วันที่สองนั้นอะไรต่ออะไรก็ดูเหมือนว่าจะ "ลงตัว"
แต่อึดอัดอย่างเดียวว่า "ไม่ถ่ายท้อง"
ส่วนวันที่สามนั้นอะไรต่ออะไรก็ดูเหมือนว่าจะ "ลงตัว" แต่เริ่ม
"เมาหัว" เพราะต้องถ่ายท้องถึงสามครั้ง
เมื่อวานนี้ (๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๒) แดดแรงตั้งแต่เช้า ไอ้เราก็ดันถ่ายท้องหลายครั้งก็เลยเดินตุ้มปั๊ด ตุ้มเป๋ไปพอสมควร...
พอถึงช่วงบ่ายสามก็ต้องเริ่ม
"เมาหัว" อีกครั้งเพราะ "ฝนตก"
เรื่อง "เมาหัว" เพราะฝนตกนี้ไม่เกี่ยวกับการ Detox หรอกนะ
แต่ทว่างานที่ช่างเขาทำไว้ ปูนที่ผสมไว้ กับปูนที่เทลงไปแล้วจะ
"เละเทะ" หมด เสียเวลา "เสียของ..."
ตก ๆ หยุด ๆ จะตกก็ไม่ตกซะทีเดียว ตกไป ตกไปซะอย่างนั้น...
เมื่อวานนี้ตอนเย็นประมาณ ๑๘.๐๐ น.
ก็มีกิจกรรมเพิ่มนิดหน่อยเนื่องจากเป็น "วันพระ"
ทุกเย็นวันพระกับวันโกนที่จะนี่จะมีการ "อบยาสมุนไพร"
ตามหลัก ตามข้อวัตร ข้อปฏิบัติแล้ว
ท่านบัญญัติไว้ว่าให้มี "เรือนไฟ"
คือห้องอบยาสมุนไพรเพื่อขับถ่ายของเสียจากผิวหนังโดยผ่าน "เหงื่อ"
ได้
เมื่อวานเดินผ่านใจก็คิดขึ้นมาแว๊บหนึ่งว่า เอ่...
ถ้าเราเสียเหงื่อมากไปจะเป็นอะไรไหมนี่...?
แต่ว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้
ก็เลยไปอบยากับเขาหน่อย
ยาสมุนไพรที่นี้ก็ประกอบด้วย ใบกระเพรา ข่า ตระไคร้
สมุนไพรพื้นบ้านจำพวกนี้ต้มใส่กระทะแล้วก็ปล่อยไอน้ำเข้าไปในห้องที่ปิดมิดชิด
เราเข้าไปอบสองรอบ รวมเวลาได้ประมาณ ๑๕ นาที ก็สบายดี ไม่เป็นอะไร
"สบาย ๆ"
เจ้าน้ำผึ้งนี่ก็ให้พลังงานและสารอาหารได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เสียอย่างเดียว "ออกแดด" ไปทำงาน "แบกหาม" มากไม่ได้ก็แค่นั้น
สำหรับวันที่สี่นี้จะต้องมีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อย
เนื่องจาก "ใบไม้ร้องเพลง"
กับเพื่อนที่เป็นสุภาพบุรุษ จะนำพาเราไปตรวจสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
"ตรวจเลือด" เพราะหาผล Lab เป็นการตรวจสอบค่าต่างของเลือดใน "ระหว่าง"
การล้างพิษด้วยน้ำมะนาวนี้
ตอนนี้เราก็งดน้ำ (อาหารไม่ต้องเพราะงดอยู่แล้ว) มาตั้งแต่เวลาสี่ทุ่ม ก็นัดกันไว้ว่าน่าจะไปถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตประมาณ 10.00 น. กว่าจะตรวจเสร็จก็น่าจะเที่ยง
ก็สบาย ๆ นะ อดจน "ชิน" แล้ว
แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนหัวสมองคงคิดไปโน่น ไปนี่
อดอย่างนี้ไม่ดีจะเป็นโรคกระเพาะ จะหิว จะ "ตาย"
อะไรแบบนี้...
อ้อ...แล้วก็การดื่มน้ำมะนาวในช่วงเช้านี้กับยาระบายก็ต้องงดไปโดยปริยาย คงจะกลับมาดื่มได้อีกทีก็คงจะหลังกลับจาก "โรงพยาบาล..." (ที่มาจากบันทึก การล้างพิษด้วยน้ำมะนาว : AAR วันที่ 2)
ป.ล. เมื่อวานนี้ตอนเย็นคุณแม่ชีคั้น "น้ำอ้อยสด" มาให้ ก็เลยได้ทดลองสูตรน้ำอ้อยผสมน้ำมะนาว สูตรนี้ดื่มง่าย ง่ายกว่าน้ำผึ้งอีก คือ ลื่นคอมากกว่า ส่วนปฏิกิริยาจากน้ำตาลที่ได้จากน้ำอ้อยนั้น เมื่อสังเกตุดูจากร่างกายแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างจากน้ำผึ้ง เพียงแค่ดื่มง่ายกว่าเท่านั้น...
นมัสการเจ้าค่ะ
มาติดตามการล้างพิษค่ะ
แต่เป็นการย้อนอ่านไปหาต้นเรื่อง
แล้วจะย้อนกลับอีกที
ก่อนตัดสินใจทดลองด้วยตัวเอง
ขอบพระคุณค่ะ
โอ้สูตรอบสมุนไพร น่าสนใจเจ้าค่ะ
ท่าทางจะช่วยขับพิษได้ดีทีเดียว
อืม
สุภาพบุรุษผู้นี้ ท่านเมตตาหนูมากเจ้าค่ะ
มาแบบไม่หวังอะไร ไม่รู้อะไร
ท่านเหมือนมาสอนหนูเรื่องความไว้วางใจ
แอบแซวท่านเพราะเหมือนเป็น ลาบลอย
เอะ ต้องเรียกว่า บุญลอยเจ้าค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