เมื่อสัปดาห์ก่อนเกือบทั้งสัปดาห์ ท้องฟ้าอึมคลึม ฝนทำท่าว่าจะตกก็ไม่ตก มองไม่เห็นดวงอาทิตย์เกือบตลอดวัน บางวันจึงจะโผล่มาตอนเย็นมากๆ เมฆสวยๆจึงไม่มีมาอวดโฉมให้เห็น
วันจันทร์ อังคาร ที่ผ่านมา (๑๒-๑๓ ต.ค.) แสงแดดเริ่มจับขอบฟ้าให้เห็นแต่เช้าตรู่ (ดวงอาทิตย์คงจะกลัวต้นไม้และสรรพชีวิตเฉา อิ อิ) ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีฟ้าใส เมฆกลุ่มต่างๆเริ่มแข่งกันประชันโฉม คงจะอั้นไว้นาน ก็ลูกพี่เล่นไม่ยอมส่องแสงเลยนี่ ลูกน้องจะออกมาสวยได้อย่างไร อดไม่ได้ค่ะที่จะรีบกดชัตเตอร์ ถ้าขืนช้าเธอก็จะกระจายตัวหายไปคนละทิศละทาง (ที่เรียกว่าหายเข้ากลีบเมฆ)
ภาพนี้ปรับความเข้มของแสงจากหน้ากล้องให้เข้มขึ้น เพราะรู้สึกว่าถ่ายภาพเมฆครั้งใดจะจืดสนิท ถ่ายภาพเวลา ๑๘.๐๐ น. วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ต.ค.๕๒
ด้านมุมบนซ้ายมือคล้ายใบหน้าคน ส่วนตรงกลางคล้ายๆนิ้วมือ
ภาพนี้ตรงส่วนกลางคล้ายๆคนก้มหน้าฟุบไปกับแขนทั้งสองข้าง
เริ่มมีเค้าฝน
ภาพข้างบนทั้งหมดถ่ายภาพจากบ้านสวน
กลุ่มเมฆที่เจดีย์วัดภูเขาทองพระนครศรีอยุธยา
กลุ่มเมฆด้านบนคล้ายๆใบบัวหรือดอกเห็ด ช่วงเดินทางกลับจากพระนครศรีอยุธยา ใกล้จะถึงบ้านแล้ว ภาพจริงๆสวยมาก แต่คนขับรถขับเร็วมาก จึงถ่ายมาไม่ค่อยชัด(เย็นวันพุธที่๑๔ ต.ค ๕๒)
เมฆยามเย็นที่บ้านสวน ยืนถ่ายภาพริมสระน้ำค่ะ
เมฆยามเย็นริมฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี ณ วัดแก้วพิจิตร
นาฏลีลา บนท้องฟ้า งามมากมาย ขอบคุณค่ะ
ชอบภาพเมฆยามเย็นริมแม่น้ำปราจีนบุรี
ในอดีตสมัยเป็นเด็กๆเวลาที่ผมมีปัญหาผมชอบนั่งมองท้องฟ้า
ดูก้อนเมฆ เอาใจใส่เมฆล่องลอยเรื่อยเปื่อยแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง
ขอบพระคุณมากที่ทำให้ได้มีโอกาสทบทวนความสุขในอดีต
ขอบพระคุณค่ะคุณpoo มีความสุขในทุกๆวันนะคะ