็ว ซึ่งทำได้หลายวิธี เช่น ใช้คำถาม

ใช้สื่อ โสตทัศนูปกรณ์ ช่วยเร้าความสนใจ หรือยกเรื่องที่เกี่ยวข้องมาเล่าให้ นักเรียนฟัง ในการสร้างความพร้อม

ไม่ควรใช้เวลามากเกินไป น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที และทำทุกครั้งที่สอน เมื่อพบว่าผู้เรียนยังไม่พร้อม

                         2.3 การใช้เทคนิคการสอนต่างๆ ควรทำการสอนโดยใช้เทคนิค วิธีการ และกิจกรรมต่าง ๆ หลาย ๆ

วิธีการใช้กิจกรรมเสริม วิธีสอนแต่ละวิธีหรือรูปแบบการสอนแต่ละรูปแบบจะมีกิจกรรมแตกต่างกันไป  ผู้สอน

ควรพิจารณากิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเสริมกับวิธีสอน เช่น การให้ทำแบบฝึกหัด การให้การเสริมแรง การใช้คำถาม

ชนิดต่าง ๆ การทบทวนสรุป เป็นต้น

3. ผลผลิต ( Output ) 

                         ผลผลิต คือ ผลที่เกิดขึ้นในระบบ ซึ่งเป็นเป้าหมายปลายทางของระบบ  สำหรับระบบการเรียน

การสอนผลผลิตที่ต้องการก็คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนไปในทางที่พึงประสงค์ เป็นการพัฒนาที่ดี

ในด้าน 

                         -พุทธิพิสัย ( Cognitive ) 

                         -จิตพิสัย ( Affective )

                         -ทักษะพิสัย ( Psychomotor ) 

                   4. การติดตามผล ประเมินผล และปรับปรุง   เพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ 

ผู้สอนจะต้องพิ

หมายเลขบันทึก: 308383เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2009 09:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 16:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท