ตื่นเช้าวันนี้ด้วยสภาพหัวฟูอย่างนี้
เมื่อพาตัวลงมาถึงข้างล่าง ลูกชายกับสามีนั่งคอยกันอยู่แล้วอย่างนี้
ส่วนลูกสาวนั้นยังเล่นอยู่บนที่นอนอย่างนี้
หิวแล้วเธอก็พาตัวลงมาอาบน้ำ เธอไม่ได้อาบน้ำอย่างนี้หรอก
โปรดอย่าเข้าใจผิดนะ
เสร็จแล้วก็ออกไปกินข้าวเช้าด้วยกัน แล้วก็ไม่ได้กินจนเลอะตัวอย่างนี้ด้วย
ระหว่างกินข้าวเช้าก็มีเรื่องดีๆให้เรียนรู้ เรียนจากการเห็นเหตุการณ์ค่ะ
นั่งๆอยู่คนในร้านก็บอกว่านั่นไง ขบวนกฐินพระราชทานมาแล้ว เพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรกอีกแล้วนะนี่
ได้เห็นแล้วก็กลับมาทวนความคิด อืม เป็นหมอที่มีโลกแคบจริงๆ ไม่ใคร่รู้อะไรที่เป็นเรื่องธรรมดาๆเท่าไรเลย มัวแต่เรียนอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ ทีเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตและสังคมง่ายๆสั้นๆอย่างนี้กลับไม่รู้เลย
อิ่มท้องแล้วก็กลับมาบ้าน วันนี้ตั้งใจกันว่า สองแม่ลูกจะทำกับข้าวกินด้วยกัน เปิดดูในตู้เย็นหาดูว่ามีอะไรทำกินกันได้ ตามประสาแม่บ้านสมัยใหม่
เจอเนื้อปลาที่สามีนำมาแช่แข็งไว้ในทัปเปอร์แวร์ ยอดผักคะน้าใช้ผัดกินได้ แถมยังมีผักแว่นและใบแมงลักไว้กินเป็นผักเคียงด้วย
ปลาที่สามีเอามาแช่ ตัวใหญ่ไม่เบาเชียวแหละ ส่วนใหญ่ปลาใหญ่กลิ่นจะคาว ทำยังไงไม่ให้คาวดีนะ นึกไปเรื่อยมีอะไรให้ใช้ได้มั่ง
แล้วก็หาเจออุปกรณ์สามสี่อย่างที่อยากจะลองใช้ดู อยากจะรู้ว่าจะได้ความรู้ใหม่อะไรไหม
ที่หลังบ้านมีต้นมะกรูดสูงขนาดเท่าเอวอยู่ต้นหนึ่ง เป็นต้นที่ติดตากับกิ่งมะนาวมาก่อนปลูก เมื่อมาปลูกทั้งกิ่งมะนาวและกิ่งมะกรูดก็แตกกอพร้อมกัน ไม่ตัดกิ่งมะนาวทิ้งไปหรอก ทั้งๆที่ลูกของมันไม่มีน้ำให้ได้ใช้ เก็บไว้งั้นตั้งใจเอามา้ใช้กลิ่นของใบมัน สูดดมแล้วกลิ่นสดชื่นจมูกดี แถมไม่เปลืองใบมะกรูดด้วย
วันนี้ว่าจะลองใช้สูตรน้ำล้างมือ และสูตรต้มยำ มาลองลดกลิ่นคาวปลาดู
เก็บใบมะนาวมาฉีกเป็นฝอยๆอย่างนี้
แล้วก็คลุกกับเนื้อปลาที่ละลายน้ำแข็งแล้ว
คลุกจนใบมะนาวช้ำนิ่ม แล้วล้างออกด้วยน้ำ 1 ครั้ง
ล้างแล้วลองดมดู กลิ่นคาวลดลงไปแฮะ กลิ่นโชยไม่แรงมากเหมือนตอนแรก
แต่ว่ากลิ่นคาวยังอยู่นี่นา ทีนี้ถึงตาลองสูตรต้มยำแล้ว
ในบ้านมีตะไคร้อยู่ราวสิบต้น หยิบเอามาหั่นเป็นฝอยใช้งานดีกว่า
