โรงเรียนป(ล)าฏิหาริย์ – Schools of Fish! - ครูเพื่อศิษย์ในบริบทฝรั่ง
บทสรุปแห่งความประทับใจจากหนังสือ
"โรงเรียนป(ล)าฏิหาริย์" – Schools of Fish!
โดย
ฟิลิป สแตรนด์ จอห์น คริสเตนเซ่น แอนดี้ ฮาลเปอร์
แปลโดย
จิระนันท์ พิตรปรีชา
สนพ. ยูเรก้า ราคา 450 บาท หนา 206 หน้า
ผมตั้งใจอ่านเล่มนี้เป็นเล่มสุดท้าย ของหนังสือซีรีส์ “ฟิช – FISH!”
ซึ่งประกอบไปด้วย
Fish , Fish Tales และ Catch (ทั้งสามเล่มมีแปลเป็นไทยหมดแล้ว)
อันเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนมากมาย
ที่มีที่มาจากตลาดปลา Pike Place Fish ในเมือง Seattle สหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะเป็นตลาดปลาเล็กๆ แต่กลับมีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วโลก
ที่หน้าปกหนังสือเล่มนี้มีตัวหนังสือตัวเล็กๆ ประโยคหนึ่งเขียนไว้ว่า
“ขอต้อนรับกลับสู่ไออุ่นและคุณค่าของอาชีพครู”
เมื่ออ่านพบก็คิดแย้งในใจว่า เราไม่ใช่ครูนี่นา จะมามัวเสียเวลาอ่านทำไม
แต่ที่ปกหลัง ดร. วรากรณ์ สามโกเศศ อดีต รมช.ศึกษา ได้เขียนคำนิยมบางตอนว่า
...เมื่อพ่อแม่คือครูคนแรกของลูก ดังนั้นจึงเป็นหนังสือที่จำเป็นต้องอ่านสำหรับพ่อแม่ไปโดยปริยาย...
ตัวผมในฐานะพ่อลูกสองจึงจำเป็นต้องอ่านไปโดยปริยายเช่นกัน
แต่เมื่ออ่านจบแล้วก็ต้องบอกต่อว่า
ไม่ผิดหวัง และไม่เสียเวลา กับหนังสือที่มีคุณค่าเช่นนี้
ถึงแม้ท่านจะไม่ได้เป็นครู และยังไม่มีลูก ก็ควรอ่าน
เมื่ออ่านจบผมเกิดความรู้สึก อยากเป็น “ครู” ขึ้นมาในบัดดล
จะได้มีโอกาสทำอะไรดีๆ เหมือนบรรดา “ครูปลายิ้ม” กับเขาบ้าง
อยากอย่างที่สองคือ อยากหาโรงเรียนป(ล)าฏิหาริย์ แบบนี้ให้ลูกๆ ได้เรียนบ้าง
คิดว่ามันคงน่าสนุก น่าเรียน และมีความสุขมากในโรงเรียนแบบนี้
ผมมีความเชื่อส่วนตัวมานานแล้วว่า เด็กนั้นสามารถเรียนรู้เรื่องอะไรก็ได้ ตราบใดที่เขารู้สึกสนุกกับมัน
หนังสือเล่มนี้ บอกเล่าเรื่องราวแห่งความสำเร็จของบรรดา ครูน้อย ครูใหญ่
ที่พยายามนำปรัชญาปลายิ้ม ไปใช้ในห้องเรียน ในโรงเรียน แล้วประสบความสำเร็๋จ
เรื่องราวทั้งมวลในหนังสือ ตอกย้ำ ความสำเร็จของปรัชญาปลายิ้ม 4 ข้อ คือ
-
Be There -- การอยู่ตรงนั้น (อยู่กับปัจจุบัน)
-
Play -- การเล่น (ให้เรียนอย่างสนุกสนาน)
-
Make Their Day -- การสร้างสรรค์วันดี (ให้กับคนรอบข้าง)
-
Choose Your Attitude -- การเลือกทัศนคติ (ว่าอยากมีความสุข หรือทุกข์)
ทั้ง 4 องค์ประกอบนี้ ต่างส่งเสริมกัน เพื่อสร้างสรรค์ ห้องเรียนในอุดมคติ รวมไปถึงที่ทำงานในอุดมคติ ที่ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ ใส่ใจซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในการใช้ชีวิตร่วมกัน
ไม่น่าเชื่อว่า ด้วยสิ่งง่ายๆ นี้จะทำให้เหล่าเด็กๆ “เหลือขอ” กลายเป็นเด็กฉลาด และมีความรับผิดชอบได้ ผสมผสานกับศิลปะของการ “ให้เกียรติ” และ “ยอมรับ” ที่บรรดาครูปลายิ้มมอบให้ นักเรียนก็จะบรรลุถึง “ความศรัทธาในตัวเอง” ได้
และเมื่อนั้น ศักยภาพแห่งการเรียนรู้ขั้นสูงสุดก็จะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อทุกคนต่าง “เรียนรู้ร่วมกัน”
.....
