อันเนื่องมาจากบันทึกนี้ มีผู้สนใจอยากฟังเรื่องราวอันน่าตื่นเต้น จริงๆ มันก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผม แต่สำหรับคนอื่นๆ จะเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบครับ..
เริ่มเรื่อง...ขากลับกลับจากระยอง เรามาเข้าทางด่วนหมายเลข ๗ มอเตอร์เวย์ตรงทางจะเข้าเมืองชลบุรี โดยมีผมเป็นพลขับหรือที่พวกเด็ก (ซึ่งมีความฝันอย่างน้อยให้ได้ขึ้นเครื่องบินสักครั้ง มากกว่าการจะได้เป็นนักบิน) สมมุติให้เป็นกัปตัน
เราผ่านด่านพานทองมาและเลยจุดบริการนักท่องเที่ยวบนทางหลวงมาแล้ว กัปตัน beeman ชักอาการไม่ดี เพราะมีปัญหากับระบบย่อยอาหาร
สองอย่างนี้เป็นตัวกระตุ้น ทำให้ระบบย่อยอาหารของผมทำงานผิดปรกติ by pass สารอาหารอย่างเร็ว ไม่ยอมดูดซึมสารที่มีประโยชน์ในลำไส้เล็กตอนกลางและตอนปลาย รวมทั้งลำไส้ใหญ่ก็ไม่ยอมดูดซึมน้ำกลับเข้าระบบหมุนเวียนโลหิต
เป็นผลทำให้พะอืดพะอม และดูเหมือนว่าจะมีข้าศึกลอบโจมตีทางประตูหลัง (เป็นศัพท์ของใครก็ไม่รู้) ตอนนี้มันก็ยุ่งแล้วละครับ เพราะระยะทางระหว่างด่านพานทองกับด่านลาดกระบังห่างกันประมาณ ๓๒ กิโลเมตร
กัปตัน beeman เกิดอาการกล้ามเนื้อแขนขาเกร็งทนกับทุกขเวทนา ครั้นจะจอดข้างทางมันก็ดูมืด และไม่ปลอดภัย แล้วรถบนทางด่วนก็ขับกันเร็วมาก
และแล้วก็ทนมาได้ถึงด่านลาดกระบังขาเข้า เข้าไปช่อง ๔ จ่ายเงิน ๓๐ บาท แล้วถามพนักงานซึ่งกำลังจะเปลี่ยนกะตอน ๑ ทุ่มว่า "มีห้องน้ำไหม" พนักงานตอบว่าฝั่งนี้ไม่มี มีแต่ฝั่งขาออก ให้ขับรถไปชิดขอบทางด้านขวาแล้วเปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้
ผมขับรถชิดขอบทางด้านขวาไปจอดที่ด้านตรงข้ามกับ Office ของด่าน ซึ่งอยู่ห่างจากสะพานลอยข้ามถนนของพนักงานไปราวๆ ๑๐๐ เมตร...ผมต้องเดินย้อนมา ๑๐๐ เมตรเพื่อมาขึ้นสะพานลอยและต้องเดินไปอีก ๑๐๐ เมตรเพื่อไปถึง Office ในเวลาที่เร่งด่วนอย่างนั้น
ไปถามรปภถึงห้องน้ำพนักงาน และก็ขออนุญาตไปใช้บริการ ห้องน้ำมีอยู่ ๒ ห้อง สภาพค่อนข้างชำรุด ดูแตกต่างราวฟ้ากับดินเมื่อเทียบกับห้องน้ำผู้บริหาร นึกได้ว่านี่แหละคือการแบ่งชนชั้นวรรณะในประเทศไทยอย่างหนึ่ง
เรื่องภายในห้องดับทุกข์หรือเรียกให้โก้แบบตรงกันข้ามว่า "ห้องสุขา" (ภิรมย์) คงไม่ต้องเล่าครับ..เป็นอันว่าเสร็จภาระกิจก็กลับมาตามทางเดิม เดินมา ๑๐๐ เมตร มาขึ้นสะพานลอยแล้วก็กลับมาที่รถ
มาถึงรถอาการยังไม่หายดี รู้สึกว่าข้าศึกยังไม่ยอมถอย บุกมาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ก็ดูท่าทางจะจริงจังกว่าเดิม จึงออกจากรถอีกครั้งปีนเกาะกลางถนนข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง บอกรปภถึงเป้าหมายอีกครั้ง....
กลับมาที่รถรอบสองตามทางเดิม (ปีนเกาะข้ามถนน) รวมเวลาที่จอดรถฉุกเฉิน ๓๐ นาทีพอดี..นี่แหละครับเหตุการณ์ตื่นเต้นที่จะต้องจดจำเอาไว้..กัปตันบีแมนกับ flight 337 (flight 337 ดูไม่มีความหมายอะไร ตั้งชื่อให้โก้โก้ไว้อย่างนั้นเองแหละครับ)
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้มองเห็นความจำเป็นของการมีพนักงานขับรถสาธารณะสำรอง และกัปตันเครื่องบินมือสอง หากว่าเกิดความเหตุการณ์ที่เจ็บป่วยกระทันหันหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดกับมือหนึ่งนั่นเอง
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์ |
เรียน ท่าน BeeMan สุขภาพกาย กับการขับรถ ทิ้งกันไม่ได้ ครับ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ JJ
555
สวัสดีค่ะ อ.บีแมน เรื่องราวแบบนี้ตื่นเต้นจริง ๆ ด้วยค่ะ
อ.สบายดีนะคะ รักษาสุขภาพนะคะ อ.
ปล.เมื่อวันก่อนโอโทรหา อ. ช่วงค่ำ ไม่รับสาย
ที่แท้ก็เตรียมตัวไปเที่ยวนี่เอง อิอิ
อ่านแล้วก็เห็นภาพ
เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นจริงๆด้วย
สวัสดีโอ
เรียน ท่านอุบล
เรียนท่านบัวชูฝัก