หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ภาพลวงตา.....ความคิดลวงใจ


บางทีเราก็ไม่รู้ตัวว่าเรากำลังเรียน และในขณะที่กำลังเรียน ครูก็อยู่ตรงหน้า และในบางครั้งตัวเราเองนะแหละที่เป็นครูของตัวเอง ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเมื่อพูดถึงการเรียน ความคิดจะหลอกตัวเองเสมอว่าต้องไปโรงเรียน เพราะที่โรงเรียนมีครูคอยรอสอนอยู่ แล้ววัยของเราก็ไม่ใช่นักเรียนแล้วด้วย เรื่องเรียนเป็นเรื่องของเด็กๆเท่านั้น ความคิดอย่างนี้จะไม่เรียกว่าลวงใจแล้วจะให้เรียกว่าอะไร

ตื่นเช้าวันนี้ด้วยสภาพหัวฟูอย่างนี้  หัวฟู 

เมื่อพาตัวลงมาถึงข้างล่าง  ลูกชายกับสามีนั่งคอยกันอยู่แล้วอย่างนี้     

ส่วนลูกสาวนั้นยังเล่นอยู่บนที่นอนอย่างนี้

หิวแล้วเธอก็พาตัวลงมาอาบน้ำ เธอไม่ได้อาบน้ำอย่างนี้หรอก 

อาบน้ำ  โปรดอย่าเข้าใจผิดนะ 

เสร็จแล้วก็ออกไปกินข้าวเช้าด้วยกัน   แล้วก็ไม่ได้กินจนเลอะตัวอย่างนี้ด้วย 

ระหว่างกินข้าวเช้าก็มีเรื่องดีๆให้เรียนรู้ เรียนจากการเห็นเหตุการณ์ค่ะ

นั่งๆอยู่คนในร้านก็บอกว่านั่นไง ขบวนกฐินพระราชทานมาแล้ว เพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรกอีกแล้วนะนี่

ได้เห็นแล้วก็กลับมาทวนความคิด อืม เป็นหมอที่มีโลกแคบจริงๆ ไม่ใคร่รู้อะไรที่เป็นเรื่องธรรมดาๆเท่าไรเลย  มัวแต่เรียนอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ ทีเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตและสังคมง่ายๆสั้นๆอย่างนี้กลับไม่รู้เลย

อิ่มท้องแล้วก็กลับมาบ้าน วันนี้ตั้งใจกันว่า สองแม่ลูกจะทำกับข้าวกินด้วยกัน เปิดดูในตู้เย็นหาดูว่ามีอะไรทำกินกันได้ ตามประสาแม่บ้านสมัยใหม่

เจอเนื้อปลาที่สามีนำมาแช่แข็งไว้ในทัปเปอร์แวร์  ยอดผักคะน้าใช้ผัดกินได้ แถมยังมีผักแว่นและใบแมงลักไว้กินเป็นผักเคียงด้วย

ปลาที่สามีเอามาแช่ ตัวใหญ่ไม่เบาเชียวแหละ ส่วนใหญ่ปลาใหญ่กลิ่นจะคาว ทำยังไงไม่ให้คาวดีนะ นึกไปเรื่อยมีอะไรให้ใช้ได้มั่ง

แล้วก็หาเจออุปกรณ์สามสี่อย่างที่อยากจะลองใช้ดู อยากจะรู้ว่าจะได้ความรู้ใหม่อะไรไหม

ที่หลังบ้านมีต้นมะกรูดสูงขนาดเท่าเอวอยู่ต้นหนึ่ง เป็นต้นที่ติดตากับกิ่งมะนาวมาก่อนปลูก เมื่อมาปลูกทั้งกิ่งมะนาวและกิ่งมะกรูดก็แตกกอพร้อมกัน ไม่ตัดกิ่งมะนาวทิ้งไปหรอก ทั้งๆที่ลูกของมันไม่มีน้ำให้ได้ใช้ เก็บไว้งั้นตั้งใจเอามา้ใช้กลิ่นของใบมัน สูดดมแล้วกลิ่นสดชื่นจมูกดี แถมไม่เปลืองใบมะกรูดด้วย

วันนี้ว่าจะลองใช้สูตรน้ำล้างมือ และสูตรต้มยำ มาลองลดกลิ่นคาวปลาดู

เก็บใบมะนาวมาฉีกเป็นฝอยๆอย่างนี้

แล้วก็คลุกกับเนื้อปลาที่ละลายน้ำแข็งแล้ว

คลุกจนใบมะนาวช้ำนิ่ม แล้วล้างออกด้วยน้ำ 1 ครั้ง

ล้างแล้วลองดมดู กลิ่นคาวลดลงไปแฮะ กลิ่นโชยไม่แรงมากเหมือนตอนแรก

แต่ว่ากลิ่นคาวยังอยู่นี่นา ทีนี้ถึงตาลองสูตรต้มยำแล้ว

ในบ้านมีตะไคร้อยู่ราวสิบต้น หยิบเอามาหั่นเป็นฝอยใช้งานดีกว่า

ใส่ตะไคร้หั่นฝอยคลุกซ้ำกับเนื้อปลาอีกรอบอย่างนี้

หลังคลุกแล้วดมดูกลิ่นคาวซ้ำ ไม่โชยเท่าไรแล้วแฮะ

ใช้ได้นะวิธีที่ลองไปนี้ แต่ถ้าให้ดีอย่าเพิ่งเชื่อหมดใจ

ลองดูต่อล้างด้วยน้ำเกลืออีกครั้ง  ได้ที่แล้วก็เอาไปทอดในกระทะที่มีน้ำมันร้อน

กลิ่นที่โชยระหว่างทอดหอมหวลชวนกินไม่น้อยเลย

ยังหรอกยัง ยังไม่เชื่อว่าสูตรที่เอามาลองนั้นใช้ได้ดี   เมื่อลิ้มรสชาดของมันแล้วก็พบว่า

เนื้อที่อยู่ตรงแกนกลางๆตัวและส่วนท้องหมดคาวอย่างหมดจด

สองคนชวนกันกินเหลือแค่นี้เอง

อร่อยจริง เชื่อหรือยังครับท่านว่าหมดคาวแล้ว

การที่เชื่อให้ถามตัวเองก่อนนะคะ ว่าทำไมเชื่อง่ายอย่างที่เชื่อไปแล้ว

อันที่จริงมีส่วนที่ไม่ได้กินเข้าไปด้วย เป็นส่วนของเนื้อที่อยู่ใกล้ครีบหลังซึ่งมีสีเข้มกว่าทุกส่วน ไม่ได้กิน ให้ไก่แจ้ที่หลังบ้านช่วยกินค่ะ เพราะว่าเป็นส่วนที่ยังเหลือกลิ่นคาวแรงอยู่แม้จะสุกแล้ว  เจ้าไก่แจ้สองตัวที่หลังบ้านก็เลยอิ่มท้องไป

กินแล้วก็มานั่งค้นเน็ตดูว่า มีคำแนะนำให้ดับคาวอย่างไรไว้บ้าง มีอะไรที่เหมือนและต่างจากที่ลองทำดูด้วยตัวเอง

ก็พบว่า บ้างแนะให้แช่น้ำส้มสายชูครึ่งชั่วโมง  บ้างก็แนะให้ใช้เกลือโรยเนื้อปลา บ้างก็แนะใช้แป้งมันคลุกแล้วล้างออก  บ้างก็ให้ใส่ผักคึ่นช่ายลงไปทอดด้วย บ้างก็ให้ใส่มะนาวผ่าซีกลงไปคลุก 

ใครเคยลองอย่างวิธีไหนบ้าง นำมาบอกมาแลกเปลี่ยนกันดู จะได้นำไปใช้ในครัว ทำอาหารให้อร่อยสมใจไง

