จากการได้เข้าร่วม workshop ในหัวข้อ "เมื่อรายการเด็ก....คิดเล็กไม่ได้" ทำให้ได้พบประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องของพัฒนาการทางด้านสมองของเด็ก คือ การค้นพบ mirror neuron เป็นกลุ่มของเส้นประสาทในสมอง ที่ทำหน้าที่จำลองสัญญาณประสาทของคนที่ได้เคลื่อนไหวหรือแสดงออกความรู้สึกใดๆออกมา ให้มาอยู่ในสมองของเรา ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตทันที โดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ เพิ่มเติม โดยสิ่งที่สมองของเราสังเกตได้ จะเข้ามาอยู่ในตัวเราโดยอัตโนมัติ เพราะการทำงานของเส้นประสาทนี้ต่อโดยตรงไปยังเส้นประสาทอื่นๆที่ควบคุมระบบภายในร่างกายและต่อไปยังสมองส่วนกลาง (limbic system) ที่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึก
การค้นพบนี้ก็เป็นการแสดงว่าการเรียนรู้ของคนเรานั้นเปิดกว้างตลอดเวลาและตื่นตัวเสมอ (active) ไม่ใช่ว่าประสบการณ์ การเรียนรู้ อยู่กับที่ให้เราไปหาอย่างเดียว (passive)
สำหรับในเด็กปฐมวัยนั้นจะมีจำนวนของ mirror neuron ที่มากกว่า ผู้ใหญ่ถึง 20 เท่า เพราะในช่วงอายุนี้สมองของเด็กจะทำงานได้มี มีการเชื่อมต่อของ synapse ได้รวดเร็ว ทำให้เด็กเล็กสามารถถูกกระตุ้นได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าผู้ปกครองปล่อยให้เด็กนั่งดูการ์ตูนหน้าทีวีตามลำพัง เด็กก็จะจำภาพโฆษณาขนม จำภาพของละครในฉากต่างๆที่มีความรุนแรง จริงอยู่ที่เด็กปฐมวัยสามารถเรียนรู้ได้ดีผ่านจินตนาการ แต่ต้องตระหนักว่าเด็กเล็กยังไม่สามารถแยกแยะโลกสมมติกับโลกของความจริงได้ เพราะฉะนั้นเด็กก็จะจดจำภาพที่พบเห็นโดยผ่านการทำงานของ mirror neuron ทำให้เกิดพฤติกรรมการ “เลียนแบบ” หรือ “สะท้อนภาพ” พฤติกรรมออกมา
เพราะฉะนั้นในการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ ควรจะส่งเสริมพัฒนาการทางสมองของเด็ก โดยพยายามเชื่อมโยง sensory ต่างๆให้มีการเรียนรู้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรกระตุ้นพัฒนาการเพียงแค่สมองซีกใดซีกหนึ่งแต่ควรกระตุ้นสมองส่วนหน้า( prefrontal ) ได้มีการพัฒนาด้วย
ท้ายนี้อยากฝากแนวทางในการสร้างสรรค์งานสื่อเพื่อกระตุ้นและพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กทุกๆวัย โดยรศ.ดร.สายฤดี วรกิจโภคาทร ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวทิ้งท้ายในพิธีเปิดการอบรมไว้ ดังนี้
1. Learning to know
2. Learning to do
3. Learning to live with other
4. Learning to be
ไม่มีความเห็น