ใส่ตะไคร้หั่นฝอยคลุกซ้ำกับเนื้อปลาอีกรอบอย่างนี้
หลังคลุกแล้วดมดูกลิ่นคาวซ้ำ ไม่โชยเท่าไรแล้วแฮะ
ใช้ได้นะวิธีที่ลองไปนี้ แต่ถ้าให้ดีอย่าเพิ่งเชื่อหมดใจ
ลองดูต่อล้างด้วยน้ำเกลืออีกครั้ง ได้ที่แล้วก็เอาไปทอดในกระทะที่มีน้ำมันร้อน
กลิ่นที่โชยระหว่างทอดหอมหวลชวนกินไม่น้อยเลย
ยังหรอกยัง ยังไม่เชื่อว่าสูตรที่เอามาลองนั้นใช้ได้ดี เมื่อลิ้มรสชาดของมันแล้วก็พบว่า
เนื้อที่อยู่ตรงแกนกลางๆตัวและส่วนท้องหมดคาวอย่างหมดจด
สองคนชวนกันกินเหลือแค่นี้เอง
อร่อยจริง เชื่อหรือยังครับท่านว่าหมดคาวแล้ว
การที่เชื่อให้ถามตัวเองก่อนนะคะ ว่าทำไมเชื่อง่ายอย่างที่เชื่อไปแล้ว
อันที่จริงมีส่วนที่ไม่ได้กินเข้าไปด้วย เป็นส่วนของเนื้อที่อยู่ใกล้ครีบหลังซึ่งมีสีเข้มกว่าทุกส่วน ไม่ได้กิน ให้ไก่แจ้ที่หลังบ้านช่วยกินค่ะ เพราะว่าเป็นส่วนที่ยังเหลือกลิ่นคาวแรงอยู่แม้จะสุกแล้ว เจ้าไก่แจ้สองตัวที่หลังบ้านก็เลยอิ่มท้องไป
กินแล้วก็มานั่งค้นเน็ตดูว่า มีคำแนะนำให้ดับคาวอย่างไรไว้บ้าง มีอะไรที่เหมือนและต่างจากที่ลองทำดูด้วยตัวเอง
ก็พบว่า บ้างแนะให้แช่น้ำส้มสายชูครึ่งชั่วโมง บ้างก็แนะให้ใช้เกลือโรยเนื้อปลา บ้างก็แนะใช้แป้งมันคลุกแล้วล้างออก บ้างก็ให้ใส่ผักคึ่นช่ายลงไปทอดด้วย บ้างก็ให้ใส่มะนาวผ่าซีกลงไปคลุก
ใครเคยลองอย่างวิธีไหนบ้าง นำมาบอกมาแลกเปลี่ยนกันดู จะได้นำไปใช้ในครัว ทำอาหารให้อร่อยสมใจไง
อ่านแล้วรู้หรือยังว่า ทำไมบันทึกนี้ จึงให้ชื่อว่า ภาพลวงตา ความคิดลวงใจ...อิอิ
18 ตค.2552
สวัสดีคะ ชอบทอดปลาเองคะ เพราะได้ใช้น้ำมันที่ใหม่ ปลาจะโรยเกลือก่อนคะ และน้ำมันร้อนได้ที่ ทุบตระไคร้ หั่น ใบมะกรูด ใบเตยลงไปทอดด้วยคะ จะหอมมาก ๆ
โอ้โห...คุณแม่ทำอาหารเอง...
ต้องอร่อยมากๆ แน่นอนเพราะดูจากที่เหลืออยู่...อิอิ
ขอบคุณค่ะพี่หมอเจ๊...มีความสุขกับครอบครัวในวันหยุดค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ คุณหมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
ช่างเป็นวิธีการทอดปลาที่ดีอีกวิธีนะครับ
แต่ที่บ้านผม เห็นแม่ใช้เกลือโรยลงไปบนตัวปลาเลย แล้วก็ทอดครับ
อันนี้ก็อร่อยเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะอร่อยเท่าวิธ๊นี้หรือเปล่านะครับ อิอิ...
ขอบคุณมากครับ