ลองหามาอ่านดูนะครับ
จะได้สัมผัสกับบรรยากาศ "ครูเพื่อศิษย์" ใน Version ฝรั่งดูบ้าง
ได้อารมณ์ไปอีกแบบครับผม
ความเห็น (18)
สวัสดีครับ ซวง รวดเร็วทันใจ ว่องไวปานตา แวะไปพาดพิงไว้ที่บ้าน อาจารย์ ขจิต ว่าอยากกินอาหารสมองของน้องซวง
ขอบคุณมากที่นำอาหารสมองมาบริการ ยามสมองว่างอาหาร (อาหารสมองยามดึก)
สวัสดีครับ ท่านผู้เฒ่า
เพิ่งได้ "เสื้อ" อัดฉีดจาก อาจารย์ขจิตมาครับ
เลยต้องทำงานให้ท่านหน่อย
เดี๋ยวถูกหาว่าอยู่สบายๆ ไม่ยอมทำงาน (เขียน)
ขอบคุณครับ ที่มาเยี่ยมเยียนยามดึก
ชอบหนังสือเล่มนี้เหมือนกันครับ อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจในการดูลคนไข้ และการสอน รวมทั้งการใช้ชีวิตด้วยครับ
จะว่าไป อาจารย์ขจิตท่านนี่จิตวิทยาสูงส่งมากนะครับ
เห็นผมห่างหายไปนาน ไม่ยอมกลับมาซะที
เลยเอาเสื้อยืด g2k มาให้
ได้มาก็เลยทำให้ผมรู้สึกละอายใจ
ว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้วเรา
ต้องทำอะไรซักอย่าง
เลยออกมาเป็นบันทึกนี้ครับ
และอีกอย่าง วันนี้
ผมพึ่งมอบหนังสือเล่มนี้ให้กับ
ผอ.ธีระวัธน์ แห่งชำฆ้อพิทยาคมไป
ด้วยพิจารณาดูแล้วว่า
หนังสือเล่มนี้ อยู่กับผมต่อไปก็คงหาประโยชน์อันใดไม่
ส่งต่อให้กับผู้ที่คู่ควรกันจะดีกว่า
เลยทำบันทึกนี้ขึ้นมา
เพื่อแสดงความระลึกถึงหนังสือเล่มนี้
และเก็บความประทับใจดีๆ ไว้ใน "ซวง" ตลอดไปครับ
สวัสดีครับ คุณ วัชรพงษ์
เห็นด้วยทุกประการครับ
เพราะปรัชญาปลายิ้ม นั้นใช้ได้กับการดำเนินชีวิตในทุกๆ เรื่อง
ขอบคุณครับสำหรับความเห็น
เพิ่งเคยเห็นฉบับแปลครับ ท่าน ผอ คงชอบครับ บังวอญ่า ฝากคิดถึงมาครับ
สวัสดีค่ะคุณซวง คอดถึงและประทับใจเช่นเดิมค่ะ
ขอบคุณครับ พี่แดงสำหรับดอกไม้สวยๆ
ยังระลึกถึงพี่เสมอนะครับ