อ่านแล้วรู้หรือยังว่า ทำไมบันทึกนี้ จึงให้ชื่อว่า ภาพลวงตา ความคิดลวงใจ...อิอิ

18 ตค.2552

หมายเลขบันทึก: 306736เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2009 16:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีคะ ชอบทอดปลาเองคะ เพราะได้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ปลาจะโรยเกลือก่อนคะ และน้ำมันร้อนได้ที่ ทุบตระไคร้ หั่น ใบมะกรูด ใบเตยลงไปทอดด้วยคะ จะหอมมาก ๆ

  • น้องไก่ ประกาย~natachoei ที่~natadee ค่ะ
  • การไปสวนป่าหลายครั้ง  ทำให้ตัวพี่ได้ประสบการณ์  กับกลิ่นคาวของปลาน้ำจืด
  • แล้วพี่ก็มาพบว่ากลิ่นคาวปลาทะเล คาวกว่ามากมาย กินขาดหลายเท่า
  • ..............
  • พี่ยังไม่เคยได้กลิ่น ปลาน้ำจืดตัวใหญ่ๆ ขนาดปลาบึก หรือปลาอื่นค่ะ
  • ..............
  • เคยทอดปลาทะเลมาบ่อย และมักจะมีปัญหา กับกลิ่นคาวของมัน ทำให้เนื้อปลาอร่อยๆ ไม่น่าอร่อยเมื่อลงมือกิน
  • ..............
  • วิธีที่น้องใช้นั้นที่กระบี่เขาใช้กับปลาน้ำจืดค่ะน้อง มีเห็นเขาใช้ขมิ้นสด ทุบๆให้แหลกใส่ลงไปด้วย
  • ..............
  • วันนี้ที่ครัวบ้านพี่ ไม่มีขมิ้น ก็เลยไม่ได้ใช้มัน
  • ..............
  • ทำอย่างที่ทำวันนี้ รู้สึกว่าพี่ไม่ต้องใช้ไฟแรงเพื่อดับกลิ่นปลาค่ะ

โอ้โห...คุณแม่ทำอาหารเอง...

ต้องอร่อยมากๆ แน่นอนเพราะดูจากที่เหลืออยู่...อิอิ

ขอบคุณค่ะพี่หมอเจ๊...มีความสุขกับครอบครัวในวันหยุดค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • นึกถึงภาพคุณหมอ..เข้าครัว  หัวฟูหรือเปล่าค่ะ
  • วันนี้ได้รับการบริการจากน้องปู ท่านอัยการ คุณแอ็ด น้องนิว
  • น้องเนต์ตามมาทีหลัง  สองคนพี่น้องให้ตุกตากับน้องนัท...อุ้มไม่ยอมปล่อย
  • จะกลับพรุ่งนี้เวลา ๕ โมงเย็นค่ะ
  • ขอขอบพระคุณในความกรุณาของคุณหมอค่ะ

สวัสดีครับ คุณหมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ

ช่างเป็นวิธีการทอดปลาที่ดีอีกวิธีนะครับ

แต่ที่บ้านผม เห็นแม่ใช้เกลือโรยลงไปบนตัวปลาเลย แล้วก็ทอดครับ

อันนี้ก็อร่อยเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะอร่อยเท่าวิธ๊นี้หรือเปล่านะครับ อิอิ...

ขอบคุณมากครับ

  • น้อง เทพ ค่ะ
  • ส่วนใหญ่ก็จะทำอย่างที่คุณแม่น้องทำค่ะ
  • แต่มีบางครั้งที่ได้กลิ่นปลาสดแล้ว
  • ซาวเกลือ(ภาษาใต้หมายถึงคลุกเกลือ) แล้วทอดเลยก็ยังคาว
  • หรือแกงทันทีที่ได้มาเนื้อก็มีกลิ่นคาว
  • ตอนหลังสังเกตจากกลิ่นตอนยังสดๆ
  • เลยรู้ว่ากลิ่นแรงจะคาวมาก ถ้าไม่ทำอะไรซะก่อน
  • คราวนี้จึงค้นหาวิธีจัดการหากว่าจะทอดกินค่ะ
  • ขอบคุณนะคะที่แวะมาคุยกัน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท